ในวันเสาร์ที่ผ่านมาเป็นวันที่ผมและคนอีกหลายๆคนรอคอย รอคอยบางสิ่งบางอย่าง ที่ทุกวันนี้เรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพวกผมไปแล้ว ขอย้อนอดีตไปสักนิดหนึ่งตามประสาคนแก่ หลายปีก่อนหน้านี้ผมเป็นคนที่ติดตามเรื่องราวของกีฬามากคนหนึ่ง ตามประสาผู้ชายไทยที่ชอบเรื่องกีฬาโดยเฉพาะฟุตบอลนั้นแทบไม่เคยพลาดข่าวสโมสรที่รักเลยสักครั้ง..............
อินทุกเรื่องราวเกี่ยวกับสโมสรที่ตัวเองรัก หลายคนเป็นมากกว่าผมอีกติดตามมาเป็น
สิบๆปีรู้ทุกเม็ดเกี่ยวกับเรื่องสโมสรรักของตัวเอง.....ผมเองติดตามสโมสร Liverpool มาเกือบยี่สิบปีแล้ว
รู้บ้างไม่รู้บ้างในบางเรื่องแล้วก็อินมากกับบางเรื่อง ไม่ต้องถามว่าผมมีเสื้อของแท้
มาจากอังกฤษหรือป่าว มีแน่นอน......
และในที่สุดก็ถึงจุดที่เรียกพลิกผันเลยก็ว่าได้เมื่อสักประมาณ สองปีที่แล้ว ผมหันมาสนใจฟุตบอลภายในประเทศแบบที่เรียกได้ว่าหาทีมเชียร์ทีมรัก ให้เหมือนกับที่ผมศรัทธา ทีมปะเทศนอก
และแล้วก็ได้หลังจากหาอยู่เป็นเวลาสีเดือนเต็ม และคำนวณทุกอย่างแล้วว่าคุ้มไม่เหนื่อย ไม่ว่าเป็นการเดินทาง ไปกลับหรือประเด็นอะไรต่าง ทีมนั้นก็คือ อดีตมหาอำนาจลูกหนังย่านคลองเตย“ทีมการท่าเรือ”
หรือสิงห์เจ้าท่า
ทำไมเหรอเพราะหนึ่งใกล้บ้านมากพอสมควร
สองเล่นโอเคดี.........ไม่เก่งแต่ทุ่มเท
จนเมือปีที่แล้วผมเองก็ได้ไปเชียร์
ไปดูที่สนามศุภ
และกองเชียร์เราก็มาเป็นหมื่น ในวันนั้นเราชนะและได้แชมป์ เอฟ เอ
คัพไปอย่างยิ่งใหญ่
ตอนนั้นผมเป็นสาวกแบบเข้าเส้นไปแล้วหลังจากนั้นบอลลีกก็จบลงเรามีความสุข กับการไปเชียร์อย่างเพลิดเพลินใจ.........และรอการกลับมาอีกครั้งของบอลลีกอย่างใจจดจ่อ.....
แล้วก็มาถึงวันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2553 ฟุตบอลรายการที่ยิ่งใหญ่และมีศักดิ์สิทธิ์อีกถ้วยหนึ่งถูกกำหนดให้ทีมที่ได้แชมป์ลีกและ แชมป์ fa มาเจอกัน
เพื่อถ้วยศักดิ์สิทธ์ใบนี้ “ถ้วยพระราชทาน
ก.“
ผมไม่พลาดอยู่แล้วที่จะไปเชียร์
ทีมรัก
เกมส์ดำเนินไปแบบเร้าใจพลัดกันบุกและสร้างเกมส์ ที่สนุกทั้งสองทีม
มีโห่มีด่ากันบ้างนิดหน่อยพอประมาณ.....
แต่แล้วเรื่องที่แย่ที่สุดก็ได้เริ่มขึ้นเมื่อ
กรรมการในการตัดสินครั้งนี้
ตัดสินได้ไม่ดีเท่าไหร่
เมืองทองได้ลูกฟรีคิก ทั้งๆที่ไม่น่าจะให้ด้วยซ้ำ.....และแล้วเขาก็ขึ้นนำ หนึ่งศูนย์ จากนั้นกองเชียร์ส่วนหนึ่งเริ่มไม่พอใจ มีการปาถุงน้ำลงมาในสนาม จากนั้นอีกประมาสิบนาที
เมืองทองได้เตะมุม.........และแล้วเขาก็โม่งเข้าไป นักเตะทีมท่าเรือของผมไม่พอใจกรรมการ
ที่ตัดสินแบบนี้เข้าไปประท้วง
จนกองเชียร์เริ่มเดือดเพราะไม่เห็นด้วยกับคำตัดสิน เริ่มรุกลามการเป็นการจราจลและก็ตีกันในที่สุด........
ผมกับกองเชียร์ส่วนใหญ่ได้แต่นั่งดูความโหดร้าย
ของกองเชียร์เราเองอย่างที่ไม่สามารถทำอะไรได้.....ภาพที่เห็นคนหนีตายกันอลม่าน ลูกเด็กเล็กแดงอีกเป็นสิบ กองเชียร์เมืองทองที่นั่งติดกันหลายคนกระโดดลงมากลัวตายกัน
มันเป็นภาพที่น่าสลดที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตผมที่เดียว“รับไม่ได้” ผมรับไม่ได้จริงๆ
จนวันนี้นั่งเขียนอยู่ก็ยังรู้สึกแย่อยู่เลย ตีกันทำไม!!! ทำเขาทำไม!!!! เพราะอะไร!!!! หยุดได้มั๊ยเรื่องแบบนี้
ผมบอกคำเดียวว่า ผมเสียใจมากที่สุดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมนั่งดูเรื่องราวทั้งหมดพร้อมกับกองเชียร์ที่ดีๆอีกเป็นพันๆคน ที่ยังนั่งอยู่ตรงนั้น จนความรู้สึกผมมันบอกว่า“พอเถอะ”ไม่ไหวแล้ว......ผมเดินออกจากสนามพร้อมกับเพื่อนอีกสองคน.....กลับบ้านและไปคิดว่า“ต่อไปนี้ผมจะทำไงกับจิตใจที่โดนพวกป่าเถื่อนทำร้าย เพราะอ้างว่ารักสโมสร”
และถ้าพวกเขาว่าแบบนี้คือการแสดงออกว่าเขารัก ผมก็จะไม่เข้าไปดูอีกเลย....
Comment
© 2009-2025 PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.
Powered by
You need to be a member of PORTFOLIOS*NET to add comments!
Join PORTFOLIOS*NET