"Not a compact. Not a SLR. It’s a PEN"
เมื่อกล้องไม่ได้เป็นเพียงกล้อง
เเต่มันเป็นมากกว่าที่คุณคิด
แคมเปญ The pen story ที่ออกมาในปี 2009 เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ของกล้องซีรีส์ PEN ที่มีตั้งแต่ปี 1956 นับได้ว่ากล้องของ Olympus รุ่นนี้เก็บภาพความทรงจำมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าจนมาถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นความผูกพันที่มีมานาน
“Not a compact. Not a SLR. It’s a PEN” เป็นก็อปปี้ที่บอกว่า สิ่งที่อยู่ในมือคุณนั้นไม่ใช่สิ่งของ ไม่ใช่กล้อง แต่มันเป็น PEN เป็นมากกว่าวัตถุที่คุณเห็นในมือ
การถ่ายทอดเรื่องราวของโฆษณาแคมเปญนี้ใช้วิธี Stop Motion นั้นคือการนำภาพภ่ายมาบันทึกด้วยกล้องถ่ายรูปถ่ายรูปที่ละรูปทำเป็นไฟล์ตามด้วยการผ่านกระบวนการตัดต่อ เรียงแต่ละเฟรมเข้าด้วยกัน หรืออาจใช้กล้องวีดีโอในระยะเวลา 1-3 วินาที ก่อนจะถ่ายเฟรมต่อไป ถ้าให้คิดภาพง่ายๆ ก็เหมือนการทำการ์ตูนที่เป็นการวาดรูปหลายๆ รูปแล้วนำมาเปิดเร็วๆ จนเกิดการเคลื่อนไหว การเล่าเรื่องของแคมเปญ The pen story
การทำ Stop motion ของ The pen storyจากใช้ภาพถ่ายตั้งแต่ 50 ปีที่แล้วเป็นการเล่าเรื่องที่ดึงให้น่าสนใจ อีกทั้ง แบล็คกราวน์เป็นบ้านของคนที่เป็นไม้ตามด้วยการเปลี่ยนเเปลงตามเวลาในสถานที่ต่างๆ ทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่น ใกล้ชิด การวางภาพแต่ละเฟรมมีความต่อเนื่อง ที่น่าสนใจอีกอย่างคือการที่นำภาพถ่ายมาตั้งรอบๆ เหมือนเป็นสถานที่จริง ลักษณะ 3 มิติ ลูกเล่นนี้ชวนให้คนดูนั้นไม่รู้สึกเบื่อและบางคนอาจยังคิดในหัวด้วยว่า “คิดได้ยังไง”
องค์ประกอบต่างๆ จากรูปภาพประมาณ 60,000 ใบที่เล่าเรื่องตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่า การเดินทาง การใช้ชีวิต มาพร้อมกับเสียงเพลงที่เข้ากับภาพที่ออกมา ทำให้เรื่องราวดูมีเสน่ห์น่าติดตามเป็นการย้ำให้เห็นว่ากล้องซีรีส์ PEN เป็นมากกว่ากล้อง มันคือเรื่องราวหรือสมุดบันทึกที่ไม่มีตัวอักษร แต่เป็นภาพที่ทำให้เราย้อนไปถึงอดีตได้ และมันก็ยังทำหน้าที่นี้ต่อไป
อีกทั้งเทคนิค Stop Motion นี้ถือได้ว่าต้องใช้ความละเอียดและการคิดในการเล่าเรื่องที่เตรียมพร้อมมาอย่างดี จนทำให้เกิดเรื่องราว แต่คิดในอีกมุม มันก็เป็นอีกวิธีการทำภาพยนตร์ให้เกิดขึ้นมาได้ ด้วยทุนที่ไม่ต้องมาก คนเพียงหนึ่งคนก็สามารถทำภาพยนตร์สั้นๆ ให้เกิดขึ้นได้ ถึงแม้จะไม่มีนักแสดงสักคนก็ตาม
ใครที่สนใจวิธีนี้อาจนำตุ๊กตา หุ่นยนต์ รูปปั้น สิ่งของต่างๆ มาทำเป็นตัวละคร หรืออาจสร้างขึ้นมาเองเช่นดินน้ำมัน นำมาปั้น ถ่ายด้วยเทคนิคที่แต่งละคนถนัด ใส่เพลง เสียงพากย์หรือคำบรรยาย เพียงเท่านี้ก็ไม่ยากที่จะสร้างเรื่องเล่าอย่าง Pen Story ที่เป็นของคุณเอง...
[ via: theinspirationroom ]
Comment
ขอบคุณครับ ^^
ขออนุญาตเเนะนำเพิ่มเติมเเล้วกันนะคะ ถ้าอยากให้มีการเคลื่อนไหวเพิ่ม หรือดูมีการเคลื่อนไหว ช่วงต่อสู้ อาจใช้การpan
เหมือนมีการเคลื่อนที่ของหุ่นยนต์ เเทนการเอาหุ่นยนต์เคลื่อนที่
หรือช่วงเเรกคล้ายๆ การ Zoom in ไปภาพใกล้ ตัวหุ่นยนต์ต่างๆ อาจเพิ่มการpan เเล้วมาหยุดที่วัตถุสักครู่ก่อนpan ออกไป เพิ่มเสียง effect เข้าไปในช่วงนี้ ตามด้วยการตัดสลับอาจเพิ่มความตื่นเต้นได้มากขึ้นค่ะ
อาจไม่ต้องถ่ายใหม่นะคะ ใช้เทคนิดตัดต่อมีช่วยในเรื่องpan ได้
อันนี้ลองเเนะนำดูนะคะ
จุดเสีย ไม่รู้จะเเนะนำยังไงเหมือนกันค่ะ เพราะอาจมองต่างกัน ในเรื่องความพอใจในการนำเสนอของเเต่ละคน
จริงๆ ก็ไม่ถนัดติชมเท่าไหร่ รู้เเค่ว่าดูเเล้วชอบไม่ชอบ เเละรู้สึกยังไงเท่านั้นเองค่ะ
คงเเนะนำได้เรื่องความเป็นตัวของตัวเองกับเอกลักษณ์ในหนังที่อยากให้หาต่อไปว่าเป็นยังไง
เพราะถ้าทำไปเรื่อยๆ อาจพบเลยว่าสไตล์หรือเเนวที่ชอบ จะออกมาในงานเลยค่ะ เเบบว่าดูเเค่ไม่กี่ shot ก็รู้เลยว่า
ใครเป็นคนกำกับ หรือคนทำ
รอดูตัวเต็มด้วยค่ะ เอาใจช่วยจริงๆ ค่ะ
ยินดีมากๆ เลยค่ะ
เป็นกำลังใจให้ผลิตงานออกมาให้ชมนะคะ
ขอบคุณมากครับถึงเป็นกำลังใจที่ดีครับ ยังไงช่วยแนะนำด้วยนะครับ
ชอบเทคนิคในการจัดเเสง ทำให้ดูลึกลับ เเละอยากรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะเป็นยังไงค่ะ ตอนดูก็นั่งคิดว่า เอ...ทำยังไงนะ จัดเเสงสวยดีจัง อันนี้ใช้การซ้อนภาพด้วยหรือเปล่าค่ะ
เป็น Stop motion เท่ดีค่ะ ชอบมากๆ โดยเฉพาะการ ใช้มุมกล้องที่เปลี่ยนมุมภาพหลายๆ เเบบทั้ง Zoom in ตามส่วนต่างๆ ของ หุ่น ช่วยเน้นอารมณ์ได้มากเลยค่ะ ที่ชอบคือเปลี่ยนมุมกล้อง เเบบ Arc right หรือที่เป็นการถ่ายเเบบครึ่งวงกลมตอนที่ประทะกันเท่มาก ไว้จะติดตามผลงานอีกนะคะ ^____^
ขอบคุณที่ทำStop Motion เท่ๆ เเบบนี้มาให้ดูนะคะ เอาใจช่วยในงานชิ้นต่อไปค่ะ
© 2009-2024 PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE. Powered by
You need to be a member of PORTFOLIOS*NET to add comments!
Join PORTFOLIOS*NET