ใต้แผนสังหาร
นพนั่งรถเมลล์ไปทำงานวันแรก นพเห็นรถมอเตอร์ไซค์ขี่ส่งดอกไม้แซงไป มองไปที่ตึกข้างทางเห็น
แต่สีแดง สีชมพู ของป้ายโฆษณาวันวาเลนไทน์ นพคิดถึงใครคนหนึ่ง นพเปิดมือถือขึ้นมาดูภาพใน
มือถือ นพกับชิชา นพกดดูภาพไปเรื่อยๆ

ในห้องผู้จัดการสาขา ธนาคารแห่งหนึ่ง รุจิราอ่านเมลล์ ภาพในจอคอมของรุจิรา ในเมลล์หัวข้อคุณ
คือคนออกกฎ รุจิราคลิกเข้าไปดู เป็นเวปไซท์ ของสถาบันแห่งหนึ่ง ทำเพื่อสร้างระบบการเมือง
แบบใหม่ ให้ประชาชนคนไทยทุกคนที่มีบัตรประชาชน สามารถออกเสียงสำหรับทุกเรื่องที่เป็น
ประโยชน์กับประชาชน ในเวป รุจิราเห็นรายชื่อโครงการก่อสร้างต่างๆ มากมาย รุจิราลองคลิกที่
สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งใหม่ เห็น ราคาตั้งของวัสดุก่อสร้างที่วางขายในจำนวนที่นำมาทำ
สะพาน เห็นราคาเสนอของผู้รับเหมาแต่ละบริษัท เห็นตัวเลขกำไรของแต่ละบริษัท และมีคำถามว่า
“ตัวคุณเองต้องการให้สร้างสะพานนี้หรือไม่ สร้างกับบริษัทไหน” รุจิราลองดูอีกหัวข้อ เห็นว่า
เกี่ยวกับกฏหมายที่จะออกใหม่ รุจิราอ่านข้อกฏหมาย แล้วมีคำถามว่า “ต้องการให้บังคับใช้
กฎหมายนี้ไหม หากต้องการแก้ไข จะแก้ให้เป็นแบบไหน” มีข้อความในกฏหมายให้เลือก และมีให้
ใส่ข้อความเอง และทางเวบจะรวมผลสำรวจทุกวันที่ 1 ของทุกเดือนเพื่อส่งให้รัฐบาลใช้ในการ
ตัดสินใจ รุจิราชอบมากๆ รุจิรากด Add Favorites และเอาชื่อเวบส่งต่อให้เพื่อนๆ รายชื่อเต็มไป
หมด รุจิราลุกไปเรียกลูกน้องมาดู รุจิราบอกนภาว่า “ถ้าต่อไปเป็นรัฐบาลแบบเวบนี้ ก็ไม่ต้องมี
นักการเมืองแล้ว ไม่มีคนโกงกิน ไม่มีใครฮั้วประมูล ทุกคนที่มีบัตรประชาชนต้องทำแบบสอบถาม
เดือนละครั้ง กฎหมายต่างๆ จะตรงใจประชาชนมากขึ้น โครงการต่างๆ ก็ต้องโปร่งใส เราต้องการ
ให้บริษัทไหนก่อสร้างก็ออกความเห็นได้เลย คนทำเวปเก่งจริงๆ อยากให้เป็นแบบนี้จริงๆ จัง” นภา
เห็นด้วย แล้วเดินออกไป

กิ๊บ นั่งชมนกชมไม้ในสวนแห่งหนึ่ง ขณะนั่งรอแฟนหนุ่ม ยอดแฟนหนุ่มในเครื่องแบบตำรวจเดินเข้า
มาส่งดอกไม้ให้กิ๊บ ยอดพูดคำหวานกับกิ๊บ “วันนี้กิ๊บสวยจัง” กิ๊บได้แต่ยิ้ม อายสะบัดปลาย
ผ้าเช็ดหน้า กิ๊บหอมดอกไม้ ยอดพูด “ผมขอหอมกิ๊บได้มั้ย” กิ๊บส่ายหน้าไม่ยอม บอกว่า “ไว้เจอกัน
คืนนี้นะ กิ๊บต้องไปทำงานแล้ว” กิ๊บเดินถือดอกไม้ที่ยอดให้ สวนทางกับเนยและปังที่เข้าไป
ถ่ายภาพในสวนกับชิชาช่างภาพที่เดินตามมา กิ๊บเดินไปทำงานร้านเสริมสวยข้างๆ ธนาคาร กิ๊บ
แวะกดเงินที่ตู้ ATM หน้าธนาคารแต่ตู้ปิด จึงเข้าไปในธนาคาร เขียนเบิกเงิน หยิบสมุดคู่ฝากใน
กระเป๋าสะพายมาดูเลขที่บัญชี แล้วเขียนลงไป กิ๊บเข้าแถวรอเบิกเงิน คนในแถวชมว่า “ดอกไม้สวย
จัง แฟนให้หรือ” กิ๊บยิ้มตอบ “ค่ะ”

ออมขี่รถจักรยานยนต์คู่ใจไปส่งดอกไม้ที่ธนาคาร บนถนนมีจักรยานยนต์อีกคันมาจอดติดไฟแดง
อยู่ใกล้กัน ทั้งคู่มาส่งดอกไม้ พอไฟเขียวทั้งคู่ขี่เข้าไปจอดรถหน้าธนาคาร ออมถือดอกไม้เข้าไปส่ง
ให้พนักงานคนหนึ่งที่บริการฝากถอนอยู่ ออมได้เห็นสีหน้าดีใจของพนักงานคนนั้น คนที่รอในแถว
ฝากถอนก็ปรบมือให้พนักงานคนนั้น เธอยิ้มอาย และกดโทรศัพท์ หาคนรัก แต่ไม่สามารถติดต่อได้
ในขณะนี้เธอจึงวางสายและทำงานต่อ ออมมองอีกคนหนึ่งที่มาส่งดอกไม้พร้อมออม เขาเดินแยก
เข้าไปส่งที่ห้องผู้จัดการสาขา ออมกำลังจะเดินออก รับโทรศัพท์จากร้านว่า “ส่งที่ธนาคารเสร็จแล้ว
ให้รีบกลับมาที่ร้าน ต้องไปส่งอีกที่หนึ่ง”

ในห้องผู้จัดการสาขา รุจิราพูดสายกับสามี สามียืนยันว่า “วันนี้ผมมีเซอร์ไพร์สให้คุณแน่นอน ผม
รักคุณมากนะ” สามีบอกรักรุจิราทางโทรศัพท์ แล้ววางสาย รุจิรามองไปหน้าประตูห้อง

หน้าห้องผู้จัดการสาขา โมพูด “มีดอกไม้มาส่งคุณรุจิราครับ” โมเด็กส่งดอกไม้เดินเข้าไปในห้องเอา
ช่อดอกไม้ไปมอบถึงมือรุจิรา รุจิราหน้าตาดีใจ โมคลายโบว์ที่ห่อดอกไม้ออกและจับปืนที่ซ่อนในช่อ
ดอกไม้จ่อหัวรุจิรา โมเอามือปิดปากรุจิรา บอกอย่าส่งเสียง โมเอาเทปกาวมาติดที่ปืนและคอของ
รุจิราเข้าด้วยกัน รุจิราตัวสั่น โมบอก “เตรียมไปเปิดตู้นิรภัย เรียกยามเข้ามาในห้อง อย่า
ตุกติก” รุจิราทำตาม รุจิราโทรบอก “ขอเชิญยามทุกคนที่ห้องผู้จัดการค่ะ” ยามทั้งสองให้เดินเข้ามา
ในห้อง “ดูนี่และวางปืนลง” โมพูด โมให้ยามดูปืนที่คอรุจิรา และพูด “ค่อยๆ ปลดเข็มขัดปืนลงพื้น
อย่างช้าๆ” ปอเพื่อนโจรของโมเดินเข้ามาในห้อง หยิบเข็มขัดปืน
ทั้งคู่มาใส่ไว้กับตัว ปอเอาเสื้อคลุมของยามมาสวมไว้และโยนให้โม โมสวมเสื้อคลุมทับอีกตัว

ปอเอาปืนมาดูกระสุน และหยิบกุญแจมือมาใส่ให้ยามทั้งคู่ไว้กับโต๊ะรุจิรา ปิดเทปกาวที่ปากทั้งคู่
โมสั่ง “พาผมไปห้องนิรภัย”

ปอเดินแยกไปที่ประตู เอากุญแจที่ได้จากยามล็อคประตูไว้ ไม่ให้ใครเข้าออก ปอประกาศว่า “นี่คือ
การปล้น ทุกคนสงบ” มีเสียงกรี๊ด ปอตะโกน “เงียบ” พร้อมทั้งเดินเอาปืนไปจ่อหัวคนที่เสียงดัง ปอ
สั่งให้ทุกคนหมอบลงกับพื้น ปอเอาสายรัดที่เตรียมมา รัดข้อมือข้อเท้าทุกคน และเอาเทปกาวปิด
ปากทีละคน ปอ เดินเก็บโทรศัพท์มือถือจากทุกคนในธนาคารมาใส่ถุงไว้ ปอถามคนหนึ่ง “เป็น
คู่รักกันหรือ” ปอมองหน้าที่ผู้ชาย “เป็นคู่รักกันหรือ” แล้วมองหน้าที่ผู้หญิง ผู้ชายส่ายหน้า ผู้หญิง
พยักหน้า “ตกลงว่าไม่ได้เป็นคู่รักใช่มั้ย” ปอเอาปืนจ่อหัวผู้ชาย “ไอ้พวกไม่รับผิดชอบ เป็นคู่รัก
กันมั้ย ตอบมา” ทั้งคู่พยักหน้าพร้อมกัน “แค่นี้ก็หมดเรื่อง เดี๋ยวจะมัดไว้ด้วยกัน จะได้ไม่เหงา” ปอ
เอาสายรัดมารัดให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน กอดกันไว้ วันวาเลนไทน์ทั้งที
ยอดโทรหากิ๊บ แต่ไม่มีใครรับสาย โทรศัพท์กิ๊บดังอยู่ในถุง ปอรำคาญจึงเปิดถุงมาถอดแบตออกทุก
เครื่อง และเดิน ไปหยิบหูโทรศัพท์ทุกเครื่องขึ้น รวมถึงเครื่องโทรสาร ยอดสงสัย จึงโทรไปถามที่ร้าน
เสริมสวยที่กิ๊บไปทำงาน คนที่ร้านบอกกิ๊บยังไม่เข้ามา ถามกลับว่ากิ๊บไม่ได้ไปกับยอดหรือ ยอด
บอกเพิ่งเจอกันเมื่อเช้า ทำไมยังไม่ถึงที่ทำงาน คนในร้านแซวเป็นห่วงกันขนาดนี้ ต้องรีบมาขอแล้ว
มั้งผู้หมวด ยอดวางสายไป นั่งอมยิ้ม

ป้าเก๋ดิ้น ปอเดินไปดู และเอาเทปที่ปิดปากออก ป้าเก๋บอกปอว่า “ป้าขอไปห้องน้ำหน่อยได้มั้ย คน
แก่อั้นได้ไม่นาน” ปอบอกว่า “เดี๋ยวพวกผมก็ไปแล้ว ถ้าจะฉี่ๆ ตรงนี้เลย ดูน่ากลัวดี ปล้นจนฉี่แตก”
ปอหัวเราะ ป้าเก๋บอก “ป้าปวดจริงๆ” ปอจึงเอาเทปกาวปิดปากป้าเก๋ไว้ดังเดิม “ใครเป็นอะไรอีกมั้ย
ถ้าไม่เป็นก็ดี เงียบๆ เดี๋ยวพวกผมก็ไปแล้ว แล้วจะดีเอง รับรองว่าพวกคุณต้องปลอดภัยทุกคน” ปอ
พูด

มีลูกค้าธนาคารเดินมาที่ประตู จะเปิดประตูแต่ประตูล็อค พยายามมองผ่านกระจกเข้าในธนาคาร
ปอหันไปเห็นจึงเดินไปไขประตูให้ลูกค้าเข้ามา ปอเอาปืนจี้ มัดมือเท้าด้วยสายรัดและเอามือถือ
ออกมาแกะแบตใส่ถุงไว้ และล็อคประตูดังเดิม ปอเขียนป้ายว่าคอมพิวเตอร์ขัดข้องเปิดอีกทีพรุ่งนี้
และติดไว้ที่หน้าประตู ปอลากทุกคนไว้หลังเคาท์เตอร์ ทำเหมือนธนาคารไม่มีคน

แมนลูกค้าที่จ้างส่งดอกไม้โทรถามคนที่ร้านดอกไม้ว่า “ดอกไม้ส่งถึงคนรักที่ธนาคารหรือยัง” คนที่
ร้านดอกไม้ดูนาฬิกา และตอบ “น่าจะถึงแล้วนะคะ แต่ทำไมเขายังไม่แจ้งคุณแมนหรือคะ”
“ยังครับ ผมโทรหาคนรักผมก็ไม่รับสาย โทรไปที่ธนาคารก็สายไม่ว่าง คุณลองโทรถามเด็กที่ส่ง
ดอกไม้ได้มั้ยครับ” “ได้ค่ะ เราจะลองติดต่อดู ถ้าคืบหน้าอย่างไรแล้วเราโทรกลับไปบอกนะคะ ใจ
เย็นๆ” คนที่ร้านดอกไม้โทรตามออม แต่มีเสียง “ไม่สามรถติดต่อได้ในขณะนี้” จึงโทรกลับไปบอก
แมนว่า “ดอกไม้น่าจะถึงแล้วค่ะ แต่ติดต่อไม่ได้ เครือข่ายอาจจะเต็มมั้งคะ ไม่ต้องกังวลไป” แมน
ฟังแล้วรู้สึกสบายใจ

ที่สวนหย่อมใกล้ๆกันนั้น เนยและปังกำลังโพสท่าให้ชิชาช่างภาพถ่ายภาพคู่รัก ทั้งคู่เดินถ่ายภาพ
ไปเรื่อยๆ ถึงมุมที่มองเห็นในธนาคาร ชิชาซูมเข้าไปเห็น โมถือปืนจ่อคอรุจิราแล้วเดินหายไป ชิชา
กดถ่ายภาพนั้นไว้ ปังถามว่า “ถ่ายภาพอะไร” ชิชาบอกว่า “มีการจี้ตัวประกันในธนาคาร”
ชิชาเอาภาพให้เนยดู ปังบอก “โอ้โหซูมได้ไกลขนาดนี้เชียว ว่าแต่ที่จ่อคอเค้าอยู่คือปืนจริงหรือ”
ชิชาบอก “น่าจะจริง ขอโทรบอกเพื่อนๆ ก่อนนะคะ” ชิชาโทรบอกนพเพื่อนที่เป็นนักข่าว ชิชาเล่าให้
นพฟัง นพบอก “ยังไม่ถึงที่ทำงานเลย วันนี้ต้องไปทำข่าวที่ศาล ชิชาห่างธนาคารไว้เดี๋ยวโดน
ลูกหลง เดี๋ยวนพจะโทรไปบอกหน่อยให้ไปทำข่าว ชิชาใจเย็นๆ”

นพกดโทรถึงหน่อยเพื่อนเรียนร่วมชั้น หน่อยเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ หน่อยรับสาย นพบอกสถานที่
ว่า “ชิชาเห็นมีเหตุจี้ตัวประกันที่ ธนาคารแห่งหนึ่ง ใกล้สวนลุม หน่อยจะไปทำข่าวมั้ย” นพถาม
หน่อยบอก “จะออกไปเดี๋ยวนี้ ขอบคุณมาก ฝากขอบคุณชิชาด้วย” นพบอกหน่อย “ระวังตัวด้วย”
หน่อยวางสายไป นพมองไปข้างทาง

รุจิราเปิดตู้นิรภัยให้โม โมเก็บเงินสดใส่ถุงขยะสีดำอย่างสบายใจ และรัดข้อมือข้อเท้าของรุจิราไว้ที่
หน้าห้องนิภัยนั้น ปอเดินมาถามโมว่า “เสร็จหรือยัง” โมบอก “เสร็จแล้ว” ทั้งคู่เดินออกไปเข้าห้อง
ของ รปภ. ปิดคอมที่เก็บภาพไว้และเอาฮาร์ดดีสออกมาจากเครื่องและแกะออกจนถึงภายในฮาร์
ดีสและทุบจนพัง ใส่ถุงขยะที่ใส่เงิน รีบเดินมาหน้าธนาคาร แล้วเอาถุงขยะใส่ไว้ใต้เบาะรถ ทั้งคู่รีบ
ขี่รถออกไป

หน่อยจอดรถข้างธนาคาร หน่อยเดินอย่างระวัง หน่อยเตรียมกล้องไว้ที่ข้างตัว หน่อยทำทีเดินผ่าน
หน้าธนาคาร หน่อยเอากล้องแอบถ่ายปอและโมขณะเอาถุงขยะใส่ใต้เบาะรถที่หน้าธนาคาร รถทั้ง
สองคันออกไปอย่างรวดเร็ว หน่อยถ่ายภาพปอและโมไว้ได้ พร้อมทั้งทะเบียนรถ ตำรวจวิ่งสวนเข้า
มาในธนาคาร รีบขึ้นไป หน่อยทักทายตำรวจและบอกว่า “ผมเป็นคนแจ้งไป” ตำรวจบอก “ระวังตัว
นะครับ ตามอยู่ห่างๆ” หน่อยเดินตามตำรวจขึ้นไปในธนาคาร หน่อยถ่ายภาพไปตลอดทาง

ตำรวจทั้งสองคนช่วยกันตัดสายรัดข้อมือข้อเท้าให้ทุกคน หน่อยถ่ายภาพไว้ ทุกขั้นตอน ตำรวจลอก
เทปกาวที่ปากรุจิรา รุจิราร้องไห้บอกว่า ไมีคนร้ายสองคนเพิ่งได้เงินออกไปเมื่อกี้” ตำรวจสอบถาม
เพิ่มเติม “คุณเห็นรูปร่างหน้าตาของคนร้ายมั้ย” รุจิราบอกว่า “เขาแต่งตัวเหมือนเด็กส่งดอกไม้
ผิวสีเข้ม” รุจิราหน้าตาคิดออก บอกว่า “ต้องไปดูที่กล้องวงจรปิด อาจจะได้อะไร”

ในห้องคอมพิวเตอร์ คอมถูกเปิดออก ฮาร์ดดีสหายไป รุจิราบอกตำรวจว่า “ภาพทั้งหมดควรจะเก็บ
ไว้ในคอมเครื่องนี้ จริงมั้ย พงษ์” รุจิราถามยาม ยามบอกว่า “จริงครับ แต่ดูเหมือนว่าเครื่องมันเสีย
นะครับ” หน่อยบอก “ผมถ่ายภาพคนร้ายไว้” หน่อยเอาภาพในกล้องให้ตำรวจและรุจิราดูรุจิรา
ยืนยันว่า “ใช่คนนี้แหละปล้นเงินออกไป” หน่อยเปิดภาพให้ดูช่วงที่ทั้งคู่ขี่รถผ่านออกไป “ผมขอดู
ภาพนี้อีกที” ตำรวจให้หยุดภาพที่ป้ายทะเบียนเห็น ก็รู้ว่าเป็นป้ายปลอม ตำรวจพูดวิทยุไปแจ้งที่
สถานี บอกว่า “พบเหตุปล้นธนาคารคนร้ายสองคนในชุดเสื้อคลุมสีดำ เสื้อด้านในสีเขียว ขี่รถ
Honda Air Blade สีดำทั้งสองคันติดป้ายทะเบียน รวย999 ให้ทุกหน่วยสกัดจับด้วย”
มีเด็กส่งดอกไม้เข้ามาในธนาคาร ถามหา “คุณรุจิรา ดอกไม้จากคุณ พงศธร ครับ” เด็กส่งดอกไม้
ให้รุจิรา ท่ามกลางตำรวจและลูกค้าธนาคาร รุจิรามองเด็กส่งดอกไม้ และถามว่า “ทำไมไม่มาให้
เร็วกว่านี้” ท่าทางโกรธ เด็กส่งดอกไม้งง และบอกว่า “คุณพงศธรเพิ่งโทรสั่งทางร้านเมื่อ 9 โมงเช้านี้
เองครับ” “อย่างนี้นี่เอง” รุจิราพูด ตำรวจทำท่างงๆ รุจิราโทรไปหาพงศธร บอกได้รับดอกไม้แล้ว
พงศธรถามว่า “ชอบมั้ย” รุจิราบอกว่า “เมื่อเช้าเพิ่งได้ช่อหนึ่ง มาเก็บเงินที่นี่ด้วย คุณส่งมาหรือ
เปล่า” พงศธรตอบว่า “เปล่า มีเรื่องอะไรกันหรือ” รุจิราก็เล่าว่า “หลังจากคุณวางสาย ก็มีเด็กส่ง
ดอกไม้มาเคาะประตูส่งดอกไม้ให้ แต่ในช่อดอกไม้เป็นปืนพก แล้วพวกเด็กส่งดอกไม้ปลอมๆ ก็เก็บ
เงินค่าดอกไม้ไป 4 ล้าน ตอนนี้ตำรวจยังจับตัวไม่ได้เลย เนี่ยแหละเรื่องเซอร์ไพร์สที่ชั้นเจอมา ปืน
จ่อคอ ปล้นเงิน ดอกไม้คุณ เลยไม่เซอร์ไพร์สเลย โทษทีนะ” รุจิราวางสาย

บนถนน ปอและโมได้ฟังวิทยุตำรวจ จึงหยุดรถ ข้างถนน ถอดเสื้อคลุมออก เอาแผ่นป้ายทะเบียนที่
เตรียมมาติดที่รถ ปอเปลี่ยนเสื้อเป็นสีแดง และโมเปลี่ยนเสื้อเป็นสีชมพู แล้วขี่รถต่อไป ผ่านศาล ไม่
นานปอและโมก็เลี้ยวเข้าซอยและหยุดที่ห้องแถวแห่งหนึ่งทั้งคู่เอารถเข้าจอดภายในห้องแถวนั้น
ล็อคประตูห้อง ทั้งคู่เอาเงินที่ได้ ใส่กระเป๋าที่เตรียมไว้ในห้องนั้น และเดินไปด้านหลัง มีรถกระบะ
โทรมๆ คันหนึ่ง ทั้งคู่เปลี่ยนเสื้อผ้าอีกครั้ง เอากระเป๋าเงินใส่ที่หลังเบาะรถ ทั้งคู่ขับรถกระบะออกไป
เร่ซื้อของเก่าตามหมู่บ้านย่านนั้น ตำรวจวิ่งสวนไปโดยไม่ได้สนใจ

ที่สำนักข่าว KS นพมาถึง office วางกระเป๋า และชงกาแฟดื่ม เขาหยิบหนังสือในชั้นขึ้นมาอ่าน
ภาพข่าวได้รางวัล ส่วนมากเป็นภาพ จากสนามรบ ภาพคนตาย ภาพความขัดแย้ง นพดูแล้วส่าย
หัว วางหนังสือลง บ่นกับตัวเอง “โลกนี้ก็แปลกชอบแต่เรื่องร้ายๆ”

ในห้องถัดมา พิชัยเจ้านายนพเปิดกล่องและมองดูภายในกล่องมีมือจับกล้อง Red ที่สั่งทำพิเศษ
เขานำออกจากกล่องและประกอบเข้ากับกล้อง พิชัยเจ้านายนพ ประกอบเองกับมือ เขาขันน๊อต
อย่างระวัง และทดสอบ กล้อง โดยเปิดจอรับภาพ กดปุ่มสีส้ม มีแสงเลเซอร์ออกมาจากปลายมือ
จับกล้อง เขาเห็นภาพจุดที่เลเซอร์โดนเป้าหมาย เขายิ้มภูมิใจ พิชัยโทรเรียกตัวนพเข้ามาในห้อง ไม่
นานนพมาเคาะประตูห้องของพิชัย เขาบอกนพว่า “งานวันนี้คือไปที่ศาลถ่ายภาพข่าวสัมภาษณ์
ใต้ ก่อนขึ้นศาล” พิชัยให้นพปรับภาพในกล้องที่ความละเอียดสูงสุดและความเร็วมากสุด เพื่อให้
ภาพที่ได้มา สมบูรณ์แบบมากที่สุด พิชัยเซ็ตค่าที่ต้องการให้นพ นพถามว่า “ทำไมต้องคุณภาพ
ขนาดนี้” พิชัยกล่าวว่า “บริษัทเราถึงแม้จะเปิดมาใหม่ แต่เราก็มีเครือข่ายที่ใหญ่โตรองรับ ภาพข่าว
ของเรามี คนซื้อทั่วโลก ดังนั้นคุณภาพจึงต้องดีที่สุด เริ่มจากเนื้อหาไปถึง ความละเอียด การเอา
ภาพมาปรับสโลว์ได้”
นพได้ฟังก็ยิ้มภูมิใจ พิชัยบอกว่า “งานแรกของคุณ งานแรกของเรา ฝากด้วยนะ เต็มที่” พิชัยบอก
ให้นพ “รีบไปรอที่ศาล เมื่อถึงศาลเห็น ใต้ เมื่อไหร่ ก็เริ่มถ่ายเลย” นพตกลง “ครับ” เขาเดินแบก
กล้องไปที่รถ คนขับรอนพอยู่ในรถ พิชัยเดินมาสั่งคนขับ “ขับไปส่งนพที่ศาลแล้วกลับมาออฟฟิศ
ก่อน ผมมีเรื่องต้องใช้รถตอนบ่าย” คนขับตกลง

นพขึ้นรถ นพถือกล้องอย่างภูมิใจ คนขับถามว่า “นพเคยทำข่าวที่สำนักข่าวอื่นไหม นพบอกเพิ่งเริ่ม
ที่แรก” คนขับบอก “ผมก็เพิ่งมาขับรถผู้บริหารที่แรกก็ที่นี่เหมือนกัน” คนขับถามนพว่า “ตื่นเต้นมั้ย”
“นพบอกเป็นธรรมดาพี่ งานแรกก็ต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดา” คนขับจึงให้หมากฝรั่งนพ “เอานี่ไป
เคี้ยวไปเรื่อยๆ ยิ่งตื่นเต้นยิ่งเคี้ยวให้เร็วขึ้น ช่วยได้นะคุณ” นพรับหมากฝรั่งมา เมื่อรถถึงศาล นพ
ขอบคุณคนขับและลงจากรถ นพโบกมือให้คนขับ รถเคลื่อนออกไป
คนขับขับรถไปตามถนน เลี้ยวเข้าซอยแห่งหนึ่ง เจอร้านอาหารข้างทาง เขาหิวมาก จึงจอดรถริม
ถนน ลงไปสั่งอาหารทาน คนขายตักอาหารให้ เขานั่งทานไปซักพัก เห็นตำรวจขี่มอเตอร์ไซค์มา
จอดรถหน้ารถเขาและหยิบใบสั่งกำลังจะเขียน คนขับรถรีบลุกขึ้นให้เงินค่าข้าวแม่ค้า เขารีบวิ่งไปที่
รถ คุยกับตำรวจ ตำรวจถามว่าเขาเป็นเจ้าของรถหรือ เขาตอบว่าใช่ ตำรวจบอกว่า”จอดในที่ห้าม
จอด” ตำรวจจะเขียนใบสั่ง คนขับรถบอกว่า “ผมเพิ่งขับรถวันแรก ขอแวะจอดกินข้าวเช้า ผมกิน
เสร็จแล้วขอผมเถอะนะ อย่าเขียนใบสั่งเลย” ตำรวจบอก “ไม่ได้” คนขับรถหยิบกระเป๋าสตางค์ เอา
แบงค์ร้อยออกมา รีบใส่มือตำรวจ ตำรวจบอก “โอเค คุณไปได้ ทีหลังดูป้ายห้ามจอดด้วยนะครับ”

ตำรวจขี่รถจากไป คนขับขึ้นรถออกไป บ่นกับตัวเอง “กินกันเข้าไป วันแรกก็โดนซะแล้วเรา” เขาขับ
รถแบบหงุดหงิด น่ากลัว ปาดหน้ารถคันหนึ่ง รถคันนั้น บีบแตร อย่างอารมณ์เสีย เขาเปิดกระจก ชู
นิ้วกลาง ให้รถที่บีบแตรไล่ รถคันนั้นลดกระจกลงมา ชูปืนขึ้นมา เขามองในกระจกรีบเหยียบหนี รถ
เขาเร็วขึ้น รถคันที่ถือปืน ขับตามเขาไป แต่ไม่ทัน เขาผ่านไฟเขียวไปคันสุดท้าย

รถที่ถือปืนหยุดติดไฟแดง ลดปืนลงปิดกระจกขึ้น ตำรวจที่แยกเดินออกมาจากป้อม ชักปืนขึ้นบอก
ให้คนขับลดกระจกลง ตำรวจบอกว่า “คุณขับรถถือปืนไล่รถคันหน้าโน้น” ตำรวจชี้ไปที่รถของ
บริษัทนพ ที่วิ่งไปไกลแล้ว ตำรวจบอกให้ คนขับลงมา ตำรวจตรวจดู เห็นว่ามีปืนแต่เป็นปืนปลอม
คนขับถามว่า “รู้มั้ยผมเป็นใคร” ตำรวจจึงถามกลับว่า “รู้มั้ยว่าการถือปืนรถไล่คันอื่นมันผิด
กฎหมาย” เขาบอก “ผมเนี่ยแหละกฏหมาย” เขายื่นนามบัตรให้ตำรวจ ตำรวจดูหลังนามบัตรเห็น
แบงค์ห้าร้อย ตำรวจตะเบ๊ะบอก “คุณไปได้” เขาขับรถออกไป ตำรวจพูดลับหลังว่า “รู้ซิวะว่าเป็น
ใคร ไอ้โจรห้าร้อย” ตำรวจหัวเราะ เดินกลับเข้าป้อมไป
ตำรวจเดินเข้าในป้อมกลางสี่แยก พอดีมีโทรศัพท์ดัง เขาเห็นชื่อ หน้าจ๋อย เหงื่อตก เขารับโทรศัพท์
“คุณพงษ์หรือครับ” พงษ์ถาม “พรุ่งนี้เอาดอกเบี้ยมาส่งที่โต๊ะผมก่อนสิบโมงครึ่งนะครับคุณตำรวจ
ไม่อย่างนั้นลูกน้องผมจะไปยึดของที่แฟลตคุณ ว่าแต่มีอะไรให้ยึดบ้างหล่ะ” ตำรวจเหงื่อตก เช็ด
เหงื่อ ก่อนตอบว่า”ไม่ต้องห่วงครับคุณพงษ์ พรุ่งนี้ผมจะเอาดอกเบี้ยไปส่งครับ” “แน่ใจนะ” พงษ์ย้ำ
ครับ “แน่นอนครับ” ตำรวจวางสาย และถือสมุดใบสั่งออกไป เรียกรถที่หยุดเกินเส้น ทั้ง 3 คัน
คนขับรถทั้ง 3 คันยอมให้เงินแก่ตำรวจ เขาเดินเข้าป้อมไปกดไฟเขียวและนับเงิน มองจังหวะกดไฟ
แดง มีรถเกินเส้นมาอีกหลายคัน เขาเดินออกไปจากป้อมเพื่อเก็บเงินอีก

นพแบกกล้องเข้าไปในศาล เจ้าหน้าที่คุ้มกันของใต้ คอยสังเกตการณ์ นพให้บัตรนักข่าวกับ
พนักงานศาล เจ้าหน้าที่คุ้มกันขอดูบัตรของนพ เจ้าหน้าที่คุ้มกันใช้ที่ตรวจระเบิดตรวจกล้องของนพ
เขาชมว่า “กล้องสวยมาก ผมเพิ่งเคยเห็นกล้องแบบนี้ แพงมั้ยครับ” เจ้าหน้าที่คุ้มกันถามนพ
นพบอก “กล้องของสำนักข่าว เท่าที่รู้มาก็ประมาณ ราคาล้านนึงพอดี” “โอ้โห ถึงว่าดูไฮเทค
มากๆ เลย” นพถามว่า “ผมเข้าไปได้รึยัง” “ได้ครับ” เจ้าหน้าที่คุ้มกันบอกนพ นพเดินเข้า
ไปนั่งรอพร้อมๆ กับนักข่าวคนอื่น ทุกคนล้วนมองมาที่กล้องของนพ นักข่าวท่านหนึ่งถามนพว่า
“มาจากสำนักข่าวไหน” นพให้เขาดูบัตรนักข่าว “สำนักข่าว KS นี้ชื่อแปลกนะ แล้วใช้กล้องแบบ
นี้แพร่ภาพอย่างไร” นพบอกว่า “เราแพร่ภาพผ่านอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงซึ่งมีสมาชิกทั่วโลก”
นักข่าวพูด “อื่ม” หน้าตาทึ่งมากๆ “มันต้องโหลดนานแน่ๆ” “นพบอกไม่นานหรอกครับ เครือข่ายเรา
จะส่งภาพ Full HD ขึ้นไป ใครที่เป็นสมาชิกจะต้องรูดการ์ดเพื่อซื้อข่าวลงมา แล้วจึงแพร่ภาพไป
ตามสถานีท้องถิ่น” “ไฮเทคจังนักข่าวท่านนั้นชม”

เจ้าหน้าที่คุ้มกันของใต้เดินตรวจตราความเรียบร้อยในศาล เจ้าหน้าที่คุ้มกันคนหนึ่งใช้ที่ตรวจ
ระเบิด ตรวจตามทางเดินที่ใต้จะเดินผ่านอีกครั้ง นพได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่คุ้มกันคุยวิทยุสื่อสาร
อยู่ไม่ไกล เจ้าหน้าที่คุ้มกันคุยกับอีกคน “ใต้ จะเข้ามาภายใน 20 นาที ครับ ได้ครับ ทุกอย่าง
เรียบร้อย” เจ้าหน้าที่คุ้มกันเดินผ่านนพไป

ในรถของใต้ ใต้คุยกับทนาย ทนายซักซ้อมคำให้การอีกครั้ง โดยให้เป็นบทมาลองอ่านดู ใต้อ่านอีก
ครั้ง เพื่อความชัดเจน ทนายถามใต้ว่า “พร้อมไหม ผมจะลองถามนะครับ ถ้าคุณตอบได้หมดก็
หมดปัญหา” ทนายถามคำถามใต้ เป็นคำถามที่เขามั่นใจว่าอัยการจะถามใต้ ใต้ต้องตอบให้ตรง
กับที่คุยกับทนายมา ใต้ตอบไปเรื่อย ทนายก็ถามไปเรื่อยๆ

ในห้องพิจารณาคดี ศาลตัดสินให้ หน่อย และ พงษ์ หย่าขาดจากกัน หน่อย ยิ้มน้ำตาไหล เอามือ
ประสานกันตรงหน้าอก รู้สึกถึงความอิสระอีกครั้ง พงษ์ ก้มหน้าทนายของพงษ์เดินมาตบไหล่ มี
เสียงประกาศ “เคารพศาล” ทุกคนในศาลยืนขึ้นคำนับ ศาลเดินออกจากห้องพิจารณาคดี พงษ์มอง
ไปที่หน่อย หน่อยก้มหน้าหลบพงษ์ หน่อยจับมือแม่และทนาย เดินออกจากศาลไป พงษ์หันมอง
ทนาย ทนายบอกว่า “ผมทำดีที่สุดแล้ว แต่หลักฐานมันมัดตัว คุณทำผิดต่อคุณหน่อย คุณต้อง
ยอมรับข้อนี้” พงษ์มองและพูด “ตกลงคุณทำเต็มที่ได้แค่นี้ แล้วผมจะอยู่อย่างไร ไม่มีหน่อยผม
ก็ดูไร้ค่า” หน่อยคุยกับแม่ “เป็นอิสระแล้วนะลูก ต่อไปอย่าไปยอมจดทะเบียนกับใครง่ายๆ นะ”
หน่อยมองแม่แล้วกอด “หน่อยขอโทษค่ะที่ไม่เชื่อแม่แต่แรก ต่อไปหน่อยจะไม่แต่งกับใครง่ายๆ แล้ว”
แม่ยิ้มกับหน่อย

ที่ทางเดินก่อนเข้าห้องพิจารณาคดี นักข่าวกรูเจ้าสัมภาษณ์ ใต้ โดยมีทนายยืนอยู่ข้างๆ นักข่าว
ถามใต้ถึงเรื่องคดี “ท่านคิดว่าท่านจะชนะคดีไหมครับ” ใต้ตอบ “ยังบอกไม่ได้ขึ้นอยู่กับการ
พิจารณาวันนี้” นพมีโอกาสเข้าใกล้ นพถ่ายภาพใต้และทนาย นพซูมภาพเข้าใกล้มีแสงเลเซอร์บาง
มากจนไม่มีใครเห็นออกมาจากแท่งเหล็กมือจับกล้องที่ส่วนบน และอีกเพียงเสี้ยววินาที

ภาพในจอภาพของพิชัยผู้สั่งยิง พิชัยกดปุ่มแดง เสียงปืนดังปัง ใต้ล้มลง มีกระสุนเจาะเข้าที่คอของ
ใต้ กระสุนเจาะทะลุสมองส่วนกลาง ทำให้ใต้ตายทันที ทนายของใต้หมอบลง นักข่าวต่างหมอบลง
มองที่นพเหมือนร้องขอชีวิต ควันปืนลอยออกจากมือจับด้านบน นพพูด “ผมไม่ได้ทำ ผมมาทำข่าว
เฉยๆ” ตำรวจศาลเข้าจับตัวนพไว้ ตำรวจศาลเอาปืนจ่อที่หัวนพบอกให้นพ “ค่อยๆ วางกล้องช้าๆ”
นพวางกล้องและเอามือทั้งสองไว้ที่หัว ตำรวจศาลให้นพนอนราบกับพื้น นพถูกตำรวจใส่กุญแจมือ

ศาลรีบวิ่งมาดู นักข่าวพากันถ่ายภาพใต้และนพ ตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่คุ้มกัน ตรวจดูที่ตัวใต้
คนคุ้มกันเข้ามาชักปืนจะยิงนพ ตำรวจชักปืนห้ามไว้ “หยุดเลย วางปืนลง” ตำรวจเข้ามาข้างๆ นพ
และบอกให้เอาถุงมาใส่กล้อง พร้อมพูดว่า “คุณถูกจับแล้ว” กล้องของนพถูกใส่ถุงพลาสติกขนาด
ใหญ่ และกันไว้เป็นอาวุธ นพถูกตำรวจศาลควบคุมตัวทันที

นายตำรวจใหญ่โทรสั่งลูกน้อง “เรียกรถพยาบาลเข้ามาและส่งเจ้าหน้าที่นิติเวชมาตรวจ
บาดแผล เรียกเจ้าหน้าที่เทคนิคจากกรมตำรวจเข้ามาด้วย อาวุธปืนซ่อนอยู่ในกล้อง ที่นักข่าวใช้
ตรวจทุกจุด หารอยนิ้วมือบนกล้อง ดูเทคนิคที่ใช้สั่งยิง ตำรวจศาลกันนักข่าวออกมาห่าง
จากศพใต้ และกันทุกคนในเหตุการณ์ไว้เป็นพยาน” ตำรวจศาลกันทุกคนออกห่างศพใต้ ดูวุ่นวาย
มาก

พิชัยเจ้านายนพดูภาพจากจอภาพที่ส่งมาจากกล้องของนพ แน่นอนว่าใต้ตายทันทีที่ถูกยิง พิชัย
เปิดทีวีเช็คข่าวอีกที มีภาพเหตุการณ์สด นักข่าวที่ยืนอยู่ตรงนั้น รายงานข่าวว่าใต้เสียชีวิตลงแล้ว
โดยฝีมือของนพช่างภาพข่าวจากสำนักข่าว KS พิชัยหยิบปืนในลิ้นชักมือสั่น พิชัยได้ยินเสียงหวอ
ใกล้เข้ามา พิชัยจับปืนจ่อที่ท้ายทอย มองไปนอกหน้าต่างเห็นตำรวจลงจากรถ พิชัยหันมานั่งเก้าอี้
เหนี่ยวไก ฆ่าตัวตาย

รถตำรวจจอดหน้าบริษัทนพ ตำรวจได้ยินเสียงปืน รีบเข้าไปในห้องของพิชัยเจ้านายนพ บริษัทนพ
ถูกตรวจสอบ นพกลายเป็นแพะรับปาบ ใครที่เป็นคนสั่งการเจ้านายนพ ไม่มีใครทราบ ทางตำรวจ
ก็มืดแปดด้าน

นพนั่งอ่าน นสพ. ในคุก ภาพข่าวที่นพถ่ายได้รับการชื่นชมได้รับรางวัลภาพข่าวยอดเยี่ยม แต่นพ
ร้องไห้อย่างโดดเดี่ยวในคุก เจ้าหน้าที่มาเรียกบอก “คุณชิชามาเยี่ยม” นพเดินตามเจ้าหน้าที่ไปที่
ห้องเยี่ยม โมนั่งคุยกับหน่อยอยู่ก่อนแล้ว โมถามว่า “งานศพปอเรียบร้อยดีไหมหน่อย หน่อยตอบ
ว่าเรียบร้อยดี” ถามว่า “โมสบายดีมั้ย” โมบอก “ก็พอทนได้ อีกไม่นานก็จะได้ออกไปแล้ว” หน่อย
บอกว่า “หย่ากับพงษ์แล้ว ยังไงซะหน่อยก็สบายกว่าเมื่อก่อน ไม่ต้องทนพงษ์ซ้อม” นพเข้ามาทักโม
และนั่งลง นพคุยกับชิชาอย่างดีใจ บอกชิชาว่า “ภาพข่าวของนพเป็นภาพข่าวที่ดีที่สุดแห่งปี” ชิชา
บอก “ชิชารู้แล้ว ชิชาอ่านข่าวแล้ว นพไม่ใช่คนยิง นพไม่สามารถสั่งยิงได้จากกล้องของนพ ตำรวจ
อัยการต้องเข้าใจ กล้องของนพถูกดัดแปลงจากคนสั่งยิง นพเข้าใจนะ อีกไม่นานนพก็ได้ออกไป”
นพยิ้มให้ชิชา

มือผู้หญิงคนหนึ่ง กำลังเปิดตุ๊กตารัสเซีย ทีละชั้น จนถึงชั้นใน ภาพตัวตุ๊กตาที่เรียงกัน ชั้นนอกสุด
คนใส่สูท ชั้นในขึ้นมา ตำรวจ ชั้นในอีก ทหาร ชั้นในอีกหมอ ชั้นในอีก ใต้ ชั้นสุดท้าย เมียใต้ เสียง
หัวเราะจากหญิงคนหนึ่งแห่งบ้านทรายเงินกับหนังสือพิมพ์ในมือ ข่าวศาลตัดสินนพฆ่าคนตายโดย
สุจริต แบบที่ ใต้ เคยอ้างกันเมื่อก่อน นพถูกปล่อยตัว หนังสือพิมพ์ถูกพับ และฟาดเข้าเต็มแรงที่
ตุ๊กตา แมลงวันที่เกาะหัวตุ๊กตาเมียใต้ ตายคาหัวตุ๊กตา

ผู้ผลิตหนังชื่อดัง อ่านบทหนังเรื่อง ใต้ แผนสังหาร จบแล้ววางลงบนโต๊ะ ถามเท่งว่า “บทแบบนี้คุณ
จะเอาใครมาเล่นเป็นใต้” เท่งตอบ “เดี๋ยวคงหาคนหน้าเหมือนได้มั้งครับ ว่าแต่ จะผลิตหนังเรื่องนี้
มั้ยครับ” “อาจจะ ผมต้องลองถามผ่ายกฏหมายก่อน แต่บทเรื่องนี้ไม่มีประเด็นทางการเมืองไม่น่า
มีอะไร ผมว่าน่าสนใจและถูกจังหวะมากๆ เลยเดี๋ยวทางผมพร้อม จะติดต่อคุณไปใหม่” ผู้ผลิตพูด
ในร้านหนังสือกลางห้างดัง เท่งยืนเปิดหนังสือต่างประเทศดูภาพอย่างเพลิดเพลิน ใต้เดินผ่านเท่ง
ไป เท่งเห็นและจับที่อกซ้ายของตัวเอง เสียงหัวใจเท่งรัวด้วยความตื่นเต้น ใต้หันมาทางเท่ง เท่งยิ้ม
ให้ ใต้ยิ้มตอบ เท่งจึง ยกมือสวัสดี และพูดกับใต้ “ท่านครับ ผมเขียนบทหนังกำลังขายค่ายหนังอยู่
เรื่องหนึ่ง อยากเรียนเชิญให้ท่านไปเล่นให้ผมซักครึ่งวันจะได้มั้ยครับ” ใต้ทำหน้างงๆ แล้วถามว่า
บทเป็นอย่างไร เท่งจึงบอกว่าต้องเล่ายาว ใต้จึงชวนเท่งไปนั่งดื่มกาแฟ ที่ชั้นล่าง บอดี้การ์ดขอ
อนุญาติตรวจกระเป๋าของเท่ง ทั้งคู่เดินลงบันไดไปชั้นล่าง ที่ร้านกาแฟหรูมากๆ เท่งไม่กล้าสั่งอะไร
ใต้สั่งให้ “ไม่เป็นไร ไม่แพงหรอกร้านนี้ ผมเลี้ยงเอง คุณพอเล่าบทย่อให้ผมฟังได้มั้ย” เท่ง
บอก “ได้ครับ ผมมีบทมาด้วย” เท่งเปิดกระเป๋า หยิบบทขึ้นมาและเปิดไปหน้าที่มีบทของใต้ “ใต้
อ่านและถามเท่งว่าคุณจะให้ผมเล่นเป็นผมเองและถูกลอบสังหารกลางศาล โดยไม่มีประเด็น
การเมืองในเรื่องเลยหรือ” เท่งตอบ “ครับ เป็นหนังตลาด ผมเคยเขียนไปขายมาหลายเรื่องแต่
ผู้ผลิตส่วนใหญ่สอนผมว่าควรเขียนบทที่ทำให้คนทั้งประเทศสนใจ อยากดู ผมเลยคิดถึงเรื่องแผน
สังหารท่าน แต่รับรองได้ครับว่าเรื่องนี้ไม่มีประเด็นการเมืองใดๆ แอบแผง บันเทิงอย่างเดียว
สำหรับบทท่านใช้เวลาถ่ายทำเพียงครึ่งวันบ่ายเท่านั้นครับ” ใต้มองและบอกว่า “ผมสนใจนะ แล้ว
ผมต้องทำอย่างไรต่อ” เท่งบอก “ตกลงท่านจะเล่นให้ผมหรือครับ” “ใช่เล่นให้” ใต้ตอบ ใต้ให้
นามบัตรเท่งและเซ็นด้านหลัง บอกว่า “จะไปเล่นหนังให้เท่ง ครึ่งวันบ่าย ภายในวันที่ 30 เดือนนี้
เท่านั้น” เท่ง มองท่านและไหว้ขอบคุณ ท่านลูบหัวเท่ง “ไม่เป็นไร มีคนคิดถึงดีกว่าไม่มีและที่สำคัญ
ผมอยากรู้ว่าถ้ามีคนเห็นผมตาย จะมีกระแสอย่างไร ผมจะได้รู้ซะที คุณก็ได้ทำหนัง พยายามเข้า
นะ” เท่งขอบคุณและลากลับ

ทุกคนเตรียมตัวล่วงหน้าอย่างดี ใต้ ตัวจริงมาเข้าฉาก ที่ศาล ยุ่งไปหมด เท่งเชิญนักข่าวจริงๆ
มาร่วมสัมภาษณ์ และประชุมกับทุกคน ว่าต้องทำอย่างไร การ์ดของใต้ตรวจสอบทุกอย่างเพื่อ
ความปลอดภัย

ชายคนหนึ่งแอบเข้าห้องอุปกรณ์และเอาที่จับกล้องเรดมาเปลี่ยนใส่แทนอันเดิม อย่างรวดเร็ว มีคน
เปิดประตูเข้ามา ชายคนนั้นรีบแอบ คนที่เข้ามาหาของบางอย่างเมื่อได้แล้วเดินออกไป ชายคนนั้น
จึงออกจากที่ซ่อน เช็ดรอยนิ้วมือที่กล้องจนหมดเขาเดินออกจากห้องอุปกรณ์อย่างระวังตัว

ทุกคนยืนตามตำแหน่ง นพช่างภาพ นักข่าวถูกจัดให้อยู่ในตำแหน่ง เท่งสั่งพร้อม สาม สอง แอคชั่น
สเลตตี กล้องเดิน ใต้ให้สัมภาษณ์ ที่ทางเดินศาล นพถือกล้องเรด ถ่ายใต้ ทันใดนั้น เสียงปืนจาก
กล้องเรดดังขึ้น ใต้ล้มลงทุกคนถ่ายภาพไว้ ใต้เลือดไหลออกจากคอจริงๆ เท่งยืนมองภาพใต้ เอา
มือกุมหัว จบ

Views: 119

Comment

You need to be a member of PORTFOLIOS*NET to add comments!

Join PORTFOLIOS*NET

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service