สวยด้วยศีล (1)

 

ใครบ้างที่ไม่อยากสวย ? (ฮั่นแน่! ส่ายหัวกันเป็นแถว! )

เราทุกคนล้วนอยากเป็นที่ชื่นชมและพึงใจอย่างที่ใครๆ

และตัวเราเองต้องการกันทั้งนั้น ดังนั้นจึงต้องหาสารพัดวิธี

แต่ง-เติม-เสริมสวยกันอยู่ยิกๆ

 

เท่าที่เห็นคนเรามักจะเสริมสวยด้วยการเสริมแต่งรูปร่างหน้าตาภายนอกกันซะมาก

อาจจะด้วยว่าไม่ต้องใช้เวลานาน แต่งปุ๊บเห็นปั๊บจับต้องได้ทันที

แต่การเสริมสวยแบบนี้เห็นจะต้องใช้ทุนมากสักหน่อยเพราะต้องใช้อุปกรณ์มา

กชิ้นเหลือเกิน ยิ่งอยากสวยแบบครบขั้นแล้วล่ะก็ นู่นเลยค่ะ ตั้งแต่ครีมอาบน้ำ

ยาสระผม ครีมนวด โลชั่นทาผิว ครีมทาหน้า ยากันแดด แป้ง น้ำหอม

และโดยเฉพาะสำหรับคุณผู้หญิงที่ดูเหมือนจะมีอุปกรณ์เสริมมา

กกว่าผู้ชายหลายสิบชิ้นอย่างเครื่องสำอางค์-ตั้งแต่โฟมล้างหน้า

โทนเนอร์ ครีมรองพื้น คอนซีลเลอร์ แป้งรองพื้น บรัชออน(สีทาแก้ม)

มาสคารา(สีปัดขนตา) อายแชโดวส์(สีทาเปลือกตา) อายไลเนอร์(ที่ขีดเส้นขอบตา)

นี่ยังไม่รวมถึงแปรงสารพัดชนิด ที่ใช้คู่กับอุปกรณ์เหล่านี้อีก

ดีไม่ดียังต้องมีวิตามินเสริม

เพื่อรับประทานเพื่อต้านความแก่และชะลอความเหี่ยวเข้ามาด้วย

 

เท่าที่กล่าวมายังไม่ครบดี

แต่เพียงเท่านี้คงจะพอนึกออกว่าต้องเสียเงินทองไปกี่ร้อยกี่พัน

หรือสำหรับบางคนอาจจะเป็นหมื่นหรือเป็นแสน! โดยเฉพาะกับคนที่ “ติดแบรนด์”

ต้องใช้เฉพาะของแพงๆ ยี่ห้อดังๆ เท่านั้น

 

ยังไม่หมด!

ที่ว่ามานี้ยังไม่รวมเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับนับชิ้นไม่ถ้วน

ที่กว่าจะจัดเสริมเติมเข้าไป “ให้ครบสูตร” ก็น่าจะใช้เวลานานโข

ใครทักษะดีชำนาญมากจะเสียเวลาน้อย

ใครทักษะด้อยความชำนาญต่ำก็เสียเวลามากไปตามระเบียบ

ยิ่งใครมีจุดด้อยอยากปกปิดแก้ไขบนใบหน้าและรูปร่างก็เห็นจะต้อง

ใช้เวลาและวัสดุอุปกรณ์ Make & Fake มากขึ้นไปอีกโข

โฮ่ย...คิดแล้วเหนื่อยแทน ครั้นพอใส่ไปแล้ว ใช้งานเสร็จก็ต้องมาแกะ

มาถอด มาลบออกกันอีกรอบ! เสียเวลาไปอีกเท่าตัว! แถมที่สำคัญ

เมื่อคุณลบ ล้าง ถอดเครื่องเสริม-เติม-แต่งหรือ “เปลือก” นั้นออก

ความสวยจากสิ่งเหล่านั้นก็พลันหายวับไปทันทีแบบไม่มีเค้าเหลือ

บนร่างกายของคุณอีกเลย สุดท้ายก็คงเหลือแค่ตัวคุณ

ในแบบที่คุณเป็นเช่นเดิม

 

ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วอะไรคือสิ่งที่ทำให้เราสวยได้อย่างแท้จริง ?

 

สิ่งที่จะสร้างความสวยที่เปล่งประกายมาจากตัวตนที่แท้จริงของคุณ

และคงคุณค่าอยู่กับคุณโดยไม่ลบเลือนไป? อันที่จริงแล้วสิ่งนี้มีอยู่

ในตัวของคุณเอง ไม่ต้องซื้อหาเสียเงินทองมากมายจากที่ไหน

และหากคุณได้มันมาแล้วหมั่นรักษาความสวยนั้นก็จะคงอยู่เป็นของคุณตลอดไป

สิ่งที่เรากำลังพูดถึงก็คือ “ความสวยที่ได้จากจิตใจของคุณนั่นเอง!”

 

เริ่มสนใจแล้วใช่ไหมคะ! ตอนนี้หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า เอ๊ะ!

สวยที่จิตใจแล้วฉันจะเห็นไหมว่าหน้าตาและร่างกายฉันดูดีขึ้น?

คนอื่นจะสังเกตเห็นไหมว่าถ้าฉันมีจิตใจที่ดีแล้วฉันสวยขึ้น?

คำตอบคือเห็นค่ะ! เห็นแน่นอน!

ความสวยงามในจิตใจสามารถมองเห็นได้ด้วยตาและมันจะลึกซึ้งยืนนานกว่า

ด้วยมันสามารถสัมผัสได้ด้วยใจที่บ่งบอกถึงความงดงามที่มีคุณค่า

มากกว่า “สวยแค่เปลือก” หลายเท่านัก

 

รู้อย่างนั้นแล้วมาเริ่มสร้างความสวยจากจิตใจกันดีกว่า!

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าร่างกายกับจิตใจของคนเรานั้นทำ

งานประสานด้วยกันเสมออย่างแยกไม่ออก ความคิดความรู้สึกต่างๆ

ที่เข้ามากระทบจิตใจของเรานั้นส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้!

เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจิตใจคิดหรือรู้สึกอย่างไรก็จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเรา

ในทางกลับกันขณะที่ร่างกายของเราได้รับหรือสัมผัสกับสิ่งต่างๆ

ก็จะส่งผลกระทบต่อจิตใจของเราไปด้วย! ใช่ค่ะ! เป็นเช่นนั้น!

ตลอดเวลาเลยทีเดียว!

 

อำนาจของจิตใจนั้นมีมากเกินกว่าที่หลายคนจะคาดถึงค่ะ

จิตใจสามารถมอบความแข็งแกร่งที่สามารถรักษาเยียวยาสุขภาพกายให้คุณได้

แต่พลังเดียวกันนี้ก็สามารถบ่อนทำลายสุขภาพของคุณให้แย่ลงได้เช่นกัน

ในยามที่คุณ “จิตตก”

 

ดังนั้นการยกระดับจิตใจหรือการมีจิตใจที่บริสุทธ์ผ่องใสนั้น

ย่อมจะทำให้สุขภาพร่างกายและใบหน้าของคุณดูผุดผ่องตามไปด้วย

อย่างแน่นอน

 

เมื่อเข้าใจตามนั้นแล้วเรามาเริ่มต้นสร้างจิตใจของเราให้ผ่องใสโดยเริ่มจาก

การรักษาศีลกันดีกว่า เริ่มจากศีล 5 นี่แหละ! อันได้แก่ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์

ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่เบียดเบียนผู้อื่นด้วยวาจา

 

และไม่เป็นทาสของสิ่งเสพติดทั้งปวง

หากเราปฏิบัติได้ตามนี้ชีวิตก็เริ่มห่างไกลจากปัญหาที่จะเข้ามา

รบกวนจิตใจให้ขุ่นหมองไปได้ส่วนหนึ่ง หลังจากนั้นจึงรักษาศีลให้มากขึ้น

หมั่นศึกษาธรรมะและเลือกนำมาปฏิบัติให้ได้มากขึ้นไปเรื่อยๆ

จิตของคุณและกายของคุณก็จะสวยผุดผ่องขึ้นเรื่อยๆ ดังเงาตามตัว

 

คุณรู้หรือเปล่าว่าจริงๆ แล้วธรรมะก็คือเรื่องของธรรมชาติ

ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ๆตัวเรานี่เอง เราสามารถนำธรรมะมาใช้

ในชีวิตประจำวันของเราได้ทุกขณะ และธรรมะนี่แหละค่ะ

ที่จะช่วย ช่วย ช่วย และช่วยให้คุณไม่ใช่สวยเพียงเปลือกนอก

แถมยังเป็นความสวยที่ไม่ลอกหลุดไปได้ซะด้วย!

 

สังเกตไหมว่าคนแต่งหน้าสวยแต่งตัวสวยแต่อารมณ์เสียจิตใจขุ่นมัวนั้น

ไม่มีใครอยากเข้าใกล้เพราะทุกคนสัมผัสได้ถึงความไม่สวยข้างใน

ต่างจากคนที่สวยจากจิตใจที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ใครๆ ก็ยินดีชื่นชม เพราะคนรอบๆ

ตัวสามารถมองเห็นความสวยนั้นได้ หากจะพูดให้เห็นเป็นเหตุเป็นผลง่ายๆ ก็คือ

คนที่จิตใจดีย่อมมีอารมณ์ดี เมื่ออารมณ์ดีก็จะมีแววตาที่แจ่มใส ใบหน้าที่สดชื่น

อัธยาศัยและพฤติกรรมก็ออกมาดี และการที่พฤติกรรมดีนี่แหละค่ะ

ทำให้คุณดูสวยมีเสน่ห์ น่าประทับใจจนใครๆ ก็อยากเข้ามาหาไงล่ะ!

 

ลองมองให้ใกล้ตัวเข้ามาอีกนิด ในชีวิตของคนเราแต่ละวันเรา

ต้องเผชิญกับสถานการณ์เล็กน้อยยิบย่อยต่างๆ มากมาย

ที่เข้ามากระทบรบกวนจิตใจ และส่วนใหญ่แล้วปัญหาเหล่านั้น

ไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอะไร แต่กลับเป็นปัญหาเล็กๆ ที่เกิดขึ้นซ้ำๆ บ่อยๆ

อย่างเช่นการที่เราต้องเจอกับสภาพรถติด การเจอกับคนที่ไร้มารยาท

หลายคนเกิดความเบื่อหน่ายพฤติกรรมของคนรอบๆ ตัว

ที่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งสร้างความรำคาญใจได้ไม่น้อย แต่ความจริงก็คือ

ยังไง๊ ยังไง มนุษย์ก็คงเป็นสัตว์สังคมที่จะต้องอยู่ร่วมกันกับคนอื่นๆ

ที่ถูกเลี้ยงดูมาต่างกันร้อยพ่อพันแม่ การจะหนีให้พ้นจากคนอื่น

อย่างเด็ดขาดเห็นจะเป็นไปไม่ได้ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ บนโลกใบนี้

 

สิ่งที่ควรตระหนักก็คือ “ความเจ็บช้ำทางอารมณ์”

นั้นเกิดขึ้นได้เหมือนกับที่เราเจ็บปวดทางร่างกาย

ซึ่งคุณต้องรู้และหมั่นระลึกไว้เสมอว่าความขุ่นเคืองใจ หงุดหงิด

โกรธแค้น อาฆาต ความเครียด ความกลัว ความรู้สึกผิด

ความละอายต่างๆ นั้นสามารถแทรกอยู่ในตัวเราและส่งผล

ต่อสุขภาพของเรา

 

ที่สำคัญร่างกายของคนเรานั้นไม่อาจจะแยก ความแตกต่าง 

ระหว่างสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับความคิดหรือจินตนาการของเราได้

เวลาที่เราหวาดกลัว วิตกกังวล หรือเครียด ระบบออร์โมนและสารต่างๆ

ภายในร่างกายจะทำงานเปลี่ยนแปลงจนอาจเสียสมดุล

ผลที่ได้รับหรือกระทบต่อร่างกาย จึงไม่ต่างจากขณะที่เรา

กำลังเผชิญกับปัญหาเหล่านั้นตรงๆ

 

ดังนั้นหากเราไม่สามารถจัดการกับอารมณ์และจิตใจของเราได้

ความเครียดเล็กๆ น้อยๆ แต่บ่อยๆ เหล่านี้นี่แหละ ที่จะบ่อนทำลาย

สร้างความเสื่อมโทรมให้กับจิตใจและร่างกายของเรา

ยิ่งถ้าเราไม่รู้จักปล่อยวาง เก็บและนำอารมณ์เรื่องราวเหล่านั้น

มาทำให้จิตใจขุ่นมัวอยู่ซ้ำๆ บ่อยๆ สุขภาพร่างกาย ใบหน้า

และบุคลิกภาพ ของคุณจะค่อยๆ เสื่อมลงอย่างเห็นได้ชัด

คราวนี้ความสาวความสวยของคุณก็จะหายวับไปกับตา

แถมยังจะพาเอาความแก่ ความเหี่ยว ความเสื่อม และโทรม

มาแทนที่อีกด้วย!

 

ถ้าอย่างนั้นเรามาหาวิธีป้องกันกันดีกว่าโดยเริ่มจากการรักษาศีล 5 ก่อน

ตามที่ได้กล่าวกันไปแล้วซึ่งอันที่จริงคนเราส่วนใหญ่

ก็สามารถปฏิบัติกันได้อยู่แล้ว ถ้าเช่นนั้นมาลองขั้นต่อไปด้วยการฝึกสมาธิ

(ฝึกอย่างไรคงต้องไปศึกษากันในรายละเอียดอีกที)

 

ข้อดีของการมีสมาธิต่อความสวยความหล่อของคุณคือ

คนที่มีสมาธินั้นจะสามารถควบคุมอารมณ์จิตใจของตนเองได้

สามารถควบคุมหัวใจที่เต้นแรงให้สงบลงและกำหนดลมหายใจให้เป็นปกติได้

ดังนั้นเมื่อเกิดอารมณ์โกรธก็จะสามารถระงับความโกรธ

หรืออารมณ์อื่นๆ เช่นความตื่นเต้น ว้าวุ่นต่างๆ ดังนี้

ร่างกายของคุณก็จะทำงานได้ตามปกติสม่ำเสมอซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพของคุณ

 

หากจะเพิ่มหลักการใช้ปัญญาในการดำเนินชีวิตเข้าไปประกอบด้วยอีกนิด

ก็จะยิ่งดีเพราะคุณจะเห็นอะไรได้มากขึ้น ลองคิดดูนะคะว่าที่จริงแล้ว

ความโกรธและอารมณ์ต่างๆ นั้นแท้ที่จริงเกิดมาจากความรู้สึกของตัวเราเองทั้งสิ้น

ไม่ได้มาจากความรู้สึกของคนอื่นเลยสักนิด และเมื่อพิจารณาให้ดีจะเห็นว่าจริงๆ

แล้วไม่มีใครทำให้เราโกรธ หากแต่อาการโกรธนั้นเป็นสิ่งที่เราตอบสนองออกมา

ต่อการกระทำของคนอื่นหรือสิ่งต่างๆ ที่เราพบเจอ แทนที่จะตำหนิคนอื่น

หรือกล่าวโทษสิ่งต่างๆ เราควรตั้งสติทำสมาธิ กำหนดลมหายใจ

แล้วทำใจของเราให้ผ่องใสไว้ดังเดิมดีกว่า นอกจากจะส่งผลดีต่อสุขภาพ

ทำให้ไม่เกิดความเครียดแล้วยังช่วยให้คุณทำงานและกิจกรรมอื่นๆ ได้ดี

แถมยังส่งผลให้มีบุคลิกดีเพราะคุณจะไม่มีอาการกระโตกกระตาก ตื่นกลัว

ขี้โมโห ฯลฯ ต่อหน้าประชาชี คุณจะมีมาดและควบคุมอารมณ์ของตนเองได้

 

เพราะคุณใช้ปัญญาทำให้มีทัศนคติที่ดี มีมุมมองในทางบวกจนทำให้คนอื่นต้องทึ่ง

ตะลึงตึงๆ และหลายคนที่ได้รู้จักคุณคงต้องแอบปลื้มคุณแน่ๆ

 

หากเราได้ฝึกจิต รักษาศีลอยู่เป็นนิจ ปัญหาที่เกิดขึ้นต่อชีวิต

ก็จะลดน้อยลงค่ะ และคุณจะเริ่มรู้สึกคุ้นเคยกับจิตใจที่สงบ

การมีสมาธิ มีสติ สัมปชัญญะ ซึ่งจะทำให้คุณมองปัญหาต่างๆ

เป็นเรื่องเล็กน้อยและรู้สึกผ่อนคลาย

 

ลองนำไปปฏิบัติกันดูนะคะแล้วประกายแห่งความผ่องใสจะปรากฏบนใบหน้า

ดวงตา และสุขภาพที่ดีของคุณแน่นอน!

 

 

ไม่เชื่อต้องพิสูจน์กันแล้วล่ะค่ะ!

Views: 1143

Comment

You need to be a member of PORTFOLIOS*NET to add comments!

Join PORTFOLIOS*NET

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service