ไม่ได้อัพ Blog มาก็ค่อนข้างนาน

เพราะสมองไม่แล่น+งานการที่ทับถม

นี่ก็ใช่ว่าสมองจะแล่นได้ดี...แต่ร่างกายมันต้องการระบายค่ะ555+

แหมก็เจอเข้ากับตัวเองจังๆขนาดนี้ขออิชั้นระบายหน่อยเถอะ

ตั้งแต่เล็กเอาประมาณชั้นประถมเลยระกัน(หวังว่าคงยังพอจำกันได้บ้าง)

ไม่ว่าจะบ้านนอกหรือในกรุงฯก็เถอะต่างจะถูกปลูกจิตสำนึกในการรักป่าไม้

คุณครูทั้งหลายก็จะปลูกฝังเอาไว้

บอกว่าป่าไม้เป็นแหล่งกำเนิดสิ่งมีชีวิตต่างๆ

รวมทั้งเป็นปอดให้กับโลก

ช่วยฟอกอากาศเสียเปลี่ยนเป็นกาซออกซิเจนให้กับโลกใบนี้

เพราะป่าไม้เป็นตัวช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อนำไปใช้ในการสังเคราะห์อาหาร

แล้วปล่อยก๊าซออกซิเจนออกมาให้กับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ บนโลก

สมดุลระหว่างคาร์บอนไดออกไซด์และออกซิเจนในอากาศจึงเกิดขึ้น

อีกทั้งเป็นส่วนที่สำคัญมากส่วนหนึ่งของวัฏจักร น้ำ ออกซิเจน คาร์บอนและไนโตรเจนในระบบนิเวศ

ทำให้เกิดความสมดุลแห่งระบบด้วยการหมุนเวียนการเปลี่ยนแปลงแร่ธาตุและสสารในระบบนิเวศ

ทั้งยังเป็นแหล่งอาหารของสิ่งมีชีวิตต่างๆ

ป่าช่วยในการอนุรักษ์ดินและน้ำ

เมื่อฝนตกน้ำฝนบางส่วนจะถูกต้นไม้ในป่าดูดซับไว้ แล้วค่อยๆ ปลดปล่อยให้ไหลลงสู่ผิวดิน

อีกส่วนหนึ่งจะซึมลงสู่ดินชั้นล่าง สามารถลดการพังทลายของดินได้

อธิบายง่ายๆคือ ป่าไม้เป็นแหล่งปัจจัยสี่ ป่าไม้เป็นแหล่งผลิตและผู้ผลิต

ดังนั้นป่าไม่จึงสำคัญมิใช่น้อยต่อโลกใบนี้

ย้ำค่ะว่าโลกใบนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ประเทศไทย

สิ่งเหล่านี้ที่อิชั้นพล่ามมาข้างต้นก็เป็นเพียงความรู้เบื้องต้นที่มนุษย์ทุกคนน่าจะรู้กันอยู่แล้ว

แต่ทั้งที่รู้ๆกันอยู่แล้วว่าป่าไม้มีความสำคัญยังไง

แต่ก็ยังมีพวกมนุษย์เห็นแก่ตัว(ย้ำค่ะย้ำ "เห็นแ่ก่ตัว")

ได้ทำลายผู้ผลิตที่ใจดีของพวกเรา

และได้แปลสภาพความล่มสลายของป่าไม้กลายเป็นผลประโยชน์ส่วนตน

คุณอาจสร้างสนามกลอฟได้ภายใน 1 เดือน

แต่คุณไม่สามารถสร้างป่าไม้ได้ภายใน 1 เดือนหรอกนะคะ

อิชั้นก็เป็นมนุษย์ที่เห็นแก่ตัวคนนึงเหมือนกัน

ที่เป็นเพียงผู้รับจากผู้ผลิตที่ใจดีเหล่านี้

และไม่ค่อยสนใจ ใส่ใจ หรือ ปกป้องพวกเค้าเท่าที่ควร

อิชั้นคิดว่าหลายๆคนในที่นี้คงพอทราบข่าวการเผาป่าในพื้นที่ภาคเหนือกันมาบ้าง

อิชั้นก็เป็นคนนึงที่ทราบข่าวนี้จากสื่อต่างๆ

แต่ก็ไม่ค่อยสนใจหรือใส่ใจเท่าไหร่

เพราะตอนนั้นไม่ได้อยู่ภาคเหนือ (แอบรู้สึกผิด)

แต่ไม่นานนี้มีเหตุให้ต้องมาเชียงรายค่ะ(เหนือสุดแดนสยาม)

เชียงรายเปลี่ยนไป...อากาศบริสุทธิ์ที่เคยได้รับมันหายไป

อิชั้นคิดว่าหลายๆพื้นที่ทางภาคเหนือก็คงมีสภาพอากาศที่ไม่ต่างกันนัก

ท้องฟ้าสลัว ดูออกจะมืดครึ้มด้วยซ้ำ

ทั้งที่เป็นตอนกลางวันแต่ก็ไม่สามารถมองเห็นดวงอาทิตย์

มีเพียงแสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านกลุ่มควันเหล่านั้นลงมา

บรรยากาศดูแล้วช่างน่าหดหู่

แต่มันหดหู่มากขึ้นเมื่อต้องสูดเอาอากาศจากควันเหล่านั้นเข้าไป

อิชั้นอยู่เชียงรายมา 6 วันแล้ว

อาการตอนนี้คือน้ำมูก+น้ำตาไหล เพราะอาการแพ้ และรู้สึกแสบตา+คอ

นี่เป็นอาการที่เกิดขึ้นกับอิชั้นที่อยู่มาเพียง 6 วัน

แล้วประชาชนในพื้นที่ที่ต้องรับอากาศแย่ๆเหล่านั้นมาประมาณเดือนกว่าๆหล่ะคะ

ทางราชการทำได้เพียงแจกผ้าปิดปากให้เท่านั้น

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการทำลายป่าไม้

ยังค่ะยังมีอีก

ความแห้งแล้วและการขาดแคลนน้ำ

ปัจจุบันหลายๆพื้นที่ในประเทศไทยก็ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำ

แม่น้ำแห้งขอด เขื่อนกักเก็บน้ำก็แห้งน้ำแทบจะไม่มีอยู่ในเขื่อน

เกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย!!

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล้วนเกิดจากการที่ป่าไม้โดนทำลายทั้งสิ้น

นี่ยังแค่ภายในประเทศนะคะ

ยังมีเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดในต่างประเทศอีกมากมาย

ขอยกตัวอย่างประเทศที่อิชั้นเคยไปศึกษาที่นั่น

กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน

ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ค่ะ

การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ , สังคม และวัฒนธรรม เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

จีนมีการเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดดค่ะ

การทำลายทรัพยากรจึงรวดเร็วเช่นกัน

ปีแรกที่อิชั้นไปกับปีสุดท้ายที่กลับ แทบจะไม่มีอะไรที่เหมือนเดิมเลย

มันเร็วมากจริงๆ (แอบหลงทางในถิ่นเก่า)

แต่ท่ามกลางการเติบโตของจีน

จีนเองก็ต้องสูญเสียทรัพยากรไปมิใช่น้อยเช่นกัน

การทำลายป่าไม้ทางตอนบนของกรุงปักกิ่ง

ที่ทำไปเพื่อลดปริมาณของละอองเกสรของดอกไม้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

หรือช่วงโอลิมปิคในปี 2008 นั่นเอง

ณ วันนี้ผลของการทำลายป่าไม้เหล่านั้นคือ พายุทรายค่ะ

ทางตอนบนของปักกิ่งจะมีทะเลทรายขนาดใหญ่

ในอดีตปักกิ่งก็มีฝุ่นเยอะค่ะ ต้องทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ(อิชั้นทำอาทิตย์ละ 2 ครั้ง)

แต่ก็จะมีป่าไม้ขนาดใหญ่เป็นกำแพงกั้นเพื่อลดปริมาณทรายและฝุ่นที่จะพัดเข้าในตัวเมือง

แต่ปัจจุบันกำแพงป่าไม้เหล่านั้นถูกทำลายลง

กรุงปักกิ่งวันนี้จึงถูกปกคลุมด้วยทรายและละอองฝุ่น

ท้องฟ้าเป็นสีส้ม สภาพก็ไม่ต่างกับภาคเหนือของไทยเท่าไหร่นัก

นี่คือปัญหาบางส่วนเท่านั้นที่อิชั้นยกขึ้นมาพูด

ยังมีอีกมากมายปัญหาที่เกิดขึ้นจากการทำลายป่าไม้

ดังนั้นช่วยกันหน่อยนะคะ

ปกป้อง , รักษา ,ดูแล และฟื้นฟู ป่าไม้กันเถิดค่ะ

คนละไม้คนละมือ เพื่อโลกของเรา ไม่สิ "เพื่อตัวเราเอง"














Views: 91

Comment

You need to be a member of PORTFOLIOS*NET to add comments!

Join PORTFOLIOS*NET

Comment by Jessada on August 27, 2010 at 2:21pm
T-T

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service