อากงสอนว่าอาม่าบอกไว้ ตอนที่6.2 และ 6.3( แบ่งตามThai writter club จ้า)

กลับมาสู่คำถาม รำคาญใจ ที่ว่า

แล้ว REACTION ของ แรงโน้มถ่วง ล่ะ

มันคืออะไรกัน ทำไมไม่เคยมีใครพูดถึง ??

พลังงานนี้ เทียบเท่ากัน กับ พลังที่ยึดดาวเคราะห์ต่างๆ ให้หมุนรอบดวงอาทิตย์

ให้ไม่หลุดออกจากวงโคจร ( นี่ขนาด มีค่าน้อยสุดใน 4 แรงบนโลกแล้วนะ )

หาก แรงโน้มถ่วงยึดให้เรา ต่ำติดดิน และกระทำต่อเราตลอดเวลา

พลัง REACTION ที่ยังไม่เคยมีใครตั้งชื่อนี้ อาจทำให้เรา บินสูงขึ้นสุดฟ้า

เพราะ 2 แรงนี้ สมดุลย์กันอยู่ เราก็เลย เดินดิน กินข้างแกง อยู่ทุกวี่วัน

พลังงาน ที่ไม่ธรรมดา และมีค่า อเนก อนันต์

ลองคิดกันเล่นๆ ดูสิว่า ...................................

แรงอะไรกันนะ ที่ทำให้ ดอกไม้เล็กๆ แตกยอด อ่อน โผล่พ้น ขึ้นจากพื้นผิวดิน...

แรงอะไรกันนะ ที่ทำให้ ลูกเจี๊ยบ เอาหัวเล็กๆ ผลัก เปลือกไข่ให้แยกออก

เพื่อลืมตา มาร้อง จิ๊บๆ...

แรงเดียวกันนี้หรือเปล่า

ที่ส่งพลังลุกขึ้นสู้ ให้กับวีรบุรุษ ในวินาที ไร้สิ้นหนทาง กระทั่งแลก

ด้วยชีวิต ก็ไม่คิดเสียดาย...

เป็นพลังเดียวกันนี้ใช่หรือไม่

ที่สร้าง ประกายในดวงตา ของเรา

ผลักดันเราให้ ดำเนินชีวิตต่อไปได้

ในโลก ที่ยากขึ้นทุกวัน

หรืออาจเป็น แรงที่ วิชา ฟิสิกส์ เคมี ไม่มีคำอธิบาย

มันคืออะไรกันนะ ?

ในช่วงขณะนั้น

ฉันเรียนอยู่ ชั้น ปี 2 หรือ 3 ก็จำไม่ได้

ของคณะวิศวกรรม เคมี ( ที่พลัดหลงเข้ามาใน Portfolio แห่งนี้ )

ปลายภาคมาเยือนไม่ทันตั้งตัวตามเคย

หนังสือ หนังหา ที่จะสอบ แทบไม่ได้อ่าน เพราะใส่ใจกับคำถามบางอย่างมากกว่า

ช่วงนั้น มีวิชาที่ น่ากลัว อยู่วิชาหนึ่ง

สมมุติว่า ชื่อ Transformers 2

ซึ่งป็น ภาคต่อ ของวิชา Transformers 1

หาก ได้ แค่ D+ ในวิชา Transformers 1 เช่นฉัน แล้ว

วิชาที่ต่อกันไป เป็น ภาค 2 ภาค 3 นั้น

แค่ ไม่ F ก็บุญโขแล้ว >*/span>

แต่ความแน่นอน ก็ตั้งอยู่บนความไม่แน่นอน อีกที

เกรด A วิชา Transformers 2 มีชื่อ ฉันขึ้นอยู่ด้วย

เนื่องจากว่า ภายในข้อสอบ นั้น

แทบจะไม่ได้ถามคำถามที่หาได้ใน Text ที่เรียนมาทั้งเทอมเลย

แต่ดัน บังเอิญ มีเรื่องที่เป็นคำถามค้างคาใจ ของฉันผสมอยู่ด้วย

ฉันตอบเพื่อนๆ ไปตามตรง ว่า " กรู อ่านหนังสือ ผิดเล่ม "

ย้อนกลับไป ช่วงที่จำเป็นต้องอ่านหนังสือสอบ วิชา Transfomers2 เสียที

หลังจากที่ฉันมัวแต่ค้นคว้า อีกคำถาม

ที่ไม่มีทางออกสอบ ( แต่สุดท้ายแล้ว มันออกมาโยงกันซะงั้น )

เมื่อเวลากระชั้นเข้ามา

ความกดดัน ก็ คูณ 2 เข้ามาด้วย

เทศกาล สอบ ทุกรอบ ฉันมักมานั่ง สงบจิตใจ ที่บ้านอากง อาม่า

และที่นั่งอ่านตำราประจำตัวก็คือ

บนชั้นลอย

ครั้งนี้ก็เช่นเคย ...

แต่อาการเครียด คงปิดเอาไว้ไม่อยู่ ( เวลานอน ไม่ยอมนอน / เวลากิน ไม่ยอมกิน )

เกือบเที่ยงคืน ของ วันที่ 2 ที่ คร่ำเคร่ง กับหนังสือ หนังหา

อากง ก็เดินผ่านมาที่หน้าโต๊ะ ที่เป็นทางผ่าน ไปเข้าห้องนอน

ท่านกล่าวลอยๆ ขึ้นว่า

" จ๊อนั๊ง อายโทยมิไก๊ ม๊ายโทย คะกึ๋ง "

( เกิดเป็นคน เวลาจะมองอะไร อย่ามองให้มันใกล้มากนัก )

ว่าแล้ว ก็เดินผ่านไปช้าๆ หน้านิ่งๆ ตามสไตล์...

อากง เอาอีกแล้ว

และฉันก็เพียงเข้าใจตามรูปประโยค ง่ายๆนั้น

อากงคงกลัวว่า ฉันจะสายตาสั้นกระมัง

แต่ เอ๊ะ! ฉันก็ออกจะมองตั้งห่าง

เวลานั้น ฉันก็เอะใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีเวลามาใคร่ครวญ อะไรมาก

จนผลสอบล่วงไปแล้วนั่นแหละ

มีอยู่วันหนึ่ง ฉันเล่นทายปัญหาเชาว์ กับเพื่อนที่ชื่อว่า นาย m

เพื่อน m : อะไรเอ่ย อยู่ใกล้ ตา ที่สุด แต่กลับมองไม่เห็น

ฉัน : " ยายที่ตายไปแล้ว "

เพื่อน m : ผิด

ฉัน : " ขนตา "

เพื่อน m : ผิด อันนี้ เราว่า เราเห็นนะ

ฉัน : จมูก/ คิ้ว /หู /ขอบตาล่าง

เพื่อน m : "จมูก " ถูกว่ะ

ฉัน : อ้าวววว

เพื่อน m : ก็เค้าเฉลย มาแบบนี้อะ

ฉัน : " อะไรมาอยู่ใกล้ๆ มันก็มองไม่เห็น ทั้งนั้นแหละ "

ว่าแล้ว ก็กางฝ่ามือ เล็กๆ ไปแปะหน้ามันๆ ของเพื่อน

" อย่างนี้ เอ๋ ตอบฝ่ามือ ก็ถูกเหมือนกันสิ "

บทสนทนา ยังคงยืดเยื้อต่อไป......

ในเย็นวันเดียวกันนั้น

เป็น วันที่ อากาศดี และ ลมแรง

เหมาะแก่การ ค่อยๆ เดินทอดน่อง กลับหอ ด้วยระยะทางไกล

เดินคิดอะไรไปเพลินๆ

คำพูดของอากง ก็ลอยขึ้นมาอีกครั้ง

" จะมองอะไรก็ตาม อย่างมองให้มันใกล้มากนัก "

เข้าใจแล้ว !!

อากง หมายถึง " การบริหาร ระยะห่างในชีวิต " นั่นเอง

กับเรื่องอะไรก็ตาม ที่เรายึดติดหมกมุ่น กับมันจนใกล้เกินไป

สายตาเรา ก็ไม่อาจมองเห็น ความจริงได้

กับเรื่องความรัก

คงเหมือนกับที่ ฉันเพียงต้องการ คนๆหนึ่ง มายืน อยู่ข้างๆกัน ในระยะที่มองเห็น

ไม่ใช่ เข้ามาครอบครอง พืนที่ภายใน จนมองไม่เห็นตัวเอง

กับเรื่องคำถามที่ค้างคาใจ ฉันมาโดยตลอด จนกลายเป็นงานวิจัย ขนาดย่อมๆ

นั้นก็เช่นเดียวกัน

REACTION ของ แรงโน้มถ่วง คืออะไรกันน่ะเหรอ

คำถามยัง คงทำหน้าที่ของมันต่อไป จนถึง วันเวลาปัจจุบัน

ที่ปลายนิ้วกำลังสัมผัสแป้นพิมพ์อยู่นี้

สิ่งที่ฉันแน่ใจคือ

คำตอบ นั้น เกินขอบเขต ของวิทยาศาสตร์ไปมากแล้ว

หลายครั้ง ที่ฉันพยายาม ให้นิยาม

แต่ก็ไม่สามารถ สรุปได้ ...

เพราะเป็นไปไม่ได้เลย ที่เงื่อนไขทางภาษา

จะใช้ได้ กับความรู้ ยิ่งใหญ่เช่นนี้

สิ่งนั้นก็คือ

" พลังแห่งปัจจุบันขณะ "

หรือ ที่เรียกกันว่า สติ / ปัญญา / ตัวรู้ / ลมปราณ

ก็ว่ากันไป

ย่อยไปกว่า อนุภาคที่เล็กที่สุด ที่วิทยาศาสตร์ เผยแพร่ในปัจจุบัน

นักวิทยาศาสตร์ ค้นไม่พบ

เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ได้ ถูกกำหนดไว้ ด้วยการพิสูจน์ อย่างหยาบโดยประสาทสัมผัสทั้ง 5

เหมือนกับเวลาที่เรามองเห็น เมล็ดพืช

ซึ่ง ศักยภาพ ก็คือ ไม้ใหญ่ทั้งต้น

นักวิทยาศาสตร์ อธิบายได้เพียงกระบวนการ แต่บอกไม่ได้ว่า เพราะอะไร

นั่นคือ สิ่ง ที่ละเอียดอ่อนยิ่ง

เมื่อไม่ล่วงรู้ ปัญญา ก็ไม่สามารถล่วงรู้ถึง ชีวิต

เพราะ ชีวิต ทุกชีวิตนั้น

เริ่มจากการที่ ตัวรู้ นั้นถูกปลุกให้ตื่น

ตัวรู้นั้น ก็คือ ปัญญา ของสรรพสิ่งนั่นเอง

ดังนั้นเราทุกคน ไม่ได้เกิดมาลอยๆ

แต่มีเบื้องหลั้งที่ มีพลังอันยิ่งใหญ่

เป็นพลังที่สะอาด บริสุทธิ์ ด้วยความปรารถนา ที่ดีงาม

และอยู่กับเรา เสมอมา ไม่ว่าขณะนี้ หรือขณะใดๆ ก็ตาม

เพียงแต่ สิ่งรายรอบ มันปกคลุมจิตใจ เราจนขุ่นมัวมากเกินไปเท่านั้นเอง

วางลง ให้ เป็น

แล้ว คงมองเห็น ในสักวัน

อย่างไรก็ตาม

นี่ก็เป็นเพียง เรื่องที่ถ่ายทอดจาก คนตัวเล็กๆ คนหนึ่งเท่านั้น

หาก ใครมี อะไร ที่คิดว่า มันยัง ไม่ใช่ ก็ขออภัย และ ขอคำชี้แนะ ด้วยนะคะ

^_____^



Read more: http://www.portfolios.net/group/writers/forum/topics/2988839:Topic:554190#ixzz0krV7uCMi



Read more: http://www.portfolios.net/group/writers/forum/topics/2988839:Topic:554121#ixzz0krUcSbyk

Views: 95

Comment

You need to be a member of PORTFOLIOS*NET to add comments!

Join PORTFOLIOS*NET

Comment by RAYNUN on April 12, 2010 at 12:47pm
ทำไม มาโพสต์ ในบล็อกแล้ว มันเว้นบรรทัด ไม่ได้ล่ะคะ -_-"

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service