นิทรรศการ" Violet Home" นิทรรศการการแสดงผลงานเดี่ยว โดยศิลปิน นุรัตนา หะแว

นิทรรศการ" Violet Home" อนุวัฒน์ อภิมุขมงคล : ภัณฑารักษ์
จะเป็นอย่างไรหากวันหนึ่งเราตื่นมา แล้วพบว่า โลกทั้งใบรอบตัวเราล้วนเป็นภาพขาว-ดำ ไม่มีสีอย่างที่เคยมีมา เราคงไม่รู้สึกถึงกลิ่นหอมของดอกไม้ หรือไม่รู้สึกถึงความสดชื่นจากทุ่งนาอีกต่อไป เพราะการเห็นสี เป็นสิ่งสำคัญหนึ่งที่ทำให้มนุษย์รับรู้ถึงความงาม ที่มากกว่าการเห็นเหล่านั้น บางสีทำให้คนมีความสุข บางสีทำให้คนรู้สึกเศร้า บางสีทำให้รู้สึกมีพลัง ขณะเดียวกันบางสีก็อาจทำให้รู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนแรง นั่นเป็นเพราะสีส่งผลกับจิตใจและอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ สียังสามารถบ่งบอกถึงรสนิยม นิสัยใจคอ จากความชอบ รวมไปถึงคุณค่าและความหมายในเชิงอุดมคติของวัฒนธรรม ความเชื่อ และศาสนา และนอกจากสีที่มองเห็นด้วยตาแล้วเราอาจพบว่า มีสีที่ใช้ใจในการมองเห็นด้วย เช่นเดียวกับที่เด็กๆจินตนาการถึง สัตว์ สิ่งของ สีต่างๆ หรือสีในความฝันที่มาจากเสี้ยวของความทรงจำและจิตใต้สำนึกของใครหลายคน ความซับซ้อนเชิงความหมายและคุณค่าของสีจึงเป็นเรื่องที่น่าตื่นตายิ่ง
ดังคำกล่าวของ โกแกง(Paul Gauguin , 1848-1903)ที่ว่า “สี เป็นภาษาที่ลึกลับ ลึกซึ้ง เป็นภาษาแห่งความฝัน” เสื้อ ผ้า จาน ชาม ตู้เย็น ผ้าม่าน ผ้าปูที่นอน ฯลฯ สิ่งของเหล่านี้นอกจากเหตุผลของความลงตัวในเรื่องของการออกแบบแล้ว อีกเหตุผลที่ทำผู้ใช้เลือกว่าจะให้มันเป็นสีอะไร ก็ด้วยเหตุผลเรื่องความชอบเป็นสำคัญ คนส่วนใหญ่ ต่างก็มีสีที่ตัวเองโปรดปราน อาจเป็นสีที่ถูกชะตาในความเชื่อ เป็นสีที่ทำรู้สึกดี หรือเป็นสีจากความชอบในวัยเด็ก ซึ่งนุรัตนา หะแว ศิลปินในนิทรรศการเดี่ยวของเธอ “Violet Home” เธอก็มีสีที่เธอโปรดที่สุด เป็นสีที่เธอเห็นจากเสื้อผ้า ตุ๊กตา ของใช้ ของเพื่อนๆหรือญาติๆในวัยเด็ก ส่งผลให้เธอมีความฝัน ว่าวันหนึ่งเธออยากจะมีบ้านพร้อมกับสิ่งของทุกอย่างภายในบ้านเป็น “สีม่วง” การก่อตัวของความฝันนี้ จึงเริ่มต้นด้วยการสะสมสิ่งของที่เธอใช้ในชีวิตประจำวัน จนมารู้ตัวอีกทีของใช้ทุกอย่างของเธอก็กลายเป็นสีม่วงไปเสียแล้ว

เมื่อกล่าวถึง “สีม่วง” สำหรับใครหลายคนอาจทำให้นึกถึง สีประจำวัน สีประจำสถาบัน/หน่วยงานหรือดอกไม้ชนิดต่างๆ รวมไปถึงเรื่องของเพศภาพ แต่สำหรับนุรัตนา หะแว สีม่วง มีความหมายสำหรับเธอมากกว่านั้น มันอาจเริ่มต้นมาจากความชอบ แต่เมื่อเธอศึกษาเพื่อความเข้าใจมากขึ้น พบว่า สีม่วง เป็นสีที่เกิดจากการผสมกันของสีน้ำเงินซึ่งจัดอยู่ในวรรณะสีเย็น (Cool Tone) กับสีแดง ซึ่งจัดอยู่ในวรรณะสีร้อน (Warm Tone) เกิดเป็นสีที่อยู่กึ่งกลางระหว่างสองวรรณะนี้ จึงเป็นสีที่ทำให้เกิดความรู้สึกอบอุ่น ลึกลับ และน่าค้นหา ด้วยความเป็นแม่ลูกสามของเธอ ที่ต้องคอยให้ความรัก ความอบอุ่นแก่ลูก ก็ยิ่งตอกย้ำให้ความหมายใน สีม่วง ของเธอดูมีความสำคัญมากขึ้น และความฝันของการจะมี “บ้านสีม่วง” (Violet Home) ที่แสนอบอุ่น ก็ถูกทำให้เป็นจริงโดยนิทรรศการการแสดงเดี่ยวของเธอในครั้งนี้
ภายในบ้านมีขนมเค้กสีม่วงก้อนใหญ่วางอยู่ รอให้ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมา ร่วมกันตกแต่งหน้าเค้กตามใจชอบ เธอมองว่า ขนมเค้ก เป็นอาหารชนิดหนึ่งที่แสดงถึงความสุขและความยินดี ดังที่เรามักจะเห็นผู้คนใช้ขนมเค้กประกอบงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิด เฉลิมฉลองงานมงคลสมรส หรือวันสำคัญอื่นๆที่ไม่ใช่วันไม่น่ายินดีอย่างงานศพ การได้เห็นเค้กก้อนโตจึงเป็นความสุขที่เธอพร้อมจะส่งมอบให้กับทุกคน หรือกระทั่งของสะสมสีม่วงของเธอ ที่เมื่อได้เห็นแล้วเราอาจอยากกลับไปสำรวจถึงความชอบของตัวเองว่าเราให้ความสำคัญมันมากน้อยแค่ไหน ฝาผนังที่เต็มไปด้วยภาพวาดและรอยขูดขีด เส้นตัวอักษรที่บูดเบี้ยวจากการเพิ่งหัดเขียน รวมถึงผลงานหลายชิ้น ที่เธอและลูกๆได้ร่วมกันสร้างสรรค์ ล้วนเป็นประสบการณ์และความทรงจำของความเป็น “บ้าน” ที่เต็มไปด้วยไอรัก ไอความอบอุ่น เฉกเช่นที่เราเห็นใน “สีม่วง”

เรียนเชิญทุกท่าน มาร่วมกันสำรวจ “บ้านสีม่วง : Violet Home” ของนุรัตนา หะแว ในครั้งนี้ ไม่แน่ คุณอาจหลงรักสีม่วงเข้าอีกคน ก็เป็นได้.....
นิทรรศการเปิดในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 17.30 น. นิทรรศการจัดแสดงถึงวันที่ 25 มีนาคม 2562 ที่ Patani Artspace ปัตตานี