ทำไมเพลงเกาหลีถึงเป็นตัวปลอม (2)?

เรื่อง : ต่อพงษ์
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 ธันวาคม 2552


หนึ่งในสิ่งที่ต้องยกย่องของเกาหลีก็คือ วิสัยทัศน์ของรัฐบาลเกาหลีในยุค 80 ที่มองว่าสินค้าทางวัฒนธรรมจะเป็นสินค้าที่ทำเงินมหาศาล

การสร้างภาพลักษณ์ฉาบหน้านั่นแหล่ะที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จอย่าง แท้จริง

การลงทุนสร้างคนบันเทิงขึ้นมาเอง ทั้งส่งคนไปเรียน ให้ทุนในการสร้างหนังชนิดที่เรียกว่า สร้างตั้งแต่หนังชิงรางวัลยันหนังติดเรต เพื่อให้เกิดบุคลากรที่มีประสิทธิภาพที่จะสร้างสินค้าทางวัฒนธรรมออกมาขาย สู้กับญี่ปุ่น ทั้งออกกฏหมายให้บริษัทยักษ์ที่อยู่ต่างประเทศต้องสนับสนุนหรือเอาคนของตัว เองเป็นพรีเซนเตอร์

จากประเทศที่ทีวีมีแต่ช่องทหารจีไอ บทเพลงเชยๆ หน้าตาคนก็โคตรเชย สินค้าก็ดูจะเชยสุดๆ (แต่ถ้าเป็นสินค้าก็อปปี้ก็โอเคนะครับ ดูดีมีเกรด) กลายมาเป็นแบบนี้ไปได้ ใครที่ทันยุคนั้นคงจำแบรนด์สินค้าไฟฟ้าเชยๆ อย่าง ลักกี้ โกลด์สตาร์ (ทีมที่ปิยะพงษ์ ผิวอ่อนเคยไปเตะให้ตอนโน้น) ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็น แอลจี ที่ดูดีดูน่าใช้ขึ้นมาในยุคนี้

ซึ่งเรื่องนี้ผมว่าญี่ปุ่นเองก็คงสะอึกและจำไว้เป็นบทเรียนอีกนาน เพราะ ในภาคธุรกิจเอกชนของญี่ปุ่นนั้นเข้มแข็งมาก แต่ในภาครัฐนั้นญี่ปุ่นก็ห่วยแตกสุดๆ เหมือนกัน การไม่เคยลงไปดูแลหรือวางยุทธศาสตร์แบบที่เกาหลีทำจึงเป็นช่องทางให้เกาหลี โผล่ออกมาจากเงาทะมึนของญี่ปุ่นได้ในที่สุด

แต่นั่นคือเรื่องภาพลักษณ์เท่านั้น แต่ถ้าคุณภาพในเรื่องของเพลงนั้น...เอาว่าดูโดยโครงสร้างจังหวะจะโคนนะครับ เพลงเกาหลีเหมือนเพลงจากยุค ‘อาร์เอสที่เป็นป็อปลูกกวาด’ หรือ ‘แกรมมี่รุ่งเรือง’ เลย จะมีข้อแตกต่างอยู่แค่สองอย่างคือ

1.เขาร้องหรือแร็พเป็นภาษาเกาหลี 2. เขาเค้นพลังเซ็กส์อันล้นปรี่ออกมาจนทะเล็ดทุกครั้งที่ขยับเอว

นั่งดูรายการ Ingikayo ทุกสัปดาห์ก็จะเห็นความพยายามตรงนี้ของพวกเขาและพวกเธอกันไม่ขาดสาย แต่ในเรื่องดนตรีต้องบอกว่าซ้ำซากมาก ซึ่งเหมาะมากสำหรับประเทศที่เสพเพลงด้วยสายตาไม่ใช่เสพเพลงด้วยหูครับ...

พูดก็พูดเถอะที่ดังๆ อยู่ตอนนี้นั้นภาคดนตรีของเกาหลีล้าหลังกว่าพี่ไทยอยู่ด้วยล่ะจ๊ะ!!

ไม่ต้องไปเทียบกับญี่ปุ่นที่มักจะมีของใหม่ๆ ออกมาอวดโลกในทุกๆ แนว คีทาโร่ในแนวนิวเอจ เซจิ โอซาว่า ในโลกของดนตรีคลาสสิก ซาดาโอะ วาตานาเบ้ เดอะ แสควร์และคาซิโอเปีย ในแนวฟิวชั่นแจ๊ซ ลิซ่า โอโนะ ในแนวโฟล์กบอสซา ขณะที่ร็อกญี่ปุ่นก็ไม่สนจะออกมาข้างนอก ผมเคยสัมภาษณ์ผู้จัดการของเกลย์และ X Japan เมื่อปี 2000 เขาบอกเลยว่า พวกเขาไม่สนโกอินเตอร์เพราะในประเทศมียอดขายที่ดีมากอยู่แล้ว ก็เหมือนระบบโทรศัพท์ของญี่ปุ่นที่ประหลาดผิดชาวบ้านเขานั่นแหล่ะ

ญี่ปุ่นยังเป็นที่มั่นสุดท้ายของวงเมตัลและเทพกีตาร์ร็อกของอเมริกาในยุคที่ พวกเขาพ่ายต่อดนตรีแนวอัลเทอร์เนทีฟในยุค 90 อีกด้วย ศิลปินอเมริกาจำนวนมาก อาทิ ยูทู มาไรห์ แครี่ เลดี้ กาก้า Flo Rida แบล็คอายพี โอเอซิส ฯลฯ ต้องพาเหรดขึ้นเวทีรายการ Music Station เพื่อโปรโมตเพลงและหวังยอดขายจากชาวญี่ปุ่น...เมื่อเป็นแบบนี้แล้วคงไม่ต้อง เทียบอีกว่าญี่ปุ่นหรือเกาหลีที่เจ๋งกว่ากันในเรื่องดนตรี

เรื่องตลกก็คือ วัยรุ่นบ้านเราตอนนี้ มักจะยกย่องเกาหลีและเหยียดหยามไทยด้วยกัน ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วศิลปินเกาหลีที่หลายคนชื่นชอบนั้น 30 เปอร์เซนต์ของพวกเขาก็ต้องมีส่วนแบ่งให้ไทยอยู่ ยกตัวอย่างเช่นแกรมมี่ที่เป็นเจ้าของหุ้นของ SM ซึ่งมีทั้ง ดงบังชิกิ ซูเปอร์จูเนียร์ หรือ เกิร์ลเจเนเรชั่นอยู่ มีอยู่ตั้ง 30 เปอร์เซนต์นะครับ

หรือเวลาที่คุณมองหน้าซูเปอร์จูเนียร์แล้วบอกว่าพวกเขาน่ารัก...แล้วโอ้ปป้า พวกนั้นทำน่ารักตอบมา คุณรู้หรือไม่ว่าวัยรุ่นเกาหลีเหล่านี้ เคยมาดูและมาฝึกวิธีการเต้ยสาวๆ จากพี่เบิร์ดของเรานี่แหล่ะ

พูดถึงตรงนี้ใครก็ตามของแกรมมี่ที่ไปซื้อหุ้นของบริษัทเพลงเกาหลีเมื่อหลาย ปีก่อนหน้านี้ก็ต้องปรบมือให้เขานะครับ เพราะหมอนี่ทำให้สิ่งที่แกรมมี่ถึงจุดที่ไม่เคยถึงเสียที นั้นคือ การทำให้แฟนเพลงมีความจงรักภักดีต่อศิลปินของค่าย...แม้จะเป็นศิลปินเกาหลี และไม่ใช่ศิลปินไทยก็ตาม ผมเองไม่ได้ปลื้มกับแกรมมี่ แต่ถ้าพูดเรื่องจริงก็ต้องยกย่องเขาเหมือนกันว่าพวกเขาแน่มาก

ตรงนี้มันก็สะท้อนไปถึงศิลปินไทยเหมือนกันนะครับ มัวแต่ขี้เกียจไม่เอาจริงเอาจังไม่รักดี ระวังเกาหลีมายึดแผงหมดนา (เพราะข้อแตกต่างของศิลปินไทยกับเกาหลีก็คือความเหยาะแหยะและระเบียบการซ้อม พวกเกาหลีนี่บ้าพลัง ซ้อมไม่ดีโดนตบกระบาล นั่นทำให้พวกเขาเต้นเก่งสุดๆ) ที่สำคัญค่ายเขาไม่สนหรอกว่าจะต้องขายแต่ศิลปินไทย เขาทุ่มซื้อเกาหลีแล้วมาขายไทยอีกทีก็ได้...แถมได้เงินมากกว่าด้วย

มันมีคำถามว่า ถ้าเผื่อเซ็กส์จากแดนกิมจิอันล้นปรี่จากสาวๆ และหนุ่มๆ เหล่านี้ทำให้คนดูเกิดอาการชาชินแล้ว เฉพาะภาคดนตรีที่เหลือจะทำให้เราเกิดความตื่นเต้นต่อได้หรือไม่?

ผมมั่นใจว่าไม่ได้แน่ เพราะในความเป็นจริงภาคดนตรีของวงเหล่านี้นั้นเชยมากนะครับ อารมณ์อยากจะหวนอดีตมันก็คงมีบ้าง แต่ระยะยาวคงไม่ใช่ แต่ระยะนี้ต้องยกให้เขาไป เพราะ เกาหลีบุกทุกสื่อพร้อมๆ กัน ทั้งละคร ทั้งสินค้า การโฆษณา มิวสิควิดิโอ ความสำเร็จก็บังเกิดขึ้น

ที่สำเร็จที่สุดก็คือ การทำให้กลุ่มเป้าหมายของเขานั้นเชื่อว่า สินค้าจากเกาหลีคือสิ่งที่ดีที่สุด...ก่อให้เกิดความจงรักภักดีจนได้...แต่ ความภักดีเหล่านั้นต้องย้ำนะครับว่า ไม่ได้เกิดจากตัวดนตรีหรือเพลงแน่นอน นั่นทำให้พวกเขาเป็นตัวปลอมในเส้นทางนี้ แต่เป็นตัวจริงในการสร้างภาพลักษณ์อย่างที่สุด

พูดง่ายๆเรื่องเพลงอาจจะอยู่ไม่ยาว แต่เรื่องทำมาหากินในรูปแบบอื่นๆยาวแน่ๆ

เพราะพวกเขามีต้นทุนที่ดีที่สุดคือ การทำให้แฟนๆ มีความจงรักภักดีอย่างที่สุด และจะนำมาสู่การทำมาหากินทุกรูปแบบไม่ใช่เฉพาะขายเพลงอย่างเดียว...แต่ขาย โชว์ ขายการจับมือ ขายมีทแอนด์กรี๊ด ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่มากๆ ของการทำมาหากิน(เมื่อก่อน Meet And Greet จะฟรีหรือถูกคัดเลือกจากค่ายโดยไม่ต้องจ่าย)...หรือรูปแบบของการทำเพลงหนึ่ง เพลงแล้วผลัดกันร้องกันทั้งค่ายเดี๋ยวชายหมู่ร้อง เดี๋ยวหญิงหมู่ร้อง นั่นก็เป็นรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยเจอมาก่อน

ที่สำคัญต่อให้ทั้งหญิงทั้งชายคนละวงเต้นท่าเดียวกัน คนที่จงรักก็กรี๊ดให้อยู่ดีเสียด้วยสิ

ทำไงได้ละครับก็คนมันรักไปแล้วนี่นา!!

Views: 384

Reply to This

Replies to This Discussion

ไม่ค่อยเห็นด้วยนะครับ ในสายตาคนทำเพลงไทยด้วยซ้ำ

ถ้าถามคนทำดนตรีจริงจริง จะรู้ว่า การใส่คอร์ด หรือจังหวะ หรืออะไรหลายอย่าง เป็นการเอาวัฒนธรรมเพลง ฮิบฮอป อาร์แอนด์บี มาผสมคลุกกับ เมโลดี้ดีดีแบบคนเอเซียชอบ จนได้ ดนตรีป้อปทีทันสมัยน่าฟัง แต่มีความเป็นเพลงดีดีซ่อนอยุ่

เพลงไทยมากมาย แม้แต่คามิคาเ่ซ่ ที่พยายามทำเทียบเท่า ก็ยังไม่ถึง

แน่นอนครับ มีหลายวงที่ไม่่ค่อยได้คุณภาพ เหมือนแค่ก้อปวงดังดังในเกาหลีกันมาอีกที

แต่ดนตรีของ JYP, Girl Generation ที่ดังได้

ลองหลับตาฟังแต่เพลงด้วยใจไม่อคติ

มันไม่ได้ต่างหรือห่างจากเพลง พ้อพ ชั้นดี ของ อเมริกา เลยครับ

แน่นอน ว่า การตลาดเค้าก็รุนแรง และเจ๋งเช่นกัน

แ่ต่ไม่มีสินค้าใดที่ไม่ดีจริง แล้วจะอาบด้วยการตลาดจนคนชอบได้ยาวนาน หรือมากขนาดนี้

ลองฟัง 2 pm อัลบั้มใหม่ดีดี บางเพลง ยังกะเอาเมโลดี้ เพลงยุค 80 ที่ดีดี ่มาทำใหม่เลย บางเพลงถ้าบอกว่า เป็นเพลง George Michael ผมก็เชือนะครับ

ด้วยความหวังดีต่อประเทศเราครับ ผมจึงศึกษาจนได้ข้อสรุปออกมาว่า

เพลงเ้ค้าดีจริงจริง เมโลดี้ เค้าดี ร้องดี ถึงได้สำเร็จจริง

ถ้าเราหันมาจริงจัง จริงใจ กับการทำเพลงให้เหมือนเค้า คือ ทำเพลงให้ถึงจริงจริง

เราก็ต้องสำเร็จได้ครับ
มันเป็นมุมมองของผู้เขียนนะครับซึ่งวัดได้ยากว่าเค้าดีไม่จริง ผมไม่ได้ชอบฟังเพลงเกาหลีอะไรเท่าไหร่นัก แต่ก็พอรู้ว่าเค้าก้าวข้ามขั้นที่ไทยเรายากที่จะก้าวข้ามไปได้ แต่เราก็ปริ่มๆละ ว่าแต่จะมีผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองคนไหนตาถึง ทำให้มันจับต้องได้สักที
เธอชอบเกาหลี แต่พี่เกาเหลา
ชอบที่เขาเขียนจังแฮะ
อยากรู้เหมือนกันว่า เมื่อกระแสเพลงเกาหลีซาไปแล้ว จะมีกระแสเพลงอะไรเกิดขึ้นอีก

แต่ว่า กระแสเพลงเกาหลีคงไม่ซาลงง่ายๆสินะ
ร่วมด้วยช่วยกัน

มันก็เหมือนพลุแหละพอดังไฟก็จะลุกโชดช่วงแล้วไฟก็จะค่อยๆตกและหายไปในที่สุด

อะไรที่มาเร็วก็ไปเร็วได้เช่นกัน

RSS

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service