เคยมั๊ยครับ ? (เคยอะไร...หลายคนคงนึก)
ถ้าใครหลายคนได้ลอง...จริง ๆ มันไม่ใช่ลองหรอก เพราะถ้าลองจริง ๆ ไม่สนุกเลย คือตัดสินใจปรับปรุง ซ่อมแซม บูรณะ "บ้าน" ของตัวเองครั้งใหญ่
ต้องบอกว่าใหญ่ ๆ เพราะถ้าแค่ปัดกวาด ดูดฝุ่นห้องนอนที่ไม่เคย (ผมคนนึง ห้า ห้า ห้า) แต่มันหมายถึงชำระสะสางสิ่งของไม่ต้องประสงค์ ต่อเติม ตกแต่งบ้านเรือน ถื่นฐาน ที่อยู่ที่กิน ฯลฯ ทั้งหลายทั่้งปวง เรียกว่า...ลมแทบจับ
ที่นั่งนึกเรื่องนี้ เพราะนึกถึงเมื่อครั้งหนึ่งที่มี "วาระแห่งบ้าน" (ไม่กล้าใช้ "วาระแห่งชาติ" เดี๋ยวโดนแบนบล็อก ส่อเอาการเมืองมาเป็นสาระ) เคยผ่านกระบวนการอย่างนี้มา
โอ้ว...เหนื่อย
ในขณะที่เก็บของ ผมว่าหลายคนขณะที่หยิบจับอะไรก็ตาม ย่อมต้องมี "การระลึกชาติ" ถึงสิ่งของต่าง ๆ นานา ว่าเคยมีอดีตชาติร่วมกันมากับมันอย่างไร
บางคนอาจจะมีน้องหมีน้อย น้องหมอนเน่า ที่สมัยเด็ก แม้มันจะเก่า จะเหม็น จะเน่ายังไง ก็ต้องกอดมันไว้ ถ้าแม่จะเอาไปทิ้งก็จะงอแงจะขาดใจตาย...แต่พอโตมา ก็ลืมมันซะงั้น
นั่นคือสิ่งของ...
ถ้าเป็นสถานที่หล่ะ...หมายถึง อาคาร นั่นแหละครับ
ในขณะที่นั่งนึกถึงบ้าน นึกถึงว่า ตอนเป็นเด็ก ๆ วิ่งเล่นไปรอบ ๆ หยุดตรงนั้น นั่งตรงนี้ มันแสนจะมีความสุข พอโตขึ้นมา... Space หรือที่ว่างแบบนั้นมันหายไปไหน???
หรือเราตัวใหญ่ขึ้น จิตใจของเราจึงเล็กลง
มันน่าจะสนุกที่ "องค์ประกอบ" บางอย่างของบ้านเรา ที่สร้างตัวเราขึ้นมา มันยังคงอยู่ให้เราจับ สัมผัสมันได้เสมอ ๆ เหมือนเตือนตัวเราไว่าเรายังมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ผูกพันเราไว้ อีกรูปแบบหนึ่ง
พล่ามมาซะยาว จริง ๆ ไปเปิดโน่น นั่น นี่เล่น ก็แค่อยากจะโยงมาถึงบ้านหลังหนึ่งที่บังเอิญเดินสะดุดสายตาผ่านหน้าจอ...พอดี
บ้านหลังหนึ่งใน นากามิกุโระ...(Nakameguro) น่าจะเป็นชื่ออำเภอหนึ่งในนครโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น อ่า...ข้อมูลนี้คงต้องรอผู้ผ่านทางมาชี้แจงความถูกต้อง เพราะขี้เกียจเสริชหาว่ามันคือที่ไหน
ถ้ามองดูทัศนียภาพของบ้าน...อืม มันช่างสะอาดสะอ้านทางสายตาสิ้นดี คือมันจะเรียบเรียบ ดูโดดเดียว กันดารทางองค์ประกอบอะไรอย่างนี้
มองแล้วเหมือนเห็นเด็กเรียน นิสัยสุภาพ ๆ คนหนึ่ง...
พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านก็เหมือนกับบ้านอื่น ๆ โดยทั่วไป คือมีองค์ประกอบพื้นฐานที่รองรับการใช้ชีวิตอย่างที่จอดรถ โถง ห้องรับแขก ห้องอาหาร ห้องครัว ห้องทำงาน ห้องนอน ห้องน้ำ...ฯลฯ
พูดไปก็ลงตัวที่บ้านจัดสรรพอดี มีเหมือนกัน
แต่...
สิ่งที่มีไม่เหมือนกันกับบ้านอื่น ๆ ทั่ว ๆ ไป นั่นคือ
"ความปรารถนา" ของเจ้าของบ้านที่กล่าวบอกสถาปนิกผู้ออกแบบว่า...
"ผมอยากจะได้บ้านหลังหนึ่ง เป็นที่สำหรับเด็กทั้งสามคน ที่จะประทับความทรงจำที่ดีกับบ้านหลังนี้ไปตลอดกาล"
โค ตะ ระ นามธรรม
และเป็นหน้าที่ของ Level Architecs ที่ต้องสร้างบันไดเชื่อมจินตนาการ และความต้องการของเจ้าของบ้าน (หามายังไม่รู้เลยว่าบ้านใคร...-*-) อย่างถึงที่สุด
ผลลัพธ์คือ
ทีม Level Architects ได้ออกแบบให้บ้านหลังนี้แบ่งเป็นสามชั้น
ชั้นที่ 1 จัดพื้นที่เป็นส่วนจอดรถ ห้องทำงาน ห้องสไตล์ญี่ปุ่น (ตรงนี้ผมเข้าใจว่า เค้าเน้นให้มีพื้นที่แบบประเพณีนิยมในบ้านทั้งในเรื่องของการประกอบพิธี และรูปแบบ จะเป็นห้องที่มีการใช้เสือ "ตาตามิ" เป็นพื้นแสดงการแบ่งชัดเจน) และห้องน้ำ...ห้องน้ำจริง ๆ มีแค่โถส้วมกับ ที่ปัสสาวะ มือไปล้างข้างนอก...
ชั้นที่สองสร้างสรรค์ให้เป็นพื้นที่รวมครอบครัว ทั้งห้องอาหาร นั่งเล่น ครัว...โล่ง ๆ ไม่กั้นผนัง ถ้าเป็นไทยก็กั้นเข้าไป ร้อนก็ร้อน...-*-
ชั้นที่ 3 เป็นห้องนอน โล่ง...เข้าใจว่าปูผ้านอนรวมกัน แบบตามที่เห็นในหนังซีรี่ส์ แต่ถ้าเด็ก ๆ โตขึ้นคงมีจัดแบ่งพื้นที่แบบเน้นประโยชน์ใช้สอยอย่างใน TV Champion
สาระสำคัญของงานออกแบบชิ้นคือ คือโจทย์ที่เจ้าของบ้านมอบให้ไว้...โดยสถาปนิก เลือกที่จะสร้างบ้านหลังนี้ให้เป็นสนามเด็กเล่น...มากกว่าแค่เป็น "บ้าน"
Key Word ที่สำคัญที่บรรจงปรุงแต่งมันขึ้นมาคือคำว่า "Slide" กริยาของคำนี้มันให้นัยยะถึงการลื่น ไถล ไถตัว ถ้าเป็นฟุตบอลเข้าเข้าเสียบหญ้ากระจุย
ในทางรูปธรรม Space Play ที่มีสนามเด็กเล่นเป็นรังสนุกของเด็ก ๆ พระเอกตัวชูโรงของพื้นที่นี้คือ
"กระดานลื่น"
ที่สมัยเราเป็นเด็กต่อแถวกันไถลตัวลงมา แล้วก็รีบวิ่งไปขึ้นใหม่ ทั้งที่มันก็สั้น ๆ มีอยู่เท่าที่เห็น แต่ก็เล่นกับมันทั้งวัน
Level Architects ใช้มันเป็นองค์ประกอบการสัญจรเชื่อมพื้นที่ทุกชั้นสำหรับเหล่าหนูน้อย...นอกเหนือจากบันได้ที่ใช้ตามปกติ
จากแนวคิดนี้
บ้านหลังนี้กลายเป็น Slider ขนาดมหึมา ที่เหล่าบรรดาเด็กน้อยสนุกสนานกับการอยู่อาศัย ตลอดวัน ตลอดคืน...ถึงขั้นไม่ยอมไปโรงเรียน (อันนี้ผมเพิ่มเอง...ตามนิสัยสมัยละอ่อน)
โอ้ว...มันเป็นบ้านที่น่าสนุกอะไรอย่างนี้...คิดเองนะ ดูจากสีหน้าหนูน้อย
และยังเติมพื้นที่สนุกจริงกับ Ball Room ในส่วนพื้นที่ชั้นสอง โดยเปิด Space โล่งขึ้นไปถึงชั้นสาม และให้แสงสว่างจากช่องด้านบนลงมา เพื่อเพิ่มอรรถรสของความสนุกมากขึ้นไปอีก...อะไรมันจะสนุกขนาดนี้
และนอกจากนี้ ตามพื้นที่หยุดของชานสไลด์ก็จะเป็นพื้นที่นั่งจุ้มปุ๊ก โดยมีชั้นหนังสือและของเล่นหยอดมันไว้เป็นจุด ๆ เพื่อเปลี่ยนจังหวะกิจกรรมการละเล่นของพวกเค้า...
ผมมองว่านับว่าการออกแบบครั้งนี้ ประสบความสำเร็จอย่างสูง และเป็นสถาปัตยกรรมที่เพิ่มมูลค่าทางด้านจิตใจให้แก่ผู้อยู่อย่างถึงที่สุด
และผมเชื่อว่า...เมื่อเด็กน้อยทั้งสามโตขึ้น เมื่อเค้าจะไปโรงเรียน ไปมหาวิทยาลัย ไปทำงาน หรือไปไหน ๆ ต่อไปก็ตาม
จากชั้นสามไปชั้นหนึ่ง เค้าคงไม่เลือกใช้บันไดเพื่อสัญจร...โดยไม่จำเป็น
ก็ในเมื่อเค้ามีเจ้า Slide House เป็นไทม์แมชชีน ที่มีมีอยู่จริง มีในบ้านหลังนี้ของพวกเค้า...
เพราะมันสร้างพฤติกรรมของ "ความสนุก" "สุนทรียภาพ" ของความทรงจำที่ดีให้กับพวกเค้าติดตัว ติดตา และติดใจไปตลอดกาล
จบ...
ปล. เรื่องราวทั้งหมดข้างต้นกระผมไม่ได้แปลเรียบเรียงมา อาศัยเดามั่ง ทึกทักเอาเองมั่งจากภาพลักษณ์ของสถาปัตยกรรมที่ปรากฏ ดังนั้นข้อมูลอาจไม่ตรงตามความเป็นจริง
อ้อ...เกี่ยวกับเมือง Nakameguro บล็อกนี้อธิบายชัด ภาพสวยสุดยอดเลยครับ
You need to be a member of PORTFOLIOS*NET to add comments!
Join PORTFOLIOS*NET