Time: April 1, 2017 to May 20, 2017
Location: Gallery VER
City/Town: Bangkok
Website or Map: http://vergallery.com
Phone: 02 103 4067, 080 580 2513
Event Type: art, exhibition
Organized By: NEWS PORTFOLIOS*NET
Latest Activity: Apr 9, 2017
(*) For English please scroll down
อยากกลับไป แต่ใจอยากกลับมา
by ยิ่งยศ เย็นอาคาร , ธนภณ อินทร์ทอง
ที่ แกลอรี่ เว่อร์ (โปรเจ็ค รูม)
1st April - 20th May, 2017
Opening 1st April, 2017 6 pm.
Facts:
1. ประชากรโลกปัจจุบันเป็นผู้อพยพ (migrants) กว่า 240 ล้านคน ณ ปี 20151
2. ในปี 2016 แรงงานไทยในต่างประเทศส่งเงินกลับไทย 112,997 ล้านบาท2
3. แรงงานไทยในต่างประเทศที่ทํางานแบบถูกระบบอยู่ไต้หวันเยอะที่สุด และทํางานในระบบโรงงานอุตสาหกรรมเยอะที่สุด3
4. ภายใน 5 เดือนแรกของปี 2016 แรงงานไทยในไต้หวันส่งเงินกลับประเทศ 3.6 หมื่นล้านบาท4
อยากกลับไปแต่ใจกลับมา
วัตถุศิลปะขนาดเล็กที่ประกอบกันเป็นนิทรรศการ อยากกลับไปแต่ใจกลับมา นี้ฟังก์ชั่นเป็นตัวแทนของข้อมูล และเป็นผลลัพธ์จากการที่สองศิลปินธนภณ อินทร์ทอง และ ยิ่งยศ เย็นอาคาร ไปเข้าร่วมโครงการศิลปินในพํานักชื่อ Taichung ASEAN Square Cultural Exchange Projectร่วมมือกับ 1095 Culture Studio และไปอยู่ประเทศไต้หวันครั้งแรกเป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งพวกเขาได้ไปคลุกคลีสนิทชิดเชื้อกับสังคมผู้อพยพแรงงานไทยในไต้หวัน ที่เมืองไถจงเมืองเหมี่ยวลี่และ ชุมชนตงไห่
ทั้งสองใช้การสังเกต การเจรจา และการเข้าอกเข้าใจเพื่อนมนุษย์เป็นเทคนิคหลักทางศิลปะ และได้ร่วมชีวิตประจําวันกับแรงงานไทยในไต้หวัน
ตั้งแต่ร่วมตั้งวงดื่มเบียร์ลีโอ ไปเยี่ยมที่ห้องพักและโรงงาน ไปจนร่วมตกปลาและเก็บหน่อไม้ในวันหยุดได้รับรู้ถึงสังคมแรงงานไทยในต่างแดนที่ไม่เคยได้รู้จักมาก่อน จึงต้องการถ่ายทอดชีวิตและเรื่องราวของแต่ละคนที่ได้เจอ ศิลปินรวบรวมวัตถุเหลือใช้(found objects) ที่เก็บได้จากเมืองไถจง โดยวัสดุเหล่านี้เองก็มักมาจากส่วนประกอบของการก่อสร้างเมือง เช่น ซากกระเบื้องจากสถานีรถไฟ
วัตถุที่เก็บได้จากพื้นถนนธรรมดาถูกนํามาจัดวาง วาด และประดิษฐ์ขึ้นใหม่
กลายเป็นวัตถุศิลปะที่เป็นทั้งโมเดลตัวแทนเรื่องราวของชีวิตของพี่ๆแต่ละคน และในขณะเดียวกันก็คล้ายกับการเป็นของที่ระลึก (memento/relics)ที่มีคุณค่าต่อจิตใจ การติดตั้งผลงานกึ่งๆเสนอว่าวัตถุนี้เป็นคอลเลคชั่นความทรงจําและขนาดที่เล็กของวัตถุสุ่มเหล่านี้ยังบ่งบอกถึงความเป็นไปได้หลายอย่าง ทั้งเรื่องความเป็นส่วนตัว ตําแหน่งในสังคมหรือแม้แต่ความสะดวกสบายต่อการเคลื่อนย้ายและการอพยพ
แม้ว่าผลงานเหล่านี้เคยถูกจัดแสดงแล้วในนิทรรศการที่มีชื่อเดียวกันที่ไต้หวันแต่การนํากลับมาแสดงที่ประเทศไทยถือว่าเป็นการต่อเนื่องกระบวนการที่ยังไม่สิ้นสุดจากไต้หวันให้เสร็จด้วยเป็นการนําเรื่องราวเฉพาะบุคคลที่เกือบสูญหายกึ่งหลงทางไปด้วยความห่างไกลให้ข้ามน้ําข้ามทะเลกลับบ้านเสียที(แทนที่จะเป็นการส่งเงินกลับบ้านตามปกติของแรงงานไทยในต่างแดน)
สุดท้ายแล้วนิทรรศการนี้นอกจากจะชักนําให้เราเห็นรายละเอียดยิบย่อยของชีวิตประจําวันของกลุ่มแรงงานไทยในต่างแดนที่คนที่ “บ้าน”อาจจะลืมมองไป
ยังเป็นการถ่ายทอดความเป็นมนุษย์ผสมไฮบริดทางวัฒนธรรมของผู้อพยพในสังคมโลกาภิวัฒน์ที่นับวันจะยิ่งเหมือนของเหลวโอนย้ายไหลง่ายได้เป็นอย่างดีเรื่องราวของพี่ๆแรงงานไทยแสดงให้เห็นสภาวะระหว่างกลาง (in-between state) –การอยู่ในทั้งสองขั้วของวัฒนธรรมไทย-ไต้หวัน หรือไม่ใช่ทั้งสอง
แต่เป็นการสังเคราะห์วัฒนธรรมขึ้นใหม่ตามเหตุการณ์พาไป
ทั้งหมดนี้แล้วสําหรับมนุษย์ปัจจุบันอาจกลายเป็นสิ่งที่ธรรมดายิ่งขึ้นๆ โดยเฉพาะในยุคที่อัตราการย้ายถิ่นฐานเพื่ออาชีพเพิ่มอย่างรวดเร็วและงานของสองศิลปินก็ราวกับตั้งคําถามว่าหากคนคนหนึ่งไม่ได้อยู่กับที่แล้วจะใช้บรรทัดฐานใดวัดความเป็นคนของพื้นที่นั้นๆ
และการข้ามเส้นแบ่งพรมแดนทางการเมืองได้กําหนดชีวิตคนอย่างไรบ้าง
ดังนั้นคําที่พี่หนูกล่าว “ถึงจะอยู่ที่ไหนก็ยังเป็นคน” ก็อาจถือได้ว่าเป็นคําวิจารณ์คําร้อง คําสะท้อน และยังเป็นคําประกาศอย่างภาคภูมิใจ
ต่อป้ายช่ฎอคําว่า “แรงงานไทยในต่างแดน” ซึ่งบ่งบอกสภาวะที่น่าสับสนทางตัวตนและจิตใจของมนุษย์ทํางานยุคโลกาภิวัฒน์
ที่จริงใจที่สุดอันหนึ่งก็เป็นได้
-พอใจ อัครธนกุล
© 2009-2025 PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.
Powered by
RSVP for นิทรรศการ "อยากกลับไป แต่ใจอยากกลับมา" to add comments!
Join PORTFOLIOS*NET