สวัสดีเพื่อนเอ๋ย...


ชื่อผลงาน : ธรรมเลือน
เทคนิค : แม่พิมพ์ตะแกรงไหม





“สวัสดีเพื่อนเอ๋ย”



สวัสดีเพื่อนยาก สบายดีเหรอนาย ไม่ได้พบเจอกันตั้งนาน
ดูท่าทางสุขทั้งกายและใจดีนี่นะ

โอ้! ว่าเยี่ยงไรนะ งานเยอะ เงินจึงแยะ

โอ้! ว่าเยี่ยงไรนะ นายกำลังซื้อบ้านเป็นของตัวเอง
นั่นไง! ที่ฉันเคยเอ่ยถึง ชีวิตที่ใฝ่และฝันหา...วิถีคนเมือง

โอ้! ว่าเยี่ยงไรนะ นายชอบการเสพสุขด้วยการซื้อบริการกามมาบริโภค
เพียงเพื่อรักษาความเหงาเจ้าดุ้นน้อย

แถวไหนนะ! โอ้! สวนลุมพินี สนามหลวง
โรงแรมสยามย่าน ถ. เพชรบุรี
โอ...นายช่างน่าอิจฉาเสียนี่กระไร
มีทั้งเด็กสาวรุ่นราวมัธยมและมหาวิทยาลัย

โอ้! ว่าเยี่ยงไรนะ นายว่านั่นคือชีวิตที่มีความสุขและงดงามกระนั้นหรือ
โอ้! ฉันว่านายกำลังเข้าใจผิด...เพื่อนยากเอ๋ย
ชีวิตที่ซึ่งเบียดเบียนผืนนาน้อยๆของผู้ที่มิใช่ภรรยาตน
มันช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก ถึงแม้จะเป็นภรรยาของตนโดยชอบธรรม ก็ใช่ว่าจะสมควรเบียดเบียน

โอ้! เพื่อนยากเอ๋ย ขอให้สุขสมกับชีวิตที่มีความสุขและงดงามของนายเถิดหนา
ส่วนฉันขอดำรงตนอยู่เยี่ยงปุถุชนผู้ใฝ่ครรลอง
ถึงแม้นจะจนยาก ถึงแม้นจะถูกหยามเหยียดว่าโง่เง่า
ถึงแม้นจะไม่รู้จักใฝ่หาความสุข เพื่อนำมาบรรเทาคลายความเหงาใส่ตัวและหัวใจ

โอ้! เพื่อนยากเอ๋ย
หัวใจของฉันมันพองโตอย่างเป็นสุขตามวิถี
ขอให้นายมีชีวิตและมีความสุขกับวิถีของนายเถิด
ถึงอย่างไรฉันก็ยังรักนายในฐานะเพื่อน เพื่อนยากเอ๋ย...


___________________________________________________



สวัสดีอีกทีเพื่อนเอ๋ย ช่วงนี้เราพบกันบ่อยจังเลย
โอ้! ว่าเยี่ยงไรนะ? ทำไมจู่ๆก็จึงอยากคุยเรื่องการเมือง?
อ้อ! เรื่องที่มีนักการเมืองกระโดดถีบกัน ชกต่อยกัน ในรัฐสภาอันทรงเกียรตินั่นน่ะเหรอ?
ฉันก็มิอาจทราบถึงเหตุผลของการกระทำนั้นๆของพวกเขาได้ดอกหนา
มาดแม้นว่าพวกเขาจะผิดใจกันสักปานใดก็ตามที
การประพฤติตนเยี่ยงนักเลงไร้เหตุผล และไร้ซึ่งวุฒิภาวะทางอารมณ์เช่นนี้ ก็ไม่สมควรที่จะกระทำ

เอ๋! ว่าเยี่ยงไรนะ?
นายจะบอกว่าถ้าเป็นนาย นายก็อาจลงมือเยี่ยงนั้นละหรือ?

โถ! เพื่อนเอ๋ย...
ผู้ที่ได้เป็นถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้น
ต้องจบการศึกษาขั้นต่ำ คือ ปริญญาตรีเชียวนะ
อย่างน้อยๆวุฒิการศึกษาบวกการใช้ชีวิตเยี่ยงปัญญาชน
ต้องสะสมการพบปะกับประชาชน ก็ย่อมผ่านพ้นมา 4-5 ปี
บ้างก็ศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและเอก ต่ออีก 4-5 ปี
นี่ยังไม่นับรวมถึงประสบการณ์ในการใช้ชีวิตคลุกคลีไปกับการศึกษาวิจัย
การบ่มเพาะทัศนคติที่ดี มีวิสัยทัศน์ จากนักศึกษามหาวิทยาลัยมาเป็นผู้ทรงเกียรตินั้น
ฉันว่ามันน่าที่จะขัดเกลาจิตใจและเพิ่มพูนสติปัญญา
ให้เป็นผู้ที่มีสติสัมปชัญญะ สุขุม คัมภีรภาพ ดั่งน้ำนิ่ง
เป็นผู้ทรงเกียรติที่เรียกได้อย่างเต็มปากว่า ปัญญาชน
เหตุใดนายจึงมีทัศนะอยากจะกระทำเยี่ยงนั้นเล่า...เพื่อนยากเอ๋ย

อ้อ! นายคงไม่ค่อยได้เข้าเรียนวิชาปรัชญา หรือ วิชาสุนทรียศาสตร์กับมนุษย์ใช่ไหม?
นายจึงหลงลืมหรือมิได้คำนึงถึงความงดงามของมนุษย์
ว่าการให้อภัยนั้น นับได้ว่าเป็นสมบัติทิพย์ เป็นดั่งความงดงามอันสูงสุด
หรือไม่นายก็คงเข้าเรียนทั้งสองวิชานั้น เพียงเพื่อที่จะขานชื่อแล้วหลบออกหลังห้อง
และสุดแสนจะภาคภูมิใจ เมื่อเกรดออกมาดีเกินความคาดหมาย

เอ๋! ว่าไงนะ นายถามฉันว่าอย่างไรหรือ?

อ๋อ! ใช่แล้วล่ะเพื่อนเอ๋ย...
ฉันนั้นเป็นนักเสียดสีตัวกลั่น
ดังนั้นฉันจึงขอตัวไปสะสางกับภาระอันหนักอึ้งต่อล่ะนะ
เอาไว้ค่อยพบปะและสนทนาความกันใหม่เมื่อนายต้องการ
แล้วนายอย่าลืมนำเอาความเสียดสีแห่งฉันไปไตร่ตรองให้จงดี
ฉันไปก่อนล่ะเพื่อนยากเอ๋ย...


___________________________________________________



สวัสดีเพื่อนเอ๋ย เราพบกันอีกแล้วนะ...ฉันทำอะไรอยู่น่ะหรือ?

ฉันกำลังมองดูผู้คนย่ำเท้าก้าวไป ก้าวไป...ฉันเอ่ยถาม
“ขอประทานโทษเถิดครับคุณนาย
คุณกำลังจะก้าวเดินไปแห่งหนใด?”

เพื่อนเอ๋ยคุณนายตอบ
“ฉันกำลังเดินไปหาแหวนเพชรเม็ดโตงาม...”

ฉันกำลังมองดูผู้คนย่ำเท้าก้าวไป ก้าวไป...ฉันเอ่ยถาม
“ขอประทานโทษเถิดครับคุณชาย
คุณกำลังก้าวเท้าเดินไปสู่จุดหมายใด?”

เพื่อนเอ๋ยคุณชายตอบ
“ผมกำลังมุ่งไปสะสมตัวเลขในบัญชีธนาคารให้ดูสดใส...”

ฉันมองดูผู้คนย่ำเท้าก้าวไป ก้าวไป...ฉันเอ่ยถาม
“ขอประทานโทษเถิดครับน้องสาวเยาวชน
น้องกำลังจะก้าวเดินไปสู่ความมุ่งหวังใด?”

เพื่อนเอ๋ยน้องสาวนิสิตในชุดนักศึกษาฟิตเปรี๊ยะกำลังจะตอบ
“หนูกำลังหายใจไม่ออก จึงไม่มีคำตอบต่อคำถาม...”

ฉันมองดูผู้คนย่ำเท้าก้าวไป ก้าวไป...ฉันเอ่ยถาม
“ขอประทานโทษเถิดครับน้องชายเยาวชน
น้องกำลังก้าวเดินเพื่อไปสู่หนใด?”

เพื่อนเอ๋ยน้องชายในชุด HIP HOP กำลังจะมีคำตอบ
“What's up Man! ผมกำลังยุ่ง กางเกงจะหลุดตูด ไม่มีหรอกคำตอบ อย่ามาถาม...”

ฉันมองดูผู้คนย่ำเท้าก้าวไป ก้าวไป...ฉันเอ่ยถาม
“ขอประทานโทษเถิดครับท่านนักการเมืองผู้มั่งคั่งบารมีเงิน
ท่านกำลังนำพาประชาไทยเดินไปสู่หนใด?”

เพื่อนเอ๋ยนักการเมืองมีคำตอบ ฉันสุดแสนจะตั้งใจรับฟัง
“ทุนนิยมนั้นเป็นของดี ประเทศชาตินี้จักเจริญเรือง
เรื่องราวรัฐธรรมนูญ จักเกื้อกูลบารมีและอำนาจ
หากขีดเขียนและผูกขาดเข้าข้างนักการเมืองอย่างฉัน...”

ฉันมองดูผู้คนย่ำเท้าก้าวไป ก้าวไป...ฉันเอ่ยถาม
“ขอประทานโทษเถิดครับ ผู้เฒ่าในชุดม่อฮ่อม
ผู้เฒ่ากำลังจะก้าวเดินไปสู่จุดมุ่งหมายใด”

เพื่อนเอ๋ย ผู้เฒ่าผู้สุขุมมีคำตอบ
“พอเพียง เพียงพอนั้นแหละเป็นของดี
ไม่ควรอยากได้หรืออยากมีจนเกินตัว
ไม่ควรฟุ้งเฟ้อหลงตามัวบริโภคนิยม
ไม่ควรหลงคารมเชื่อคำโฆษณา
ไม่ควรเชื่องช้าอ่อนข้อต่ออำนาจอยุติธรรม
ไม่ควรหลงใหลดำลงไปตามกระแสหลักข้ามชาติ
มิเช่นนั้นอัตลักษณ์ไทยคงลดบทบาทและถูกลืมเลือน
รักษาเถิดพี่น้องเอ๋ย เพื่อนผองไทยเอ๋ย ประเพณีและวัฒนธรรมของเรานั้นดีงาม
ชาวโลกจักไถ่ถามเห็นค่าวัฒนธรรมเรา...”

เพื่อนเอ๋ย...ฉันซาบซึ้งในคำตอบของท่านผู้เฒ่า มากกว่าคำตอบของใครๆก่อนหน้า...


*********************************************************************


ป.ล. บทกวีนี้เป็นการรวบรวมและเรียบเรียงเอาผลงานเก่ามาจัดเรียงใหม่
เรียบเรียงมาจากผลงานการเขียนในหนังสือ(ทำมือ)เล่มแรกของผมเอง
คือ นักสังเกตการณ์ ดวงตะวัน พระจันทร์ และดวงดาว (เมื่อปี 2551)

Views: 190

Comment

You need to be a member of PORTFOLIOS*NET to add comments!

Join PORTFOLIOS*NET

Comment by KAI DYLAN on November 2, 2009 at 4:20am
เนาะ...เพื่อนเอ๋ย ^^
Comment by tuncha on October 26, 2009 at 11:25pm
ชอบใจมากๆ

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service