เราจะใกล้ชิดสายฝนได้มากแค่ไหน เป็นคำถามที่แสนง่ายเพราะทุกคนต่างเคยโดนฝนหล่นใส่ให้เปียกกันมาทั้งนั้น แล้วจะเป็นไปได้หรือหากเราจะยังคงอยู่ท่ามกลางสายฝนโดยไม่เปียกเลย นี่คือคำถามที่ท้าทายและชวนหาคำตอบ

จินตนาการของคนช่างฝันที่อยากจะอยู่ท่ามกลางสายฝน ท่ามกลางเหล่าหยดน้ำที่หล่นรัวดังเสียงกลองโดยไม่ต้องกลัวเปียกนี้คงเป็นอะไรที่สง่างาม มันเป็นการสัมผัสบรรยากาศสายฝนอย่างใกล้ชิดเป็นกันเองและคงเป็นไปไม่ได้เลย เพราะในชีวิตจริงเราคงได้แต่จ้องมองสายฝนผ่านกระจกภายในอาคาร  ไม่ก็อาจรู้สึกไม่เป็นมิตรกับฤดูอันแสนชุ่มชื่นนี้

แต่ภายในห้องแสดงนิทรรศการ Rain Room โดยนักออกแบบจาก rAndom international นี้กำลังทำสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ให้เป็นไปได้ พวกเขานำพาเราเข้าไปสัมผัสประสบการณ์เป็นส่วนหนึ่งกับสายฝนอย่างใกล้ชิดที่สุดแบบไม่เคยเป็นมาก่อนโดยไม่ต้องกลัวว่าจะเปียกปอนใดๆ

การแสดงชิ้นนี้ถูกจัดขึ้นที่ Barbican’s The Curve Gallery ใน ลอนดอนตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อนได้รับเสียงตอบรับและความชื่นชมจากผู้เข้าชมผลงานเป็นอย่างมาก บางคนต้องยืนรอคิวยาวเหยียดกว่า12ชม.เพื่อจะได้มีโอกาสสัมผัสกับปรากฏการณ์พิเศษนี้ จากนั้นผลงานชิ้นนี้ได้ย้ายไปจัดแสดงที่ Museum of Modern Art ที่ New York ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

นักออกแบบต้องใช้พื้นที่กว่าร้อยตารางเมตรมาเป็นช่องเพื่อปล่อยน้ำให้หล่นผ่านเช่นเดียวกับสายฝน และออกแบบพื้นป้องกันการกระเซ็นของน้ำ พวกเขาติดตั้งระบบเซนเซอร์ที่จะจับจ้องการเคลื่อนไหวของร่างกายผู้คนที่เข้าในบริเวณนั้น เมื่อร่างกายขยับสายน้ำบริเวณนั้นก็จะหยุดไหลไปโดยอัตโนมัติ ทำให้รู้สึกราวกับผู้เข้าชมงานกลายเป็นผู้ควบคุมสายฝนไปซะเอง หลายคนพูดถึงนิทรรศการภายในห้อง Rain Room นี้ว่า มันช่างเป็นประสบการณ์แห่งมายาที่สมจริงที่ชวนหลงใหลจริงๆ  

[ Via:  rAndom international ]