"เหตุผลของปลาว่ายทวนน้ำ"

บทความนี้อุทิศแด่ แซลมอนน้อยในร้าน ชาบูชิ
สิ่งที่ข้าพเจ้าได้เรียนรู้จากฟฤติกรรมของปลาตัวน้อยที่ข้าพเจ้าได้ศึกษา
มันทำให้ข้าพเจ้าเชื่อมั่นในตัวเองในการเผชิญความฝั่นและเตรียมใจที่จะอ่อนล้า
สิ่งที่ข้าพเจ้าจะเล่านี้ ท่านจะไม่ได้อะไรเลย
" ถ้าท่านไม่ยอมสมติตัวเองว่าท่าน ณ ขณะนี้คือปลาตัวนั้นแล้ว"
จดปลาหนุ่มที่มีนิสัยไม่ต่างจากสัตว์ชนิดอื่นๆ ที่อาศัยในท้องทะเลสาบในทะเลสาบที่คนทั่วโลกรู้จัก
แต่ต่างเพียงอย่างเดียวคือพ่อและแม่ของจดเป็นปลาที่ชาวโลกเรียกพวกมันว่า " ปลาแซลมอน"
พ่อและแม่ของจดหลงกับฝูงเมือกลางปีที่แล้วจึงได้หยุดเพื่อจะได้วางไข่ให้จดและพี่น้องเกิด
แล้วจะเดินทางต่อ จนจดตัวโตเป็นหนุ่มและหาคู่เพื่อพร้อมวางไข่
ชีวิตของจดดำเนินไปตามวิถีของปลาหนุ่มที่มีเพื่อนๆเป็นสัตว์น้ำทั่วไปดำเนินกัน......
จนในฤดูฝนได้เข้ามาถึง
เช้าที่มืดมนของเดือนกรกฎาที่มนุษย์เข้าใจในวันที่ 11 จดรู้สึกได้ถึงการสั้นไหวบนผิวน้ำที่เกิดจากการกระทบ
ของหยดน้ำที่ไหลจากท้องฟ้าแทนที่จดจะได้สนุกกับการว่ายเล่นหยดฝน จดรู้สึกได้ได้ถึงแรงสกิตที่เกิดจากห่าง.............
ภาพที่จดเหนนั้นคือผู้เป็นพ่อที่เรียกลูกชายเพื่อการเดินทางเพื่อให้โอกาศผู้เป็นน้องๆได้มาลืมตาดูโลก
การเดินทางได้เริ่มต้นแล้ว..............จดปลาหนุ่มดีใจที่กำลังได้ออกจากแหล่งน้ำที่คุ่นเคยมาตลอดชีวิต
ทุกตัวพร้อม จดปลาหนุ่มรีบร้อนของว่ายนำหน้าแต่ไม่ทันได้ไปไกล แรงตวัดที่เกิจากหางทำให้จดเสียหลักในการว่าย
เค้าหยุดพร้อมได้ยินเสียงตะโกนบอกให้ว่ายไปอีกทาง จดปลาน้อยงงพร้อมแยงว่าตนว่ายถูกทาง
เพราะแสน้ำไปทางดังกล่าว ผู้เป็นพ่อไม่มีเวลามาอธิบายได้แต่บอกให้ว่ายตามมา จดว่ายทวนกระแสน้ำที่ไหลลง
ใช่แล้วมันเป็นเรื่องง่ายสำหรับปลาหนุ่ม...................................................................................
ผ่านมาได้เกินครึ่งทางจดปลาหนุ่มรู้สึกอ่อนล้าเหนื่อยและต้องการพักแต่ผู้เป็นพ่อและแม่นั้นได้ว่ายล่วงหน้าไปไกล
ด้วยความเป็นปลาหนุ่มจดคิดว่าตนตามทันจึงได้แอบพักหลังโขดหินเพื่อป้องกันการไหลของน้ำ
จดปลาหนุ่มที่มีความอ่อนล่าเผลอหลับและตื่นมาอีกครั้งก็ตามไม่ทันพ่อ และแม่ซะแล้ว
จดจึงรีบว่ายเพื่อตามให้ทันพ่อกับแม่แต่ยิ่งเร่งจดปลาน้อยยิ่งเกิดความอ่อนล่าและในที่สุดปลาน้อยก็หลงทาง
ปลาหนุ่มได้พบอะไรต่อมิอะไรหลายอย่างที่ไม่เคยเห็น เห็นปลาหลายหลากตัวที่วาดลงน้ำมาตามกระแส จดไม่เข้าใจ
ว่าทำไหมต้องว่าทวนน้ำ เค้าจึงตัดสิ้นใจที่จะว่ายตามกระแสน้ำเหมือนตัวอื่น และได้ร่วมฝูงไปด้วย
เค้าพบว่าการว่ายตามกระแสน้ำนั้นมันชังง่ายดาย ไม่ต้องใช้แรงอะไรเลย
สบายและยังมีของกินตลอดอีกต่างหาก จดไหลตามน้ำได้ไม่นาก็พบปลาที่มีลักษณะคล้ายจดและยังว่ายทวนกระแสน้ำ
ด้วยใจที่ยังต้องการคำตอบในการกระทำจดจึงว่ายไกลจากฝูงเพื่อไปหาคำตอบในการว่ายทวนน้ำของเค้า
พร้อมถามแซลมอนตัวโตว่า" น้าๆ ทำไมแซมอนต้องว่ายทวนน้ำด้วย "(คุณลองนึกภาพดูสิถ้าเวลาปลามันพูดมันต้องมีฟองด้วยแน่น)
ปลาตัวโตไม่ได้ตอบอะไร พูดเพียงแค่ว่าตามมาสิเจ้าจะได้คำตอบ
จดปลาหนุ่มที่อยากรู้อยากเห็นจึงตัดสินใจครั้งที่ 2 ตามไปอีกรอบ....
แต่มันไม่ง่ายเลยกลับสิ่งที่เค้าต้องเจอ
จดเจอทั้งกระแสที่ไหลบ่า แรงซัดมันทำให้จดคืดที่จะยอมแพ้
แต่ที่มันหนักกว่าที่ปลาน้อยเคยเจอของสุดยอดการว่ายคือการว่ายทวนน้ำตก(ว่ายทวนน้ำตก)
ก่อนว่ายปลาตัวโตได้บอกเทคนิคลับที่จดจะต้องว่ายขึ้นให้ได้
คุณอยากรู้ใช้ไม่ครับว่าคืออะไร แต่ผมไม่สามมารถบอกคุณได้ เพราะมันเป็นเทคนิคลับ........มันก็คงต้องเป็นความลับต่อไป
ผ่านมาแล้วสองคืนที่จดต้องดิ่นตัวเองเพื่อขึ้นไปถึงปลายน้ำตก
ความรู้สึกของเจ้าปลาน้อยตอนนี้ คือความเหนื่อย ล้า ท้อแท้ และสินหวัง ไร้หนทาง
ถ้าเป็นไปได้มันอยากที่ผูดคอตายหรือกระโดน้ำตายซะเดียวนี้
แต่โชคร้ายหน่อยที่จดดันเกิดเป็นปลาและที่สำคัญมันไม่มีมือ
ในหัวสมองของจดตอนนี้มันไม่มีอะไรนอกจากจินตนาการ
คิดถึงเพื่อนปลาที่เคยเล่นด้วยกัน
อีกไม่นานเพื่อนๆปลาที่ไม่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ คงสุขสบาย
สร้างฐานะ มีรังอันโตๆ มีความมันคงและไม่ต้องเดือนร้อน..............
และด้วยจินตนาการณ์นั้นที่ทำให้จดคิดได้ที่จะสู้ต่อในเมื่อกลับไปก็สู้เพื่อนไม่ทันแล้ว
ด้วยความทนงมันปีนขึ้นโดยไม่คิดชีวิต ทั้งที่เห็นปลายน้ำตกและหางของปลาตัวโตที่ขึ้นไปถึงก่อนหน้าไว้รอรับ
และในที่สุด......................................................
ปลาตัวโต ยิ้มและบอกกับจดว่า"คืนนี้เราจะพักก่อนค่อยไปต่อ
ในคำคืนที่เงียบสงัด มีเพียงเสียงของธารน้ำที่ไหลลงกระทบหินเบาๆ แสงนวดจากดวงจันทร์
ฉายให้เห็นภาพสะท้องบนผิวน้ำอย่างสลัวๆจากสายตาของปลาน้อย
มีเพียงปลาตัวโตกับปลาหนุ่มที่พึ่งได้สัมผัสกลับโลกแห่งความจริง
ปลาตัวโตได้เล่าอะไรหลากหลายอย่างให้จดฟัง เรื่องอะไรงั้นหรอ ลองจิตนาการดูสิครับว่าเค้าจะพูดเรื่องอะไรกัน
.......................................................................................................
ผ่านการสนทนาได้ไม่นานทั้งสองสิ้นไร้เรื่องราวที่จะเล่า ปลาตัวโตจึงบอกจดว่า
"นอนเถิด พรุ่งนี้ยังต้องเดินทางอีกไกลไงเราก็จะถึงก่อนฟ้ามืดแน่ๆ"
เสียงแห่งความสงัดในละลอกที่สองได้กลับมาอีกครั้งปลาหนุ่นอ่อนล่าเกินที่จะอบยู่ดู
ความสวยงามของผิวน้ำที่ใสสะอาดกว่าที่เคยเห็น
เช้าวันใหม่ กับสายฝนอีกระลอก จดว่ายทวนน้ำมาครึ่งค่อนวันยังไม่พบแม้แต่ กลิ่นของพ่อและแ
แต่สิ่งที่จดได้เจอ ณ เบื้องหน้านั้นมันทำให้จดหยุดตะลึงและหวาดกลัว
เสียงตะโกนเสียงดังจากปลาตัวโตให้รีบหนี จดไม่รอช้าว่ายตามปลาตัวโตไปอย่างรวดเร็ว ทั้งสองไปแอบซ้อนในโพงไม้ใหญ่อีกด้านที่ได้มืดอยู่
ซึ่งที่จดได้เจอนั้นมันเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งตัวมีขนสีดำจมูกยื้นยาวเดินสี่ขาแต่กลับนั้งสองขา มันเล็บที่ยืนยาวมีไว้สำหรับจับพวกแบบจดกินเป็นอาหาร อย่าถามนะว่ามันฉลาดมั้ย แน่นนอน ก็มันกินปลานิครับ
ใจจดสั่นเทาในความหวาดกลัวและรอโอกาศที่มันจากไปผ่านไป
อีกคืนที่จดได้พักแต่สิ่งที่ได้พบเองนั้นไม่ทำให้จดไม่กล้าที่จะหลับตา
เช้าวันรุ่งขึ้นจดไม่เห็น ไอ้มืดแล้วปลาตัวโตให้จดออกเดินทางว่ายไปแต่เช้า ทั้งสองว่ายทวนน้ำมาครึ่งโลกแรมปี และทั้งวัน
ปลาหนุ่มรู้สึกท้อแท้และอยากที่จะหยุดซะตรงนี้ แน่หละก็มันเป็นปลาหนุ่นนิครับ คิดไว ทำไว แล้วมันก็ไม่ยอมคิดที่จะว่ายต่อ
มันหยุดแล้ว พอกันทีกับการเดินทางที่ไร้จุดหมาย
ปลาตัวโตว่ายมาไกลหันหลังว่าจะคุยกันแซลมอนหนุ่มถึงเป้าหมายที่มองเหน
แต่ไม่ทันที่เค้าจะได้พูดเค้าก็ไม่เหนปลาน้อยซะแล้ว
ปลาตัวโตว่ายกลับเพื่อตามหาปลาหนุ่มกับไม่พบ ว่ายวนไปรอบๆ
ปลาตัวโตก็ได้เห็นปลาหนุ่มที่มีอากาศเศร้า เหนื่อย และล้า
ปลากตัวโตจึงได้พูดคุยกับปลาหนุ่มบางอย่างที่ทำให้ปลาหนุ่มเดินทางต่อ
ด้วยแรงที่อ่อนล้าจดจึงไม่ได้คิดที่จะมองไปด้านหน้าที่มีแสงสะท้อนสาหร่ายและแหล่งอาหารชั้นยอดน้ำไสๆที่สะอาด
ที่จดไม่เคยได้เคยเห็นในชีวิต " จด จด จด จด "
เสียงตะโกนจากพ่อเป็นพ่อและแม่เรียกให้ปลาหนุ่มปลาหนุ่มตื่นเพื่อว่ายไป
ปลาหนุ่มไม่ได้คิดอะไรแล้วเค้าว่ายแวกเพื่อไปหาพ่อและแม่
ระหว่างทางเค้ากลับพึ่งพบว่าเค้าอยู่ท่ามกลางแหล่งอาหารที่มากมายหลากหลาย
ที่เค้าสามารถกินได้ทั้งชาติรวมถึงพี่น้องและพ่อแม่ของเค้า
เค้าพบการตอนรับอย่างเป็นมิตรจากญาติๆแซลมอนที่ไม่เคยเหนเค้าเลย
เค้าอยู่อย่างสุขสบายกับสังคมที่ดีกว่าเดิม..........จากที่เค้าจากมา
เช้าในฤดูหนาวของวันวันพุธที่ 1 มกรา จดชายวัยกลางปลา(-)นั่งนึกถึงวันเก่าๆที่เค้าได้ฝ่าฟัน เพื่อมาพบกับสารอาหารที่มากมาย แหล่งต้นน้ำที่ใสที่สุดที่ผ่านตัวเค้าก่อนลงไปยังเพื่อนๆเก่าของเค้า และปลอดภัยจากการถูกจับจาก
ไอ้สัปหลาดสองขาที่มีหมวกไส่บนหัว จดไม่ได้นึกคิดดีใจการสิ่งที่เค้าได้
แต่มันเป็นสิ่งที่เค้าภูมิใจ ที่วันนี้จดสามารถแวกว่ายทวนน้ำมาด้วยตัวเองในระยะหลากหลายกิโลเมตร
ความสำเร็จที่สร้างจากแรงของปลาหนุ่ม
และสิ่งที่สำคัญในชีวิตกับคำพูดหนึ่งเดียวของปลาตัวโตที่บอกเค้า
“การว่ายทวนน้ำ เปรียบเหมือนการตามหาสิ่งที่มองไม่เห็น อย่างความหวังและความฝันนั่นละ
แม้จะเป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่ก็เป็นสิ่งที่สวยงามสูงส่งนัก” ปลาหนุ่มยิ้ม

****บทความจากจินตนาการณ์ไม่มีเหตุผลใดๆ และทุกส่วนในเรื่องเล่านี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นความจริง

Views: 4222

Comment

You need to be a member of PORTFOLIOS*NET to add comments!

Join PORTFOLIOS*NET

Comment by supakit juntarung on November 4, 2010 at 4:08pm
เด๋ว..........55+
ส้มตำปู..........
ปลาร้ามั้ย.......
ส้ม-ตำ-ปู
ปลาร้า(กิริยา ) ?
นัยยะหรอ หรือกำลังกินหรืออย่างไง โอ้ยยยยยยยยยยยยย
แล้วมันมาได้ไงนิ
Comment by All about TiNAPUS's design on November 4, 2010 at 4:05pm
คะ ...ชินไป บ่นไป

จบโทปีนี้คงยาก อาจเรียกว่าเร็วเกิน...ขอสักกลางปีหน้าท่าจะกำลังดี

ไม่ได้อยู่ลาดกระบัง เเต่เรียนที่ลาดกระบัง

ส้มตำปูปลาร้ามั้ย...
Comment by supakit juntarung on November 4, 2010 at 3:59pm
ดีครับ.......................สรุปเราอายูุท่ากันปีนี้จบ "โทร" ด้วย
เรียนไปทำงานไปคล้ายรายการชินไปปนไป....................
อยู่ลาดกระบัง.........................................................
Comment by All about TiNAPUS's design on November 4, 2010 at 3:47pm
จะว่าไป เราสองคน พิมตกๆๆหล่นๆๆกันเก่งจิงๆ เเต่ยังสื่อสารกันได้...อื่มมมมมมตู่คำกันสุดๆ
Comment by All about TiNAPUS's design on November 4, 2010 at 3:43pm
55555 เรื่อง24 เป็นความคิดที่ดีมาก 5555+ เอาด้วยๆๆๆ

ณิตจบตรีที่ม.ธรรมศษสตร์คะ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์เเละการผังเมือง

(ม่ะกี้พอโน๊ตบอกว่าจบผังเมือง ยังหวาดเสียจะเจอจุดใต้ตำต่อ)

จบ สาขา สถาปัต หลักสูตร 4+2 มันจะเรียนตรี4ปี(วทบ.สถาปัต) เรียนโทสองปี(ทันทีถ้าอยากได้วุฒิสถ.ม.ไปสอบกส.)

เเต่นั้นเเหละ ณิตก็เเหกคอก ว่ายทวน เเละหลับตาเดิน มาต่อโทที่พระจอมเกล้าลาดกระบังคะ (เล่าละเอียดกว่าเขียนเรสุเม่สมัครงานอีกนะเนี่ย)

ตอนนี้ยังไม่จบโท ทำงาน นอกบ้างในบ้างใหม่บ้างเก่าบ้าง ก๊อกๆๆเเกก๊กๆๆตามเจ้านายสั่ง
Comment by supakit juntarung on November 4, 2010 at 3:37pm
เด๋วก่อนคณิตไหนมออะไรถึงได้ใช้เวลาเพียง4ปี
ออกแบบภายใน-ภายนอก-ภายนอกมากๆหรือภายในมากๆ
เออเรา 24 ตอนนี้ จะให้ถูกต้องบอกว่า (24) เพราะเราขังอายุเราไว้แค่24 นับจากวันเกิดต่อไปใครถามเราเราจะตอบว่า24ดีมะ
Comment by All about TiNAPUS's design on November 4, 2010 at 3:33pm
ม๊ายยยยยยช่ายๆๆๆๆๆๆ ณิตเพิ่งอายุ2โหลเอ๊ง

รู้จักพี่ต้าตอนที่ทำค่ายASA WORKSHOP 51 คะ (อิพี่ต้าไม่ยอมให้เรียกอาจารย์ มันบอกว่าไม่อยากเเก่)

ส่วนเรื่องเรียนโท....อิฉันยืนยัน นอนยัน นั่งยัน เด็กสุดในรุ่น555+ (จบตรี4ปีต้องต่อโทโดยทันที)
Comment by supakit juntarung on November 4, 2010 at 3:30pm
เเกว๊ก ไม่ทราบ ว่า คนึงณิต มีเพื่อน(เพื่อน)เป็นพี่รุ่นหนึ่งสารคามด้วยหรอครับ พี่สาวคนึงณิต (เรียนโทเนี้ยะไม่ใช้เด็กแน่ๆ)
Comment by All about TiNAPUS's design on November 4, 2010 at 3:27pm
คนึงณิต รับทราบ (เเกว๊ก ชักชินชื่อนี้) เเล้วจะเก็บไว้อ่านคะ (ณ เวลามีสติ ตอนนี้ไร้สติเต็มที)
Comment by supakit juntarung on November 4, 2010 at 3:25pm
รบกวนให้คุณคนึงณิต ก็อปบทความที่มีชื่อว่า บรร-ทัด-ฐาน ลง word คอมของ คนึงณิต เองแล้วอ่านได้ไม่ครับเพราะผมไปปรับแล้วก็ยังได้ตัวเท่าเดิม

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service