อิสรภาพ และ ความรัก

ความรัก กับ อิสรภาพ เป็นเหมือนปีก 2 ข้าง ที่ทำให้ชีวิตบินได้

เหตุใดเราจึงต้องแยกมันจากกัน ?

อาจเป็นเพราะว่า เราเคยชิน เหมือนที่คนรุ่นเก่าๆ ทำตามๆ กันมา

และเราก็ยังเต็มใจ ที่จะตัดปีกอีกข้างทิ้ง

เพื่อให้ได้เดินดินกินข้าวแกง เหมือนกับคนส่วนใหญ่

หากมีใครสัก สองคน ที่มีปีก ครบด้วยกันทั้งคู่ ชีวิตจะดีขนาดไหนนะ ?

เมื่อคนแปลกๆ สองคน ได้บินไปด้วยกัน

เมื่อคนแปลกๆ สองคน ได้พบจุดที่อยู่ตรงกลาง ระหว่าง ความพยายาม

และการไร้ความพยายาม...

ถ้ามองให้ลึกซึ้งกว่าเดิม

ความรักให้ที่นี้ ไม่ใช่เพียงแค่เรื่อง ชายหนุ่ม หญิงสาว

หากกล่าวถึง รัก ในนามของ สิ่งใดๆ ที่เกาะเกี่ยว ยึดยื้อ เราไว้ในโลกมายาใบนี้

ส่วนอิสรภาพ ก็ไม่ใช่เพียงแค่เรื่อง เมียไม่อยู่ ย๊าฮู้ !! ทำนองนั้น

หากอ้างอิง อิสรภาพถึงสิ่งที่ปลดเราออกจาก พันธนาการ ที่ลวงตา ลวงใจ ในทุกขณะนี้

ชีวิตคนเราแสนสั้น...

สองแสนปีที่แล้ว พวกเรา ก่อกำเนิดได้ชื่อมาว่า โฮโมซาเปี้ยน

หนึ่งหมื่นปีที่แล้ว พวกเรา เริ่มสร้างอารยธรรม และ ศิลปะ

สามพันปีที่แล้ว นักวิทยาศาสตร์ เริ่มเข้าใจเรื่องจักรวาล และ อนุภาคระดับเซลล์

สามร้อยปีที่แล้ว เราเริ่มมี รถทุกรุ่น ดาวเทียมTV โมบายโฟน และ สิ่งสะดวกสารพัด

ห้าสิบปีมานี้ พัฒนาเข้าสู่ยุค 3G ,4G

แต่จะใช้เวลาอีกกี่ปี ?

ที่เราจะล่วงรู้ถึง ภาพลวงตาอันยิ่งใหญ่ ที่ช่วงชีวิตแสนสั้น

และประสาทสัมผัสหยาบๆ ของเราไม่อาจพิสูจน์

ภูเขา ตั้งตะหง่าน ที่เหมือนอยู่ไปค้ำฟ้าชั่วลูกชั่วหลาน ใช่ว่าจะไม่มีวัน สลาย

( ก็เราดัน ตายไปก่อนทุกที >< )

นอกจากชีวิตแสนสั้น ทำให้เราคิดว่า มายาทั้งหลายตั้งอยู่ไม่สูญสลาย..

ชีวิตของเรายัง สัมพัทธ อีกต่างหาก ( ใช้ศัพท์ คุณ ไอสไตน์ เนี่ย )

ไม่เชื่อ ลองหา สิ่งตรงข้าม มาผูกประโยค เช่นเดียวกันนี้

ความงดงาม เกิดมาจาก ความน่าเกลียด

โลกภายใน เกิดมาจาก โลกภายนอก

รู้ความมืด เกิดมาจาก รู้ความสว่าง

สัมพัทธ ในคำแปลของฉัน ก็คือ
ทุกสิ่งเป็นไปได้ แล้วแต่ว่า จะใช้อะไรมาอ้างอิง

ดังเช่น ประโยค คลาสสิคที่ว่า
" เพชรจะไม่มีค่าเลย ถ้าโลกนี้ไม่มีแสงสว่าง "

ขออีกหน่อย

บอลไทย เกิดมาจาก บอลโลก

ผู้ชาย เกิดมาจาก ผู้หญิง

ผู้หญิง เกิดมาจาก ผู้ชาย

เวลา เกิดมาจาก ไม่มีเวลา

อากาศ เกิดมาจาก สุญญากาศ

เขียนอะไรไป ก็ดูคมคายได้ ไม่ต้องใช้มีด >br/>
"ในเมื่อ ชีวิต นั้นแสนสั้น แถมยัง สัมพัทธ อีกต่างหาก
แล้วเราจะ ยึดถือ สาระอันใดได้ ? "

สาระ ที่แท้จริง ที่คงไม่มีใครคิดถึง อาจคือ

ประโยค ข้างบนนั้นผิด""""

คำถามข้างบนนั้นคือ คำถามของคนโง่ ( ฉันเอง )

ความรู้ทั้งหลาย คำคมที่ดูฉลาดทั้งหลาย ปรัชญาทั้งหลาย มักหลอกลวงเราเสมอ

หากจะกลับประโยค ข้างบนเสียใหม่

" ชีวิตนั้นเป็นนิรันดร์ และคงอยู่ที่ตรงนั้น เสมอ "

ชีวิตที่แท้ไม่เคยส่งเสียงดัง
เรามีหน้าที่ต้อง Clear สิ่งแปลกปลอม ออกไปเรื่อยๆ
( ซึ่งยากมาก เพราะบางเรื่องมันยึดติดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ จนเราแยกไม่ออกแล้ว ว่าอันนี้แปลกปลอม )
เพื่อที่ จะได้ยินสิ่งที่ชีวิต ได้กระซิบบอกแก่เรา

บอกแก่เราว่า
" ความรัก และ อิสรภาพ เป็นสิ่งเดียวกัน แยกจากกันไม่ได้ "
หากทำเช่นนั้นแล้ว ชีวิตที่แท้ ก็ได้ถูกทำลายไปด้วยเช่นกัน

โลกเรา ชอบ แบ่งแยก เพื่อตอบสนอง ตัวกูของกู และ เพื่อสร้างสังคมให้ง่ายเข้า
นานชั่วนาตาปี จากรุ่น ทวด ของทวด จนซึมลงไปใน DNA ว่ามันถูก ??

ที่ใดมี ความรัก... อิสรภาพ มักถูกกดทับ ... นี่คือวิถีของ สามัญชน
ที่ใดมี อิสรภาพ ...ความรักมักถูกดทับ ... นี่คือวิถีของ นักบวช

แบ่งแยก จนเราลืม ไปแล้วว่า นี่มันสิ่งเดียวกัน ไม่เคยมีสิ่งใดที่ต่างกันเล
นอกจาก อคติ อันหยั่งรากลึกนั้น...

เรียบเรียงความคิด หลังจากอ่าน Being in Love ของ OSHO
กับ เกิดแต่กรรมหรือความซวย ของ ทันตแพทย์ สม สุจีรา จบค่ะ

Views: 1998

Comment

You need to be a member of PORTFOLIOS*NET to add comments!

Join PORTFOLIOS*NET

Comment by THE ABSOLUTE on July 1, 2010 at 10:56pm
กว่าจะได้เรียนรู้
ก็เกือบเสียความทรงจำดี ๆไป
กว่าจะได้เรียนรู้
ก็ต้องเสียน้ำตาไปมากมาย
กว่าจะได้เรียนรู้
ก็เกือบเสียคนๆหนึ่งไป
...
เกือบไปแล้ว


..
.

ขอบคุณนะคะ RAYNUN
เราเจอกับมันด้วยตัวเองเลยแหล่ะ...
เกือบไปแล้วจริง ๆ
Comment by RAYNUN on June 30, 2010 at 9:18am
เขียนสิคะ จะได้รู้ด้วยว่า ตอนนี้ใจเราเป็นยังไง
Comment by Nattawutty on June 30, 2010 at 8:54am
มาอ่านบทความ คุณ raynun บ่อยๆ
สงสัยข้าน้อยคงต้อง ร้อยสานเรียงเคียงสมมติภาษา มาแบ่งปันบ้างละ
อย่างน้อยแม้ไม่เป็นประโยชน์ไว้ประดับปัญญาผู้ใด ก็ได้ประดิษฐ์ประดาษปัญญาตนเอง
....ช่วงนี้คงได้แต่รอยคออาลมณ์.....-_-
Comment by RAYNUN on June 29, 2010 at 2:48pm
ขอบคุณนะ ai CURVE 14 ที่ชอบ เรารู้สึกดีมากทุกครั้ง ที่มีคนรู้สึกว่าชอบ แบบไร้เหตุผล ^^

ขอบใจ Nattawutty สำหรับ สุรา ..แต่จอกเดียวคงไม่พอ 555+
โลกนี้คือแหล่งสะท้อนกลับ ..หากเราให้ความรัก ความรักจะย้อนกลับคืนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง..
ความรักไม่เคยเรียกร้องต้องการ หาไม่แล้ว รักนั้นก็จะไร้ปีก
และไม่สามารถโบยบินไปได้ไกล กลายเป็นเพียงสิ่งที่ยึดเหนี่ยวเราไว้ในโลก....เพียงเท่านั้น

The absolute
เราว่า รักไม่ใช่เชือก ที่จะผูก จะมัดใครไว้ได้ ..
รัก มันน่าจะเป็นเรื่อง ไว้ใจ แล้วก็ ปล่อยๆ ไปมากกว่า..จะว่าไป ก็ยากใช่มะ 555+
ถึงแม้เราจะทำได้ แต่อีกคนล่ะ ใครจะรู้ ??

Give me design ขอบใจจ้า จุ๊ๆๆ ^^
Comment by ai CURV3 on June 29, 2010 at 12:14am
ชอบจังเลยค่ะ
Comment by Nattawutty on June 28, 2010 at 9:29am
ช่ายตาส่งยิ้มให้ ยกป้านสุราหนึ่งจอก คาราวะแม่นาง
เส้นทางสู่การรู้แจ้งของแต่ละคนนั้นไม่เหมือน และไม่มีทางเหมือน....

เราอาจจะโปรยละอองตายิ้มเยาะพร้อมวางเฉยต่อสรรพส่ิง
ไม่ว่าสิ่งนั้จะถูกเรียกว่าอะไร ความรัก อิสรภาพ อุคมคติ ความหวัง
หรือสภาวะใดที่พอที่จะสร้างเป็น วาทะกรรม ได้ แม้นเราจะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม (นึกถึงคำว่า กระชับวงล้อม ขอพื้นที่คืน เหอๆ)

หากจะขอเพิ่มเติม บทความงามงด บทนี้คงของเพิ่มในแง่ ประโยชน์ หรือ ประดับ
ฝากไว้ หรือ ถุยไว้ เก็บแล้วเกิด หรือ ขโมยแล้วโชว์
บางทีภาวะที่เรารู้ มันก็น่ากลัวในการสื่อความหมาย เพราะหากเป็น ความลึกของใจแล้ว
มักจะถูกเบียดเบียนความถูกต้องด้วยถ้อยคำที่ใช้สื่อเสมอ

แต่ก็ยินดี ขอบคุณ คารวะ ในบทความนี้ เป็นกำลังใจให้เขียนต่อไปครับ
ขอเสริมสักหนึ่งคู่ อิอิ อัตตา-อนันตา
Comment by THE ABSOLUTE on June 27, 2010 at 11:07pm
เรายังเป็นโฮโมซาเปี้ยน อยู่อย่างไม่เปลี่ยนแปลง
ไม่ว่าวันที่เดินดินกินข้าวแกง
หรือนั่งหั่นสเต็กในโรงแรมหรู

ความรัก กับอิสรภาพ
เราไม่เคยนึกถึงสองอย่างนี้พร้อม ๆกันมาก่อน
จนกระทั่งตอนนี้
จึงได้รู้ตัวว่า
กำลังริดรอนอิสรภาพของใครอีกคน
โดยอ้างคำว่า "รัก"
...
จะทำยังไงดีหนอ
...
Comment by GiFT ME DESiGN on June 25, 2010 at 8:07pm
"ชีวิตที่แท้ไม่เคยส่งเสียงดัง"

ชอบจัง ^^

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service