INTERVIEW: "เส้นทางของการเป็นช่างภาพแฟชั่นมืออาชีพ" (Shutter Photography Magazine 2007)


Shutter Photography Magazine

INTERVIEW:
Thanaboon Sombon

เส้นทางของการเป็นช่างภาพแฟชั่นมืออาชีพนั้นเริ่มมาได้อย่างไรคะ

"จริงๆ แล้วผมเรียนทางด้านคอมพิวเตอร์ครับ หลังจากจบก็ทำงานเป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์ได้ไม่นานก่อนที่จะตัดสินใจเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการคือการเป็นช่างภาพอาชีพ หลังจากจบการศึกษาด้านการถ่ายภาพจากต่างประเทศ ผมใช้ชีวิตทำงานหาประสบการณ์และสร้างผลงานอยู่ร่วมสิบปี จากนั้นจึงตัดสินใจกลับมาเริ่มชีวิตที่เมืองไทยเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว ตั้งแต่นั้นมาก็เริ่มทำงานถ่ายภาพแฟชั่นและโฆษณาให้กับนิตยสารและเอเจนซี่ต่างๆ ครับ"



อะไรคือจุดเปลี่ยนจากวิศวกรจบใหม่ไฟแรงกลายมาเป็นช่างภาพมีชื่ออันดับต้นๆ ได้คะ

"เป็นคนที่รักการถ่ายรูปมาตั้งแต่เด็กจะถ่ายรูปทุกครั้งที่มีโอกาส จริงๆ ไม่คิดว่ามาทำเป็นอาชีพ จนกระทั่งเรียนจบและมาเริ่มทำงานประจำ วันหนึ่งผมนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์นานมากจนล้า อยู่ๆ ก็ถามตัวเองว่าเราจะต้องทำงานอยู่แบบนี้ไปตลอดชีวิตเลยเหรอ ทำไมเราต้องทำงานกับสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ชอบแถมต้องทรมารร่างกายอีก จึงตัดสินใจไปเรียนต่อทางด้านการถ่ายภาพสิ่งที่คิดว่าเป็นสิ่งที่เรารักที่สุด การได้ทำงานในสิ่งที่เรารักนี้คือความสุขที่สุดแล้วครับ"


จากผลงานที่ทำแล้วแนวภาพถนัดน่าจะเป็นงานถ่ายแฟชั่น จึงอยากทราบว่ามีเทคนิคในการถ่ายภาพแฟชั่นอย่างไรบ้างคะ

"งานของผมจะเน้นที่อารมณ์ของแบบและภาพเป็นหลัก ผมให้ความสำคัญกับการสื่อสารกับมาก ผมถือว่าถ้าเราสามารถกำกับแบบให้สามารถเสดงอารมณ์ตามที่เราต้องการแล้วถ่ายทอดไปยังผู้ที่ดูภาพของเรา แล้วเค้าได้รับสางที่เราต้องการถ่ายทอดได้ ผมถือว่าผมประสบความสำเร็จครับ ผมไม่ได้เริ่มจากการเรียนสายศิลปะมาโดยตรงเวลามองงานจะมองสองมุมทั้งที่เป็นศิลปะและไม่ใช่ ผมมักจะใช้เกณฑ์ที่ไม่ลึกซึ่งเกินไปจนคนทั่วไปไม่เข้าใจ ผมมักจะสื่อสารอะไรง่ายๆ ตรงไปตรงมาชัดเจน

งานแฟชั่นส่วนใหญ่ของผมจะสอดแทรกอารมณ์ความเซ็กซี่ลงไปด้วยเสมอ เวลาที่ผมถ่ายภาพจะคิดว่าจะทำอย่างไรให้แบบของเราออกมาดูดีที่สุด เมื่อว่าจะเป็นคอนเซ็ปคนป่า นางแบบของผมก็ต้องเป็นคนป่าที่ดูดีที่สุด ผมจะมองในแง่ของคนทั่วไปที่มองความเซ็กซี่ ไม่ได้มองในมุมมองของศิลปินที่มองแบบศิลปะทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์ ง่ายๆ คือผมจะพยายามสื่อสารว่าทำอย่างไรให้นางแบบของผมดูดีที่สุดในมุมมองของผู้ชาย ในแบบที่ผู้ชายมองผู้หญิง ตรงนี้ก็ตอบโจทย์ทั้งหมดแล้วครับ"

สาเหตุที่ถ่ายภาพเซ็กซี่ได้สวยเพราะว่าเคยอยู่ในกลุ่มของผู้ดูมาก่อนแล้วรึเปล่าคะ

"คิดว่ามีส่วนครับ ช่วงที่ผมที่กลับมาแรกพยายามขายงานที่เป็นทางแนวนี้เป็นส่วนใหญ่ พอดีช่วงที่ยังไม่มีช่างภาพลงมาทำกันแบบชัดเจน งานผมไม่ต้องการความเป็นแฟชั่นมากถึงร้อยเปอร์เซ็น เน้นขายผู้ชายเป็นหลัก ผู้ชายให้ความสำคัญกับเรือนร่างของนางแบบมากกว่าเสื้อผ้า เสื้อผ้าเป็นองค์ประกอบที่ทำให้ภาพมีสีสันมากขึ้นไม่มีไม่ได้ คำว่าแฟชั่นก็บอกอยู่แล้วว่าคุณต้องขายเสื้อผ้า เราจะต้องมีคอนเซ็ปของงานก่อนว่าจะสื่อออกมาแนวทางไหน สื่อออกมาอย่างไรให้แตกต่างจากคนอื่น

"การถ่ายแฟชั่นผสมผสานกับความเซ็กซี่คืองานที่ผมถนัด ผมจะเน้นในเรื่องการสื่ออารมณ์ของแบบทั้งใบหน้าและตาเป็นหลัก การถ่ายแฟชั่นเราต้องการนำเสนอเสื้อผ้า แบบของเราต้องสามารถดึงดูดคนให้มาหยุดอยู่ที่ภาพของเราได้ ต่อให้เสื้อผ้าสวยขนาดไหนถ้าคุณไม่สามารถถ่ายทอดอารมณ์อารมณ์ที่คุณต้องการไปสู่นางแบบได้ นางแบบเป็นใครก็ไม่มีประโยชน์"

"ผมมักจะถ่ายทอดความเซ็กซี่จากในมุมมองของผมเอง ผมไม่คิดว่าตัวเองเป็นศิลปินแต่คือคนที่ต้องการถ่ายทอดความรู้สึกของแบบและคอนเซ็ปต์ของงานลงไปในภาพ ผมไม่ได้เป็นศิลปินมากจนเอาความคิดตัวเองเป็นหลัก จะคิดเสมอว่าเราทำงานให้ใครเสพและเราต้องตอบโจทย์ตรงนั้น แต่สิ่งที่อยู่ในหัวตลอดเวลาระหว่างการทำงานจะทำอย่างไรให้แบบที่ยืนอยู่ตรงหน้าเราออกมาดูเซ็กซี่ชวนมองที่สุดที่สุด แบบผู้ชายเห็นแล้วต้องหยุดดูหรือผู้หญิงเห็นแล้วอิจฉา โดยที่เราจะต้องเป็นคนดึงความเซ็กซี่ของนางแบบออกมา ผมว่าผมมีถนัดในการดึงอารมณ์ของของแบบนะ ชอบที่จะดึงความเซ็กซี่เฉพาะตัวของนางแบบแต่ละคนออกมา ผมจะแบ่งเป็นความเซ็กซี่ออกไปอีกหลายแบบเป็นต้นว่า แบบเศร้า แบบเหงา แบบมีความสุข แบบความดุดัน หรือเซ็กซี่แบบอ่อนโยน ในขณะที่บางคนเซ็กซี่ว่ามีเพียงอย่างเดียว ปกติผมไม่ถ่ายภาพนูด แต่ผมเชื่อว่าผมสามารถทำให้นางแบบที่มีเสื้อผ้าปกคลุมร่างกายอยู่ออกมาดูเซ็กซี่ชวนมองได้มากกว่านางแบบที่ยืนเปลือยกายอยู่เฉยๆ ข้างหน้าคุณ"



แล้วมีเทคนิค วิธีการสื่อสาร กับคนที่มาเป็นแบบให้เราอย่างไรบ้างค่ะ

"เราต้องบอกแบบของเราก่อนว่าเราต้องการอะไร อารมณ์แบบไหน บางครั้งแบบอาจจะทำได้มากหรือน้อยเกินกว่าที่เราต้องการ เราต้องควมคุมตรงนี้ให้ได้ เช่นถ้าคุณต้องการให้แบบของคุณเป็นสาวเซ็กซี่ขี้เมา คุณก็ต้องทำให้เค้าออกมาเป็นขี้เมาที่สวยที่สุดในโลกให้ได้ ถ้าผมจะให้แบบออกมาดูมีความสุขจะไม่ใช่แค่ให้มายืนยิ้มหน้ากล้องเฉยๆ แต่ตาแบบของแบบต้องยิ้มไปด้วย เราต้องการสร้างบรรยากาศ เราต้องทำให้เค้ารู้ชัดเจนว่าเเราอยากให้เป็นเค้าเป็นอารมณ์แสดงอารมณ์อย่างไร ผมจะเน้นการถ่ายทอดอารมณ์ทางใบหน้าและดวงตาเป็นหลักครับ



โดยส่วนตัวเลือกนางแบบมาถ่ายเองด้วยรึเปล่าคะ

"ครึ่งๆ ครับ อยู่ๆ เกิดเจอใครเข้าตาขึ้นมาก็จะชวนมาถ่ายเลย แต่บางครั้งก็จะมีโจทย์มาให้ว่าเราเลยจะต้องถ่ายใคร จากนั้นเราก็ต้องมานั่งทำการบ้านว่าอยากให้คนๆนี้ออกมาเป็นแบบไหน คอนเซ์ปต์อะไร ผมชอบที่ทำให้แบบของผมออกมาในแบบที่ทุกคนไม่เคยเห็นมาก่อน หรือไม่ก็ดึงคาแรคเตอร์ของเค้าออกมาแล้วคูณเข้าไปอีกสิบ ถ้าเป็นนางเอกช่างวีนก็อาจจะจับใส่คอนเซ์ปต์ให้เป็นอสูรกายขี้โมโห ตอนคิดถ้าทำให้คนเซอร์ไพส์ได้จะเป็นส่วนที่สนุกที่สุดครับของการเตรียมงานครับ"



ถ้าจะให้พูดถึงว่าคนที่อยากจะก้าวเข้ามาในแวดวงของการถ่ายแฟชั่นกึ่งอิโรติก ว่าจะต้องทำอะไรบ้างถึงจะถ่ายภาพแฟชั่นกึ่งอิโรติกออกมาสวย

"คงต้องมีพื้นฐานการถ่ายภาพมาในระดับหนึ่ง เดี๋ยวนี้เมืองไทยมีที่เรียนดีถ่ายภาพๆ แยะมาก อาจารย์ส่วนหนึ่งก็เป็นช่างภาพอาชีพเก่งที่ได้ไปศึกษาจากต่างประเทศมา จึงไม่จำเป็นเลยที่เราจะต้องไปศึกษาที่ต่างประเทศเหมือนแต่ก่อนซึ่งมีที่เรียนไม่กี่แห่ง หรืออีกทางคือเริ่มจากการป็นผู้ช่วยช่างภาพ วิธีนี้เราจะต้องไปเรียนรู้เองจากการทำงาน อาศัยศึกษาและสังเกตุการทำงานของช่างภาพมืออาชีพถือว่าเป็นทางลัดอีกแบบหนึ่งซึ่งอาจใช้เวลามากหน่อย ช่างภาพมีชื่อเสียงหลายๆ คนก็เริ่มมาจากตรงนี้


กล้องส่วนใหญ่ที่ใช้มีอะไรบ้างและเลือกใช้อย่างไรคะ

"ที่ใช้ประจำก็จะเป็นกล้องดิจิตอลและฟิล์มสลับกัน หลักๆ ในสตูดิโอก็จะเป็นกล้องดิจิตอล PhaseOne Digital Back ถ้าเป็นงานนอกสตูดิโอที่ต้องการความคล่องตัวสูงก็จะให้กล้อง Canon EOS 1DS Mk II ครับ"


อยากทราบว่าตอนนี้ทำงานอะไรอยู่บ้างคะ

"นอกจากถ่ายภาพแฟชั่นและโฆษณาให้กับลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ แล้วก็เป็น Photography Director ทำหน้าที่ดูแลด้านภาพถ่ายให้กับบริษัท Inspire Entertainment ผู้ผลิดนิตยสาร ARENA, FHM, Car, Stuff, Casa Viva, Ray และ Cawaii ครับ และเรากำลังจะมีนิตยสารใหม่อีก 3 เล่มเข้ามาภายในปลายปีนี้ครับ



ผลงานชิ้นไหนที่ทำแล้วประทับใจมากที่สุดคะ

มีหลายชิ้นเลยครับ แต่ที่พูดถึงบ่อยๆ ก็คงจะเป็นงานที่ถ่ายโอเด็ตให้กับปกหนังสือ Mars เมื่อหลายปีก่อนครับ เป็นงานที่สร้างกระแสให้กับตัวเองมากในช่วงที่กับมาใหม่ๆ ทราบว่ามีหนังสือหลายเล่นติดต่อเราเพราะงานเซ็ตนี้ แล้วก็ล่าสุดน่าจะเป็นงานที่ถ่ายหยาดทิตย์ให้กับปกนิตยสาร FHM ครับ เป็นการเปลี่ยนภาพของน้องเค้าจากสาวหวานให้เป็นสาวเซ็กซี่แบบดุดัน คนพูดถึงกันพอสมควรครับ



แล้วทำงานกับนางแบบคนไหนประทับใจบ้างคะ

"น่าจะเป็นโอเด็ตครับ เป็นนางแบบที่ทำงานเร็ว มีความเป็นมืออาชีพสูง ทำงานด้วยกันบ่อยครับ ส่วนหยาดทิพย์นี้ผมชอบมากที่โครงหน้าแถมยังมีดวงตาที่สวยมากอีก เป็นเด็กที่น่ารักทั้งคู่ครับ


อยากให้พูดถึงเวิร์คช็อป 50% EROTIC ที่กำลังจะมีขึ้นคะ

50% EROTIC สมดุลยภาพของการถ่ายภาพแนวอิโรติกและแฟชั่น เป็นการร่วมมือกันกับ BIG CAMERA จัดขึ้นมา เป็นการทำ Workshop ในรูปแบบใหม่ที่ยังไม่มีใครเคยทำมาก่อนเรากำลังจะปฏิวัติการจัดกิจกรรม Workshop ให้กับวงการถ่ายภาพ เราได้ทำการวิเคราะห์ Workshop ต่างๆ ที่มีอยู่จนออกมาเป็นวิธีการทำ Workshop แบบใหม่นี้ครับ

50% EROTIC เป็น Workshop ขั้นแอดวานส์สำหรับผู้ที่มีความรู้พื้นฐานการถ่ายภาพมาบ้างแล้ว และสนใจที่จะศึกษาขั้นตอนของการทำงานการถ่ายทำภาพแฟชั่นกับทีมงานมืออาชีพ โดยจะใช้การถ่ายภาพแนวแฟชั่นกึ่งอิโรติกเป็นสื่อ เป็นการรวมตัวของเกจิชื่อดัง อ.นิวัติ กองเทียน แฟชั่นสไตลิสต์ระดับแนวหน้า และนางแบบมืออาชีพ มาให้ความรู้เกี่ยวกับการทำงานแฟชั่นอย่างละเอียดทั้งภาพทฤษฎีและปฎิบัติ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมดีๆ สำหรับผู้ที่เข้าร่วมทำ Workshop อีก รับรองว่าคุณจะหาประสบการณ์อย่างนี้จากที่ไหนไม่ได้เลยอีก



อยากให้อธิบายความหมายของ 50% EROTIC คะ

EROTIC คือเรื่องที่เกี่ยวกับการเร่งเร้า แรงปรารถนา ความหลงใหล ใคร่รัก ภาษาอังกฤษเรียกว่า sexual love and desire รากศัพท์เดิมของ อีโรติก มาจากคำว่า Eros ซึ่งดั้งเดิมมี ความหมายในทางบวก หมายถึง เทพอีรอส ที่งามพร้อม แต่ต่อมาเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นชั่วร้ายจนกลายเป็น ปีศาจ ปัจจุบันเรามักจะพูดถึง อีโรติก ในแง่การแสดงออกถึง ความปรารถนาทางเพศ ที่แสดงออกทาง ศิลปะ บทกลอน ความรัก เรื่องลึกลับ และ จิตวิญญาณ คำว่า อีโรติก จึงไม่ได้หมายถึงความโป๊เปลือยเพียงอย่างเดียว

50% EROTIC เป็นคำจำกัดความของงานถ่ายภาพแนวแฟชั่นกึ่งอิโรติกของผม เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างทั้งสองอย่าง เป็นแนวการถ่ายภาพแฟชั่นที่นำเอากลิ่นไอของความเป็นอิโรติกเข้ามารวม ไม่มีเรื่องโป๊เปลือยแต่ใช้การแสดงออกทางด้านอารมณ์มาแทน ดึงความลึกลับเข้ามาใช้ รวมถึงการใช้แสงเพื่อเพิ่มบรรยกาศของภาพให้ดูลึกลับเร่าร้อน หรือการเลือกใช้เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายและการจัดฉากที่ทำให้เพิ่มอุณหภูมิของภาพร้อนแรงยิ่งขึ้น หลังจากเสร็จการทำ workshop ผู้ที่เข้าร่วมจะได้ทราบว่า Sexy และ Erotic นั้นแตกต่างกันอย่างไรครับ และอาจจะหลงไหลไปกับงานถ่ายภาพแนวแฟชั่นกึ่งอิโรติกหรือ 50% EROTIC นี้ไปเลยก็ได้ครับ

และถ้าคุณคิดว่าการถ่ายภาพให้ดีเป็นสิ่งที่ยาก Workshop นี้จะเปลี่ยนความคิดของคุณครับ

Views: 4612

Comment

You need to be a member of PORTFOLIOS*NET to add comments!

Join PORTFOLIOS*NET

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service