เวลา กระดาษ เปื้อนสีเทา

              จากการที่คนคนนึง ไม่รู้ว่าจะเริ่มขีดเขียนอะไรให้กระดาษอันว่างเปล่า เปรอะเปื้อนไปด้วยสีเทาบางเบา จากไส้ดินสอทู่ๆแท่งสีน้ำเงินแท่งโปรดของเขา ด้วยภายในหัวใจอันอ่อนไหวกับชีวิต ตลอดการเดินทางผ่านวันคืนหลากหลายอารมณ์ ด้วยคำถามที่ยังเป็นปริศนามากมายภาย ในหัวสมองที่ครุ่นคิดล่องลอยไปอย่างคนฟุ้งซ่าน เพื่อควานหาเป้าหมายแห่งความฝัน ที่ที่เขาเชื่อมั่นว่าสักวันหนึ่งต้องเดินไปถึง แม้มันจะเลือนลางเท่าใดก็ตาม ยิ่งคิด ยิ่งฝัน ยิ่งหมั่นเดินทาง หัวใจของเขาก็ยิ่งสั่นระทึก ระบำอย่างไม่เป็นจังหวะ  เหมือนเด็กที่กำลังแกะกล่องของเล่นชิ้นใหม่ ที่วางอยู่ตรงหน้า ในงานวันเกิดที่ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ลมหายใจผ่านเข้าออกโพรงจมูก รวดเร็ว รุนแรง ราวกับไต้ฝุ่นโบกพัดกระหน่ำ ในท้องมวนๆ เป็นระยะราวกับมีผีเสื้อฝูงใหญ่ ว่ายวนอยู่หนาแน่น ตามจังหวะระบำของหัวใจ หรือนี่จะเป็นอาการตกหลุมรักในความฝัน เช่นเดียวกับการที่ได้พบคนคนหนึ่ง ผู้ที่เขาสามารถสัมผัสได้ว่า นั่นคือผู้ร่วมทางแห่งชีวิต แม้ว่าตอนนี้ ข้างกายเขาจะว่างเปล่าไร้คู่เคียงก็ตาม

 

            อาจจะเป็นเพราะความไม่ช่างพูดเจรจาเล่าปัญหาให้ใครฟัง ทำให้เขาต้องระบายความรู้สึกที่มีอยู่เต็มหัวสมอง พร้อมหัวใจ ทะลักล้นปลดปล่อยมันออกมาทางอักขระอักษร อันเป็นเอกลักษณ์ของชาติพันธุ์ไทย เผื่อมีใครมาเห็นเข้าจะได้เข้าใจ ในสิ่งที่เขาร้องตะโกน ผ่านห้องอันมืดมิด ที่มีแสงสว่างอยู่ริบหรี่

 

            ห้องที่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีระเบียงและห้องน้ำในตัว อากาศถ่ายเทไม่ดีนัก แสงแดดสาดส่องไม่เคยถึง แม้ในคืนนี้ฝนตกไม่เบาเลย แต่ความสดชื่นเปียกชื้นไม่อาจรุกล้ำเข้ามาได้ เขาได้แต่เงี่ยหูฟังเสียงสายฝนกระทบหลังคาหรืออะไรก็ตามแต่ที่อยู่ใต้ผืนฟ้าผืนนี้ ให้ความสุนทรีไปกับความเหงาเปล่าเปลี่ยวอันชินชาไปเสียแล้ว ทันใดเสียงครวญครางจากฟากฟ้าร้องเตือนว่า “อย่าเหงาจนเกินไป หาอะไรตื่นตาตื่นใจยัดใส่ชีวิตบ้าง” เขาไม่รอช้า รื้อหาหนังสือกองพนาที่ยังไม่มีเวลาได้อ่านจบ บนโต๊ะไม้สีน้ำตาลตัวเดิม เปิดอ่านนิตยสารเล่มโปรดที่คุ้นเคย ที่ที่เป็นแหล่งอาหารของความฝัน ความคิด จินตนาการ ช่วยเสริมสร้างแรงบันดาลใจ ผลักดันให้ชีวิตมีโอกาสเดินทางไกล อาจไปท่องจักรวาลเลยทีเดียว แต่เมื่อเหลียวมองกาลเวลาที่นิตยสารถือกำเนิด เขาถึงขั้นตกใจไม่น้อย พร้อมทั้งคำถามผุดขึ้นในหัวสมองมากมายนับไม่ถ้วน “เล่มนี้ อายุเจ้า ๙ เดือน แล้วหรือนี่” คือใจความสำคัญของคำถามทั้งหมด แต่อารมณ์และความรู้สึกในหัวใจนี่สิ มันว้าวุ่นกว่าคำถามมากมายเป็นไหนๆ ความรู้สึกที่ว่า “เวลาช่างผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน จนไม่ทันได้ทำอะไร” ทำให้อารมณ์ยิ่งอ่อนไหว แต่ก็หยุดให้หัวสมองคิดไม่ได้ว่า “หรือเป็นเพราะโลกใบนี้หมุนเร็วเกินไปกันแน่”

 

            เมื่อความรู้สึกผสมคลุกเคล้ากับความคิดที่น่าค้นหา เขาได้หันกลับมามองตัวเองอีกครั้งหนึ่งว่า “วินาทีนี้เขาทำอะไรอยู่...ที่ผ่านมาเขาทำเวลาทุกวินาทีให้คุ้มค่าแค่ไหน...แล้ววินาทีต่อไปเขาจะทำอะไร” ทำให้รู้ว่า “เขาจะเขียนอะไรลงไปในกระดาษอันว่างเปล่า...แผ่นนี้”

 

 

พิทักษ์  ทองนวน

๙ ต.ค.๕๔  ๒๐.๕๓ น.

Views: 87

Comment

You need to be a member of PORTFOLIOS*NET to add comments!

Join PORTFOLIOS*NET

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service