เมื่อทริปล่าสุดมาถึง ในที่สุดเราก็ได้มีโอกาสได้ยลโฉมสนามบินดอนเมืองโฉมใหม่ซะที ซึ่งโดยรวมแล้วก็สมกับที่รอคอย เพราะหลังจากผ่านการบูรณะครั้งใหญ่ก่อนเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนตุลาคม สนามบินดอนเมืองดูเรี่ยมเร้และคึกคักมากกว่าเดิมเยอะ

และไหนๆก็ไหนๆแล้ว ขอแวบเข้าไปดูห้องน้ำใหม่ที่เป็นที่ฮือฮาอยู่ในโลกออนไลน์สักหน่อย ได้ข่าวว่าไฮโซยิ่งนัก เดินผ่านจุดตรวจกระเป๋าเข้ามาถึงตรงร้าน Starbucks ก็เจอเลย ดูภายนอกแล้วไม่ค่อยเหมือนกับห้องน้ำสักเท่าไหร่ แต่เห็นป้าย COTTO for AOT แล้วคิดว่าน่าจะใช่แล้วล่ะมั้ง

สำหรับห้องน้ำโฉมใหม่โดย COTTO ที่มีให้บริการ 2 จุด (บริเวณส่วน terminal ในประเทศ และ terminal ระหว่างประเทศ) นี้เกิดจากการร่วมมือกันระหว่าง COTTO และบริษัทท่าอากาศยานไทยหรือ AOT ที่แว่วๆมาว่าใช้งบประมาณถึง 15 ล้านบาทในการเนรมิตห้องน้ำสุดหรูนี้ขึ้น ซึ่งเมื่อได้เข้าไปดูแล้วก็นับว่าสมราคาทีเดียว เพราะ COTTO ได้คัดสรรแต่วัสดุและเทคโนโลยีระดับ "เทพ" มาใช้ในการทำห้องน้ำชุดนี้ ไม่ว่าจะเป็น

-กระเบื้อง LAMINAM By COTTO กระเบื้องที่มีความบางที่สุดในโลก (3.5 ม.ม.) ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตสุดล้ำทำให้มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่กระเบื้องจะผลิตได้

-กระเบื้องโมเสกผิวเคลื่อบทองคำ 24k และผิวเคลือบเงินที่นอกจากทนทานแล้วยังเพิ่มความหรูหรา

-COTTO DIGITAL HyperBright นวัตกรรมล่าสุดที่ทำให้พิมพ์ภาพระดับความละเอียดสูงลงบนกระจกใสโดยที่ยังคงความคมชัดไว้ได้อย่างแจ่มสุดๆ (สำหรับงานนี้ COTTO เลือกช้ภาพธีม Bangkok...City of Life ซึ่งสะท้อนผ่านรูปภาพสถานที่ต่างๆในกรุงเทพฯ)

- กระเบื้อง COTTO Homogenious Tiles: The Touch Series กระเบื้องแผ่นใหญ่ที่เป็นเนื้อเดียวกันทั้งแผ่น นอกจากแข็งแรงแล้วยังมีผิวหยาบ ทำให้ไม่ลื่นล้มได้ง่าย

- สุขภัณฑ์รุ่น Munich II รุ่นประหยัดน้ำ 3.8 ลิตร เคลือบสาร Anti- Bacteria ดีไซน์แบบ Back To Wall เรียบชิดผนัง ช่วยเพิ่มความสวยงาม ทำความสะอาดง่าย ฝารองนั่งชนิด Soft Close ไร้เสียงรบกวน (สำหรับผู้ชายนั้น เห็นบอกว่าใช้ โถปัสสาวะรุ่น Waterford ที่มีระบบ Sensor แบบ Fuzzy Logic ปล่อยปริมาณน้ำได้ตามความถี่ของผู้ใช้งาน แถมยังมีระบบ Pre-Flush และเคลือบสาร Anti- Bacteria ด้วย) เสริมกำลังด้วยระบบฟลัชวาล์วเซ็นเซอร์ ที่แม้ไฟดับก็กดฟลัชได้

-ก๊อกน้ำ LED Faucet ที่เปิด-ปิดน้ำด้วยระบบเซ็นเซอร์อัตโนมัติ ใช้เทคโนโลยีแสงสีแบบ LED ที่ติดตั้งปลาย Spout แสงสีน้ำเงินโทนเย็นที่ออกมาพร้อมกับการไหลของน้ำช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย 

ส่วนทางด้านสุนทรียะและลูกเล่นมซึ่งเป็นจุดเด่นของ COTTO นั้น ห้องน้ำนี้ก็ยังเลือกจะเล่นกับประสามสัมผัสของมนุษย์เช่นเคย นอกจากด้านการมองเห็นแล้ว สุนทรียะด้านกลิ่นหอมยังเป็นอีกสิ่งที่รู้สึกได้ผ่านกลิ่นหอมที่สร้างความผ่อนคลายโดย THANN ในขณะที่ลูกเล่นนั้นก็โดดเด่นด้วย Video Wall ขนาดใหญ่ถึง 174 นิ้ว พร้อมทำงาน ในรูปแบบ Interactive Wall – Ambience ในคอนเซ็ปต์ Share the World Pleasure โดยไอเดียก็คือผนังสุดเก๋นี้จะเป็นเหมือนศูนย์กลางในการแชร์ประสบการณ์ความสุขจากทั่วโลก โดยเซ็นเซอร์จะทำให้ผู้ใช้นั้นไม่ต้องแตะผนัง แต่ก็ยังมีปฏิสัมพันธ์กับจอได้ นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถถ่ายรูปจากระบบได้โดยตรงหรือดาวน์โหลดภาพของตนเองจาก World Pleasure Wall ได้ที่ www.sharetheworldpleasure.com และที่สำคัญ ผนังนี้ยังเชื่อมต่อกับระบบออนไลน์ของ instagram, twitter และมีบริการ free wifi เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้บริการอีก เรียกว่าเล่นกันเพลินจนแทบจะตกเครื่องเลยทีเดียว (แว่วๆมาว่า COTTO ยังมีหมัดเด็ดเกี่ยวกับเจ้าผนังสุดมหัศจรรย์นี้เก็บไว้อีกหนึ่งดอก ซึ่งจะเป็นอะไรนั้นเราคงต้องรอดูกันต่อไป)

ดูแล้วนับว่าเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยยกระดับสนามบินดอนเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างน้อยที่สุดห้องน้ำสุดหรูนี่ก็กลายเป็น talk of the town ไปเรียบร้อยแล้ว

อย่าลืมนะ ไปดอนเมืองเมื่อไหร่ อย่าลืมไปลอง!