ครองตน ครองคน ครองงาน

ครองตน ครองคน ครองงาน อุรชา สุจริต

การครองงาน

1 ครองงานต้องรักงานเป็นอย่างยิ่ง หัวใจของผู้ทำงานคือ ต้องรักงานและทุ่มเทใจให้งานที่ทำ ความรักงานนำมาซึ่งความขยัน ความรักและความขยันต้องไปด้วยกัน เป็นลูกโซ่เกี่ยวโยงกัน พลังทั้งสองอย่างนี้จะผลักดันให้ งานนั้นสำเเร็จลุล่วงไปด้วยดี เพราะจิตใจจะจดจ่ออยู่กับงาน มุ่งมั่นทำงานให้สำเร็จ และพยายามพัฒนาความสามารถขึ้นไปเรื่อยๆ ส่วนคนที่ทำงานแต่ใจไม่รักงานที่ทำก็จะทำงานแบบสักแต่ว่าทำ ทำไปพอผ่านๆคิดถึงงานทีไรใจพ่อเกี่ยว รู้สึกเบื่อหน่าย ไม่มีเรี่ยวแรง และมองไม่เห็นประโยชน์จากงานที่ทำ ดังนั้น คนที่มีทั้งความรัก ความขยัน และความหมั่นตรวจสอบความถูกผิด เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องของงาน ทำให้สามารถพัฒนางานให้ดีขึ้นเรื่อยๆ คนที่ทำงาน เช่นนี้ึงจะมีความสุข และความสำเร็จในการทำงาน

 

2 ครองงานต้องทำจริงไม่หวั่นไหว ในประวัติศาสตร์คนที่ทำงานใหญ่ๆ สามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้นั้น เพราะเขาเป็นคนที่มีจิตใจเด็ดเดี่ยวมั่นคงไม่หวั่นไหว ไม่ท้อแท้หมดหวัง สามารถทำสิ่งที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ให้สำเร็จจนได้ ดังนั้น การมีจิตใจที่แนักแ่นไม่หวั่นไหวจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานอะไร ประเภทไหน หากเราตั้งใจทำอย่างจริงจัง งานนั้นก็จะสำเร็จได้

 

3 ครองงานต้องขยัน ต้องมั่นใจ ความขยันเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้งานสำเร็จ ลุล่วงไปด้วยดี แต่บางครั้งความขยันอาจถูกใช้ไปในทางไม่มีหากขาดปัญญาควบคู่ไปด้วย ฉะนั้นความขยันจึงจึงต้องมีคู่กับปัญญาอันจะนำมาซึ่งความมั่นใจในการทำงาน หากคนไม่มีปัญญา ทำอะไรก็ไม่มั่นใจ ไม่รู้ว่าทำไปทำไม เพื่ออะไร ทำแล้วได้อะไรเมื่อไม่รู้ก็ไม่อยากทุ่มเท มองไม่เห็นประโยชน์ที่จะได้รับ ผลงานก็ออกมาไม่ดี ดังนั้น ความขยัน ความมั่นใจ คือ สิ่งที่จำเป็นสำหรับการครองงานให้สำเร็จ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดจากปัญญาที่เข้าใจในงานที่ทำเป็นอย่างดีนั้นเอง
4 ครองงานทำอะไรต้องอดทน
ความอดทนมีอยู่

 

4 ประการด้วยกันคือ

4.1 อดทนต่อความลำบากตรากตรำ หมายถึง รู้จักอดทนต่อสภาพธรรมชาติ สภาพดินฟ้าอากาศ ไม่ว่าอากาศร้อน หนาว หรือฝนตกก็ทนไม่ใช้มาเป็นข้ออ้างที่จะไม่ทำงาน

4.2 อดทนต่อทุกขเวทนา หมายถึง อดทนต่อการเจ็บป่วย อดทนต่อสภาพความทุกข์ที่เกิดขึ้นรู้จักปรับจิตใจให้รับสภาพที่กำลังเป็นอยู่ ให้ป่วยแต่กายอย่าปล่อยให้จิตใจป่วยไปด้วย ต้องรักษาใจให้เป็นสุข เพราะจิดใจนั้นมีพลังของมันอยู่ในตัว ยิงพลังมากก็ยิ่งรักษาโรคทางกายได้ง่ายขึ้น คนที่รู้จักอดทนต่อทุกขเวทนาทางกายโดยไม่บ่นไม่คร่ำครวญแสดงให้เห็นว่าเขามี จิตใจที่หนักแน่นอย่างยิ่ง

4.3 อดทนต่อการกระทบกระทั้ง หมายถึง อดทนต่อการถูกขัดใจ เพราะการอยู่ร่วมกัน แต่บ่ะคนจะมีความคิดแตกต่างกัน ฉะนั้นเมื่อถูกขัดใจเราต้องรู้จักยับยั้งชั่งใจ อย่าปล่อยอารมณ์โกรธออกมาให้คนอื่นเห็น เช่น เดียวกันในการทำงานหากมีคนขัดใจเราก็ต้องรู้จักอดทน คิดไตรตรองให้รอบคอบยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นหรือเปิดใจมห้กว้างอย่า เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง ให้เอาความถูกต้องเป็นศูนย์กลาง อย่าเอาเรื่องเล็กๆน้อยๆ เป็นสาเหตุให้เกิดความขัดแย้งกัน ทำงานก็ไม่เป็นสุข คิดระแวงกันเรื่อยไป ความอดทนประเภทนี้ใครสามารถอดทนได้ นับว่าเป็นสิ่งที่ดีมีประโยชน์อย่างมากต่อการดำเนินชีวติในปัจจุบัน

4.4 ความอดทนต่อความเย้ายวนยั่วยุ หมายถึง การรู้จักอดทนต่อสิ่งต่างๆ ที่ทำให้จิตใจหลุ่มหลง ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา จนมองไม่เห็นความดี ความชั่ว ไม่สนใจว่าจะสร้างบาปกรรมให้ตนเองและผู้อื่นมากน้อยเพียงใด

 

5. ครองงานต้องตระหนักรักหน้าที่ คนเราเมื่ออยู่รวมกันเป็นสังคม หรือเป็นครอบครัว ก็ต้องมีหน้าที่ต่อกัน คนที่จะตชครองงานไดีต้องเป็นผู้ที่รักษาหน้าที่ได้ดี เพราะการทำงานคือ การทำตามหน้าที่ งานกับหน้าที่จึงเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกันโดยตรง ดังนั้น เมื่อเราได้รับตำแหน่งอะไร ก็ต้องตระหนักและพยายามทำหน้าที่ของตนเองให้บริบูรณ์ที่สุด จึงจะถือว่าเป็นผู้ครองงานได้

 

6 ครองงานทำความดีอย่าฉ้อฉล การฉ้อฉลคดโกง ทำงานทุจริตเป็นการทำลายหน้าที่ เกียรติยศชื่อเสียงของตัวเอง ต้องหลบๆ ซ้อนๆ มีแต่ความหวาดระแวงหาความสุขไม่ได้ หากมีคนจับได้ก็ต้องอับอายขายหน้าให้ใครได้ ดังนั้น การทำงานควรเลือกแต่งานที่สุจริตจะนำมาซึ่งความสุขความเจริญที่ถาวรและความ มั่นคั่งต่อชีวิต

 

7 ครองงานผลงานเด่นเป็นของตน คนครองงานต้องสร้างผลงานด้วยตัวเอง ไม่ใช่ว่าตัวเองไม่ทำ อาศัยแต่คนอื่น เอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน ผลงานดีก็บอกว่าตัวเองทำ หากไม่ดีก็อ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เอาแต่ควาใมชอบไม่เอาความผิด คนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ครงงานนั้น นอกจากจะต้องทำงานด้วยตนเองแล้ว ต้องมีความอดทน ไม่ท้อแท้ ฝึกหัดลองผิดลองถูกจนกลายเป็นผู้ชำนาญ ไม่ทำงานเพื่อเอาหน้า เพื่ออยากดัง แต่จะทำงานเพื่องาน มีความจริงใจ ตรงไปตรงมา สร้างผลงานด้วยนำ้พักน้ำแรงของตรเองจะทำให้ไม่มีใครกล้าตำหนิติเตียน

 

8 ครองงานค่าของคนจากผลงาน ค่าของคนวัดจากผลของงาน เมื่อทำงานควรทำอย่างเต็มที่ด้วยตัวเอง ผลงานที่เกิดจากน้ำพักน้ำแรงของเราจะทำให้ตัวเรามีคุณค่ามากขึ้น ยิ่งงานมีคุณภาพตัวเราก็ยิ่งมีคุณภาพมากเท่านั้น ชีวิตจะมีค่าหรือไม่มีค่า ขึ้นอยู่กับงานที่เราทำ หากานที่เราทำมีค่ามีประโยชน์มาก ชีวิตเราก็มีค่ามีปนะโยชน์เช่นเดียวกับงานนั้นเอง

 

9 ครองงานต้องขยันไม่ท้อแท้ ความท้อถอย ท้อแท้ เป็นสิ่งที่คนทำงานต้องเจอ ยิ่งงานยากและเราทุ่มเทมาก มักจะมีอุปสรรคปัญหาต่างๆ ดังนั้นเราจะต้องทำอย่างเต็มที่ไม่ให้ความท้อแท้มาครอบงำได้ นักครองงานต้องมีใจอดทนและขยันตลอดเวลา สู้กับอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาใ้ไดเ เพราะหากเราจะเป็นผู้สำเร็จในการครองงานต้องไม่มีคำว่า “ท้อถอย” จะต้องมีแต่คำว่า “สำเร็จ”

 

10 ครองงานต้องแน่วแน่มุ่งสืบสาน สังคมจะเจริญรุ่งเรืองได้เพราะมีการถ่ายทอด สืบทอดต่อความรู้จากคนรุ่นหนึ่งสืบไปสู่คนอีกรุ่นหนึ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างต้องสืบต่อกัน หากไม่มีการสืบต่อถ่ายทอดความรู้กันแล้ว ก็ต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่อยู่ตลอดเวลา การจะสอนต่อได้นั้น เราจะต้องหมั่นศึกษาหาความรู้ว่า คนรุ่นก่อนเขาทำไว้อย่างไร มีข้อผิดพลาดหรือไม่ เราจะทำให้ดีกว่าเดิมได้อย่างไร ความรู้จึงจะเป็นสายต่อเนื่องไปได้เรื่อยๆ
ดังนั้น เวลาเราจะทำงานอะไรต้องคิดไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนลงมือทำ เมื่อทำแล้วต้องทำให้สำเร็จ อย่าปล่อยทิ้งกลางคัน เพราะจะเป็นการทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำมาตั้งแต่ต้น ทุนและแรงที่ทำไปก็เปล่าประโยชน์

 

11 ครองงานใจต้องมีอุดมการณ์ อุดมการณ์เป็นเป้าหมายของการทำงาน การทำงานที่ไม่มีเป้าหมายแน่นอนจะทำให้เกิดความโลเล หวั่นไหว และท้อแท้ได้ง่าย อุดมการณ์เป็นเหมือนกับพลังอันมหาศาลที่ก่อขึ้นมาจากส่วนลึกภายนจิตใจและส่ง ผลมาสู่การกระทำ อุดมการณ์ของแต่ล่ะคนไม่เหมือนกัน แต่ที่มีส่วนร่วมกันคือ ความสงบสุขของสังคม เพราะสิ่งนี้เป็นจุดสูงสุดของการทำงาน ดังนั้นอุดมการณ์และงานที่ดีจะเป็นประโยชน์ทั้งแก่ตัวเองและผู้อื่น

 

12 ครองงานเมื่อทำงานต้องสุขใจ ในการทำงานถึงจะเหน็ดเหนื่อยขนาดไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือ “ความสุขใจ” ในทุกขณะที่ทำงานควรจะทำอย่างมีความสุข คิดให้เป็น คนคิดเป็นจะเกิดความสุขในทุกที่ ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ใด คนเราทุกคนต้องทำงาน ในแต่ล่ะวันอาจจะอยู่ที่ทำงานมากกว่าอยู่บ้าน เมื่อใดที่รู้สึกเป็นทุกข์จากการทำงานก็เท่ากับว่างานเข้ามาปล้นเอาชีวิตที่ มีค่าของเราไป ดังนั้น ต้องหาความสุขจากการทำงานให้ได้

 

ท่านลองสำรวจตัวเองดูว่า “ในการทำงานท่านีความสึขหรือความทุกข์มากกว่ากัน หากท่านมีความทุกข์ก็จงรีบเปลี่ยนทัศนคติต่องานเสียใหม่ ก่อนที่ชีวิตอันมีค่าของท่านจะสูญไปมากกว่านี้”

 

“ที่มา : หนังสือ ครองตน ครองคน ครองงาน
เขียนโดย : พระมหาบุญมี มาลาวชิโร

Views: 488

Comment

You need to be a member of PORTFOLIOS*NET to add comments!

Join PORTFOLIOS*NET

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service