"ว่าด้วยเรื่องของการกระทำทุกอย่างบนโลก = แรงสะท้อนกลับหมดเสมอ"

 

เปิดหัวข้อมาถ้าเป็นนักเรียนวิทยาศาสตร์จะต้องรู้ทันทีว่า นี่คือกฎข้อที่สามของนิวตัน หรือเรียกว่ากฎของแรงปฏิกิริยา ซึ่งผู้ที่ค้นพบก็คือ เซอร์ ไอแซค นิวตัน นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ ผู้ที่ค้นพบแรงโน้มถ่วงของโลกจากการไปนอนเล่นใต้ต้นแอปเปิ้ล แล้วเกิดคำถามว่าทำไมผลแอปเปิ้ลถึงร่วงตกสู่พื้นหว่า ทำไมไม่ลอยไปในอากาศหว่า?......เข้าใจคิดเน๊อะ

 

Action = Reaction ถ้าเป็นในทางวิทยาศาสตร์เป๊ะๆ ตามที่คิดไว้แต่ต้นแล้วแปลได้ว่า แรงที่วัตถุที่หนึ่งกระทำต่อวัตถุที่สอง ย่อมเท่ากับ แรงที่วัตถุที่สองกระทำต่อวัตถุที่หนึ่ง แต่ทิศทางตรงข้ามกัน (วิชาการไปไหนจ๊า) ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราปาลูกบอลใส่กำแพงด้วยความแรง ยิ่งแรงเท่าไรลูกบอลก็จะกระดอนกลับมาด้วยความแรงเท่านั้นเช่นกัน

 

Action = Reaction ถ้าเป็นในทางพุทธศาสนา อาจจะแปลได้ว่าก่อกรรมทำชั่วอะไรไว้ กรรมก็จะตามสนองเท่ากับความชั่วร้ายที่ได้ทำไว้เท่านั้น หรือในทางกลับกันถ้าเราทำดีเราก็จะได้สิ่งดีๆ กลับมาเช่นกัน ตามสำนวนที่ว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วนั่นเอง 

 

Action = Reaction ถ้าในทางปรัชญาจีนแล้ว อาจจะเหมือนกับสุภาษิตที่ว่า ใครไปกระทำผู้ใดให้แค้นเคืองก็จะต้องถูกชำระแค้น จนกลายเป็นแค้นนี้ต้องชำระ หรือแก้แค้นสิบปีไม่สาย อะไรเทือกๆ นั้นน่ะค่ะ เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า

 

Action = Reaction นั้นเป็นเรื่องสามัญและสากล สามารถใช้ได้ครอบคลุมไปทั่วโลกและกฎมณเฑียรบาลเลยทีเดียวเชียวล่ะ ที่ยกเรื่องนี้มาพูดถึงก็เนื่องจากพบว่าบางทีสิ่งที่เป็นเรื่องเฉพาะเจาะจง อย่างกฎข้อนี้ในทางวิทยาศาสตร์ที่ดิฉันได้ร่ำเรียนมาสมัยยังเยาว์นั้น ไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่อยู่ในตำราเด็กวิทย์ แต่สามารถนำมาใช้เป็นหลักการในดำเนินชีวิตประจำวันได้เหมือนกัน ยกตัวอย่างง่ายๆ แบบเด็กน้อยเลยนะคะ อย่างเรายิ้มให้ใครสิ่งที่ได้รับกลับมาคือรอยยิ้มเช่นกัน เราเอ่ยทักทายใครก่อน สิ่งที่ได้กลับมาก็คือการทักทายตอบ เราหน้าบึ้งใส่ใครเขาก็คงขมวดคิ้วกลับมาใส่เราเหมือนกัน อันนี้เป็น

 

Action = Reaction แบบง่ายๆ ค่ะ ดิฉันมีพี่ที่รู้จักคนหนึ่ง เคยมาตัดพ้อทำหน้าตาโศกเศร้าเล่าความในใจให้ฟังว่า ทำไมไม่มีใครเข้าใจเขาเลย เขารู้สึกเหมือนไม่มีใครรักเขา เหมือนพูดกับใครไม่รู้เรื่อง เหมือนเพื่อนไม่สนใจ ทำไมๆๆๆๆ ?? ซึ่งดิฉันก็ไม่แปลกใจเท่าไรค่ะ เพราะพี่เขาเป็นคนอารมณ์ร้อน โกรธง่าย หายเร็ว ขึ้นเร็วลงเร็ว แต่ช่วงที่ขึ้นอยู่นั้น โอ้โห โหมโรงเหมือนพายุลมบ้าหมู จนหลายคนเอือมระอา และเป็นคนเข้าถึงยากเพราะคุณพี่อีโก้แรงมาก เหมือนเชื่อมั่นสิ่งใดแล้วยากที่หักความคิดนั้นให้หันกลับมาได้ คนรอบข้างจึงพากันถอยห่าง แบบว่าหลบดีกว่าเพื่อความสบายใจ (รวมทั้งดิฉันเองด้วย) จนวันที่เขามานั่งเล่าความในให้ฟัง ซึ่งไม่อยากจะบอกเขาเลยว่า ตัวของพี่เองนั่นล่ะเป็นคนทำให้คนรอบๆ ข้างพี่เป็นแบบนี้ ก็เวลาคุณพี่หงุดหงิดนั้นฟาดงวงฟาดงา พาลด่าพ่อ พออารมณ์ดีจะมาล้อเล่นตบหัวกันคงไม่มีใครเขาสนิทใจด้วย ใครเตือนใครท้วงติงก็เขม่นตาขวาง

 

นี่เป็นอีกตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นของการ Action ของเราในชีวิตประจำวันออกไปอย่างไร ก็จะได้ Reaction จากคนรอบข้างกลับมาอย่างนั้น เพื่อนสาวคนหนึ่งของดิฉันเป็นคนทำงานออฟฟิศธรรมดาค่ะ โสดเป็นพักๆ รักเป็นช่วงๆ แต่มีอยู่บางช่วงเรทติ้งตกมีแต่ผู้ชายเกรดต่ำกว่า B มาจีบ (ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เกรด A = เดวิด แบคแฮม, เกรด B = จอนนี่ เดป, เกรด C = มิสเตอร์บีน) จนเพื่อนดิฉันเกิดอาการจิตแตก นี่เธอดูแย่ หรือว่าเธอมีพฤติกรรมส่อเช่นไรถึงทำให้มีแต่ผู้ชายแบบนี้มาจีบ จึงทำให้คิดได้เหมือนกันนะคะว่า บางทีการวางตัวของเราเองที่เป็นตัวกำหนดท่าทีของผู้ที่ต้องการจะเข้ามาหาเราเหมือนกัน ถ้าเราทำตัวเข้าถึงง่ายจนเกินไปอาจกลายเป็นของสาธารณะไปได้ แต่ถ้าทำตัวยอดตึกแอมไพร์สเตทมากเกินไป ก็เชิญอยู่บนนั้นไปคนเดียวเถอะ การวางตัวก็เป็นตัวอย่างของ

 

Action = Reaction ได้เหมือนกันค่ะ บางทีเรามองคนบนท้องถนน มองขอทาน มองคนเร่ร่อน มองคนร่ำรวย บางคนหน้าตาเห่ยแต่แฟนหล่อโคตรๆ ทุกอย่างมีที่มาและที่ไป เขาทำอะไรมาถึงต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ เขาไปจีบกันอีท่าไหนถึงได้แฟนหล่อขนาดนั้น ก่อนที่จะมาถึงจุดๆ นี้ มันต้องผ่านจุดเริ่มต้น จนในที่สุดก็มาถึงสถานะที่เราเป็นอยู่ ซึ่งล้วนมาจากการ Action ของเราในอดีตที่ผ่านมาทั้งนั้น และสิ่งที่เรามีอยู่ในปัจจุบันก็คือ Reaction ของการ Action ของเราเอง ต้องขอขอบคุณ เซอร์ ไอแซค นิวตัน ที่ค้นพบกฎของธรรมชาติข้อนี้ แม้สิ่งที่เขาคิดในตอนแรกจะนำมาใช้ในการคำนวณหาแรงของวัตถุกระทำต่อวัตถุเท่านั้น แต่สิ่งที่เขาค้นพบนี้ ยิ่งใหญ่ ยืนยง แท้จริง และครอบจักรวาล เป็นทั้งกฎ ทั้งปรัชญา ทั้งแนวคิด และหนทางประสบความสำเร็จอีกด้วย ดังที่เคยมีคนกล่าวไว้ว่า “ความสำเร็จไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง” Action = Reaction เป๊ะ!

 

บทความโดย : HappyAnncan 

 

- วันนี้นั่งใจลอยๆก็นึกถึงสมัยเรียนฟิสิกส์ตอนชั้นมัธยมปลายขึ้นมา เมื่อนึกถึงฟิสิกส์เมื่อไหร่เป็นต้องนึกถึงกฎของแรงกระทำข้อนี้เสมอ "Action = Reaction" เรื่องกฎแรงกระทำ ในชั้นเรียนมีการให้ทดลองกระทำดูว่า ไอ "Action = Reaction" มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นจริงในโลกจริงหรือ? ทุกแรงกระทำต้องมีการสะท้อนกลับหมดจริงหรือ? ... โดยอ.จะมีอุปกรณ์ให้ทดลองเพียงแค่ลูกบอลเล็กๆแต่น้ำหนักพอดีมือให้เพียงลูกเดียว และให้ทุกคนทำการขว้างบอลนั้นใส่กำแพง เราทุกคนได้ลองทำกันปาลูกบอกนั้นออกไปอย่างเบามือเพื่อระมัดระวังไม่ให้กระแทกโดนกัน และผลลัพธ์ของมันคือบอลเล็กๆแต่มีน้ำหนักพอตัวนั้นก็กระเด้งสะท้อนกลับมาในอัตราความแรงเท่าที่ได้ปาออกไป และในขณะนั้นเอง นายแบงค์ หัวโจกเพิ่งเดินมาเข้าชั้นเรียนหลังจากที่ได้ไปมีเรื่องมีราวกับนักเรียนรุ่นพี่ ในขณะที่เวลาเรียนได้ล่วงเลยไปเกิน 20 นาทีแล้ว ... เขาเดินเข้ามาอย่างไม่ยี่หระต่ออาจารย์และเพื่อนในห้องแต่อย่างใด ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว อ.ก็ไม่รีรออะไร ยื่นลูกบอลขนาดพอดีมือให้เขาและบอกให้เข้าร่วมทำการทดลองกับเพื่อนในชั้น ... "อ้าว...เฮ้! ชม.นี้ไม่เรียนฟิสิกส์กันรึไง มาอัดบอลใส่กำแพง อย่างงั้นก็สนุกสิ!!" ... นายแบงค์ไม่รีรอคว้าบอลจากมือเขวี้ยงอัดใส่กำแพงอย่างสุดแรงหวังเพียงเพื่อระบายอารมณ์กับเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไป ... และแน่นอน ธรรมชาติของโลกที่ขึ้นตรงต่อกฎ "Action = Reaction" ก็ไม่รอช้าที่จะรักษากฎของมัน บอลลูกเล็กแต่มีน้ำหนักพอตัวได้กระเด้งเข้าอัดหน้าของนายแบงค์เข้าอย่างจัง!!

"ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" < เสียงหัวเราะของทุกคนในห้องดังขึ้นพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ... อ.ประจำวิชาเดินเข้ามาหาตัวเขาอย่างใจเย็น เพื่อดูอาการ เมื่อเห็นว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก จึงได้กล่าวกับนายแบงค์ว่า ...

 

"เป็นยังไงหละ ไปอัดคุณกำแพงเขาซะแรงเท่าไหร่ เขาก็อัดนายได้แรงเสมอกันนั่นแหละ" :)

 

เอ๊ะ! เล่าไปเล่ามาเหมือนบรรยายนิทานอิสปแฮะ! 555+ แต่เอาเถอะๆ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า.......(แน๊ะ!!)

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ... ทุกๆแรงกระทำมันมีแรงสะท้อนกลับค่อยๆคืบคลานไปหาแรงกระทำเสมอ...(หึหึหึ.......) ;D

Views: 25723

Comment

You need to be a member of PORTFOLIOS*NET to add comments!

Join PORTFOLIOS*NET

Comment by Dhurayodh on June 16, 2011 at 2:01pm
ยาวจริงๆ
Comment by Sk.z on May 29, 2011 at 10:28pm

โอ้โห...นั่นก็ซับซ้อนซ่อนเงื่อนเกินไปค่า 555+

Comment by บวร on May 27, 2011 at 11:29pm
ประมาณดาวินชี่เลยป่ะ ฮ่า
Comment by Sk.z on May 27, 2011 at 12:01am
ปรัชญา ธรรมะ วิทยาศาสตร์ ธรรมชาติ ... อาจจะทุกอย่างเลยก็ได้นะ :)
Comment by บวร on May 26, 2011 at 10:32pm
ปรัชญาาเเน่น  ฮ่าา

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service