หนึ่งปีผ่านไป และแล้วก็ถึงเวลาที่มหกรรม Creativities Unfold โดยศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) หรือสุดยอดการชุมนุมทางความคิดสร้างสรรค์ครั้งใหญ่ประจำปีที่คนดีไซน์ทั่วประเทศต่างเฝ้ารอเวียนกลับมาอีกครั้ง และ Creativities Unfold 2012 ในปีนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเช่นเคย โดยเฉพาะในส่วนของ International Symposium ที่มีกูรูด้านการออกแบบระดับโลกมาบรรยายกันอย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็นนักออกแบบในตำนานอย่าง Dieter Rams  สถาปนิก Carlo Ratti ผู้สร้างชื่อจากอาคารน้ำดิจิตอล ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบบริการอย่าง Birgit Mager รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์และนวัตกรรมอย่าง Idris Mootee

แต่ที่เด็ดไปกว่านั้นคือ International Symposium ที่ว่ากลับมีคนไทยเข้าไปบรรยายกระทบไหล่กับสุดยอดคนดีไซน์จากต่างชาติด้วย และเขาคนนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น เขาคืออนุวัตร เฉลิมไชย แบรนด์ไดเร็กเตอร์คนแรกของ SCG ผู้ปลุกปั้นสร้างแบรนด์ COTTO ให้ก้าวไกลสู่ระดับโลกนั่นเอง

แม้จะอยู่ในฐานะนักธุรกิจเต็มตัว แต่หากจะหาคนไทยที่พูดเรื่องการผสมผสานดีไซน์เข้ากับธุรกิจได้อย่างสำเร็จผลแล้วก็คงต้องเป็นอนุวัตรคนนี้เท่านั้น เพราะเขานี้เองที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการพาแบรนด์ COTTO ที่เป็นแบรนด์กระเบื้องไทยเข้าสู่เวทีระดับอินเตอร์มาแล้ว

แม้ธุรกิจโลกจะหันเข้าหาดีไซน์มากขึ้น แต่ปัญหาหนึ่งที่พบอยู่ได้ทั่วไปในบริษัทที่จะผสมผสานดีไซน์เข้ากับสินค้าคือนักธุรกิจกับดีไซเนอร์มักจะทำงานร่วมกันได้อย่างไม่ค่อยมีประสิทธิภาพนัก เพราะนักธุรกิจมักจะไม่ชอบงานดีไซน์จ๋าเพราะทำออกมาแล้วมักจะขายได้ไม่ค่อยดีเนื่องจากไม่ตอบโจทย์ของผู้บริโภค ในขณะที่ดีไซเนอร์ก็อยากทำงานดีไซน์เจิดเพราะคิดว่าขึ้นชื่อว่างานสร้างสรรค์แล้ว ทำไมถึงต้องมีข้อกำจัดกันเล่า?

แล้วจะทำอย่างไรกันให้ออกแบบสินค้าให้ดูมีดีไซน์และขายดี ขายได้ด้วยทั้งในระดับท้องถิ่นและในตลาดต่างประเทศ? อนุวัตรก็ได้มาตอบบนเทวี Creativities Unfold 2012 นี้ว่าการทำเช่นนั้นได้ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ เห็นได้จาก COTTO เองก็ทำสำเร็จมาแล้ว

อย่างที่ทราบกันดีว่า COTTO เองก็เคยเป็นแบรนด์ระดับมวลชนมาก่อน แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งที่คิดว่าต้องเข้าสู่ตลาดโลกแล้ว COTTO จึงมุ่งปรับโฉมขนานใหญ่เพื่อให้ตัวแบรนด์โดดเด่นเหนือคู่แข่งและก้าวเข้าใกล้มาตรฐานอินเตอร์มากขึ้นด้วยการสร้างนวัตกรรม (innovate) ใหม่ของตัวเองทั้งในด้านดีไซน์และด้านเทคโนโลยีในด้านดีไซน์นั้น COTTO มุ่งเปลี่ยนตัวเองให้เป็น "trend-setter" ที่ไม่ได้วิ่งตามความต้องการของลูกค้า แต่ก้าวหน้าไปอีกขั้นด้วยการกำหนดเทรนด์ขึ้นมาเอง โดยมีผู้ถอดรหัสเทรนด์หรือ trend-decoders เป็นผู้ศึกษาเทรนด์โลก เข้าสัมมนาร่วมกับเทรนด์เซ็ตเตอร์จากประเทศอื่นๆและสรุปออกมาเป็นเทรนด์หลักประจำปีที่ทางแบรนด์จะนำมาวางแผนออกแบบผลิตภัณฑ์ต่อไป แต่ในขณะเดียวกันก็มุ่ง "จูน" ความต้องการของลูกค้าเข้ากับดีไซน์ที่ทางแบรนด์นำเสนอด้วยบริการให้คำปรึกษาด้านดีไซน์ (design consult) ผ่าน COTTO STUDIO ด้วย

ส่วนในด้านเทคโนโลยีนั้น ผลิตภัณฑ์กระเบื้อง สุขภัณฑ์ รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆของแบรนด์ถูกปรับเปลี่ยนให้มีลูกเล่นในด้านวัสดุ การใช้งานและการรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ผลที่ได้จึงเป็นแบรนด์ COTTO โฉมใหม่ที่ไฉไลกว่าเก่ามากขนาดได้บินไปเฉิดฉายอยู่ในงาน Milan Design Week 2012 มาแล้วเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ซึ่ง COTTO ก็ถือเป็นแบรนด์ไทยเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่มสินค้าวัสดุก่อสร้างที่ได้รับเลือกให้ร่วมแสดงผลงานในเวทีจัดแสดงสุดยอดผลงานออกแบบระดับโลกในครั้งนี้

และนอกจากการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆทางด้านดีไซน์และเทคโนโลยีแล้ว COTTO ยังร่วมสร้างสรรค์ (co-create) ผลงานกับพันธมิตรอื่นๆ ทั้งในประเทศอย่าง HARNN, Curated by Ek Thongprasert และต่างประเทศอย่าง Walt Disney และ g+ เพื่อผลิตผลงานในสเกลที่ใหญ่ขึ้น ลึกซึ้งยิ่งขึ้น หลากหลายยิ่งขึ้นและอินเตอร์มากขึ้นด้วย และแม้จะประสบความสำเร็จอย่างสวยงามในปัจจุบัน COTTO ก็ยังยืนยันที่จะก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดนิ่ง โดยสำหรับวันนี้ เป้าหมายของแบรนด์คือการเป็นผู้ผลิตที่มีความรับผิดชอบ(responsibility) ทั้งต่อผู้บริโภค ต่อสิ่งแวดล้อม ต่อธุรกิจและต่อตัวแบรนด์เอง

หลังการบรรยาย มีหลายคนตั้งคำถามว่าหากเป็นบริษัทเล็กๆ ที่ไม่มีเงินเยอะอย่าง SCG ล่ะ จะไปได้ไกลแบบนี้บ้างรึเปล่า อนุวัตรตอบว่าได้แน่นอนถ้าคิดจะทำ "ขอแค่คุณเริ่มจากไอเดียที่ใช่ หาให้เจอก่อนว่าเราเก่งเรื่อยไหนแล้วเอาเรื่องนั้นเป็นแกน เดี๋ยวโอกาสและเงินก็มาเองครับ" ช่างจบได้ตรงกับแนวคิดของ Crativities Unfold ปีนี้ที่ว่า “โอกาส…สร้างได้ด้วยการออกแบบ: นวัตกรรม กลยุทธ์ และธุรกิจ” พอดีเลยทีเดียว ฟังแล้วได้กำลังใจและแรงฮึดติดมือกลับบ้านไปด้วยอีกเป็นกระบุง

“ดีไซน์” กับ “ธุรกิจ” สองอย่างที่ต่างกันคนละขั้ว ใช่ว่าจะอยู่ด้วยกันไม่ได้เสมอไป

บางครั้ง การหยิบเอาสองอย่างที่ต่างกันคนละขั้วมารวมเข้าด้วยกันนี่ล่ะที่ทำให้เกิดผลงานสร้างสรรค์อันสมบูรณ์แบบ

และได้ฟังแล้ว เชื่อว่าเหล่าผู้ประกอบการรายย่อยคงมีกำลังใจในการพัฒนาแบรนด์ขึ้นมาบ้าง เพราะ COTTO ก็คือหนึ่งแบรนด์ระดับท้องถิ่นที่ได้แสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างแล้วว่าถ้าคิดจะโกอินเตอร์ก็ทำได้ ขอแค่คิดจะทำและลงมือทำจริงๆ 

-----------------------------

อนุวัตร เฉลิมไชย

     แบรนด์ไดเร็คเตอร์คนแรกของ เอสซีจี ผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างแบรนด์กระเบื้องและสุขภัณฑ์ “COTTO” ให้แข็งแกร่งในระดับ Global Brand จากการบุกตลาดมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก 

     อนุวัตร เฉลิมไชย นำประสบการณ์การทำตลาดจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลียและญี่ปุ่น ร่วมกับทีม COTTO Trendsetter ถอดรหัส Lifestyle Trend จนสามารถพัฒนา Trend Book ได้เป็นของตัวเอง ทำให้ Collection ต่างๆของ COTTO มีเอกลักษณ์ และสามารถตอบโจทย์ Lifestyle ที่แตกต่างของลูกค้าทั่วโลก 

     อนุวัตรมีประสบการณ์ในแวดวงการตลาดและการบริหารแบรนด์สินค้าทั้งในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกามาอย่างยาวนาน โดยก่อนหน้านี้เขาเคยดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาด และผู้จัดการการค้าต่างประเทศ ในบริษัทเซรามิคอุตสาหกรรมไทย จำกัด เป็นเวลา 7 ปี และเคยดำรงตำแหน่งสำคัญของบริษัทในสหรัฐอเมริกา ได้แก่ Vice President ของบริษัท Cementhai SCT (USA), Inc. และ Product Manager ในบริษัท Classic International Ceramic, Inc. (USA) 

     อนุวัตร จบการศึกษาระดับชั้นปริญญาตรีจากคณะวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และระดับปริญญาโทด้านการบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ อนุวัตรยังได้รับเลือกให้เป็นนายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทยคนปัจจุบัน

Photo Credit: Thunyaluck Quwajantranund