"กำลังเปลือย มองฉันสิ"
ข้อความบรรทัดแรกบนแผ่นกระดาษเล็ก สี่เหลี่ยมผืนผ้านามโปสการ์ดทำให้ฉันอดยิ้มออกมาไม่ได้

มือค่อยๆ ลูบไล้ตัวอักษรที่อยู่ด้านหลัง
ตามด้วยลวนลามทางสายตาอย่างช่ำชอง ก่อนจะพลิกมายังด้านหน้า
แกชอบส่งภาพรอยยิ้มของแก มิตรภาพใหม่ๆ ท่ามกลางต้นไม้เปลี่ยนสีบ้าง ท่ามกลางหิมะที่ขาวโพลนบ้าง
ท่ามกลางความร้อนแห้งกลางทะเลทรายบ้าง คล้ายจะบอกว่า "นี่แหละชีวิตชั้น"

"ขอโทษนะครับ สงสัยมานานแล้ว ทำไมต้องเขียนประโยคนี้มาทุกครั้งด้วยครับ"
บุรุษไปรณีย์ถามฉันขึ้นในวันหนึ่ง อดยิ้มออกมาไม่ได้ ก่อนจะอธิบายปรากฏการณ์นี้

"เวลาจะเปลือยก่อนหน้านั้นก็ต้องเปลื้องผ้า เวลาจะเขียนก็ต้องปล่อยใจ
ตัวหนังสือที่เราเห็นก็เหมือนภาพเปลือยของคนๆ หนึ่ง
แล้วการเขียนข้อความบนโปสการ์ดนี่ ถ้าพูดง่ายๆ ก็แก้ผ้าโชว์ดีๆ นี่เอง"
"ถ้าอย่างงั้นผมก็สัมผัสรูปเปลือยทุกวันสิ" บุรุษไปรณีย์หัวเราะขำๆ

บุรุษไปรณีย์จากไปนานแล้ว ฉันยังคงมองภาพในมือ
วานสายลมนำทางส่งมอบความคิดถึงให้แกแทนโปสการ์ดของฉันที่ไม่มีวันส่งถึง
ที่อยู่ไม่แน่นอน ไม่สามารถระบุได้ว่าวันนี้หรือวันนั้นแกจะอยู่มุมไหนของโลก
วาติกัน ปารีส หรือแคชเมียร์ หรือ หรือ หรือ...
-ไม่มีอนาคต ปัจจุบันมีเพียงอดีตเป็นตัวเชื่อม และชีวิตมักเร็วกว่าโปสการ์ด

[[ภายในห้อง เพลง Wish you were here ของ Pink Floyd ดังขึ้น]]

---------------------------------------------------------------------------------------

"อยู่เมืองไทยแล้ว ออกมาหาหน่อยดิ"
แกสบายดี ครั้งแรกที่พบเจอสายตาฉันเห็นเป็นเช่นนั้น
เราคุยกัน เราใช้เวลาอยู่ด้วยกัน เวลาว่างร่วมกัน.. ฉันพาแกตะลอนเที่ยว
ขึ้นรถเมล์สายนั้น ลงสายนี้ นั่งเลยป้าย โบกรถในกรุงเทพ!
แกทำท่าสนุกสนาน ติ๊งต๊องบ้าๆ บอๆ หลุดโลก
แกทำเอาฉันอึ้ง หัวเราะขำ พร้อมส่ายหน้า " ไอ้บ้า"

ไร้ซึ่งความคิดถึง เพราะตอนนี้ ขณะนี้ วินาทีนี้เราอยู่เคียงข้างกัน

ทุกเช้าฉันจะโทรหาแก - ตื่นนนน.. ไปเที่ยวกัน
แล้วแกก็จะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงระริกระรี้ - ไปไหนดี

วันนั้นฉันโทรหาแกตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือแม่แกรับสาย
"โต้งเข้าโรงพยาบาล"
ฉันงงไปสักครู่ ... แกเป็นอะไร ไม่มีวี่แววอาการป่วยให้เห็นเลยนี่
แม่ไม่พูดอะไรนอกจากถามว่าตอนบ่ายว่างไหม ให้ไปโรงพยาบาลด้วยกัน
ฉันตกลงแบบไม่คิดอะไรมาก อยากรู้สาเหตุเช่นกันว่า...เพราะอะไร ที่ทำให้แกเป็นอย่างนี้

"ร้องไห้ เพ้อ อาละวาด คลั่ง เกือบจะทุกคืน และเมื่อคืนนี้เขาพยายามฆ่าตัวตาย"
คุณหมอที่โรงพยาบาลศรีธัญญาสรุปอาการแบบย่อ ก่อนที่จะถามฉันว่าพอรู้สาเหตุบ้างไหม
ฉันส่ายหน้า พยายามนึก เพียงแต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก
เพื่อนมักจะไม่พูดอะไรที่เป็นส่วนตัวมากๆ และฉันก็มักจะไม่ค่อยถาม
มันเป็นข้อตกลงกันเงียบๆ ทางใจของเรา ความลับอยู่มุมใดมุมหนึ่งของร่างกาย

"แกคิดป่ะ เวลาที่ยืนดูรูปปั้นประติมากรรมมันเหมือนกับว่าเรากำลังยืนเปลือยต่อหน้าใครสักคน"
จำได้ว่า.. แกพยักหน้าเห็นด้วยพลางพูดย้ำเพื่อต้องการความชัดเจน "ต่อหน้ารูปปั้นมักไม่มีความลับ"
เราสองคนยืนปล่อยให้ความลับรั่วไหลท่ามกลางไม้ หิน โลหะ หรือสัมฤทธิ์ต่างๆ
และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ฉันกลับคิดว่าลึกๆ แล้วมนุษย์ไม่เคยไว้ใจกันเลยหรือ?

ฉันขออนุญาตหมอเข้าไปหาแก
สภาพแกก็ปกติ ผมปกบ่า ใบหน้ารูปสวย จมูกโด่ง ยิ้มหวาน นัยน์ตาหม่นเศร้า
ฉันเลือกที่จะนั่งเงียบๆ ข้างแก เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ฉันเอื้อมมือไปตบบ่าแกสองสามที
"ชั้นมีความลับจะบอกแกว่ะ " ว่าแล้วความลับของฉันก็ถูกปล่อยผ่านเสียง - เป็นครั้งแรกที่ฉันเปลือยใจกับมนุษย์
แกนั่งฟังเงียบๆ เรื่องเล่าจบลงนานแล้ว แกค่อยๆ พูดว่า..
"ชั้นป่วยว่ะ รู้ตัวเองดี เอาไว้สักวันหนึ่ง กลับมาได้เมื่อไหร่ จะเล่าให้แกฟังเป็นคนแรก"
จำได้ชัดเจนวันนั้นฉันกลับบ้านด้วยความหวังเดียว- สักวันเพื่อนคงบอก
...และวันนั้นก็คงไม่มาถึง...

----------------------------------------------------------------------

"กำลังเปลือย มองฉันสิ"
ควันสีขาวลูบไล้สัมผัสอากาศหรืออากาศลูบไล้ควันกันแน่..
แต่ที่แน่ๆ นั่นคือภาพเปลือยสุดท้ายของเพื่อน



Views: 128

Comment

You need to be a member of PORTFOLIOS*NET to add comments!

Join PORTFOLIOS*NET

Comment by sujitra ji on February 24, 2010 at 5:39pm
ใช่ๆ

เปลือยกายแค่ถอดผ้า
เปลือยใจต้องถอดหัว
- นั่นคือต้อง...

แหะๆ
Comment by Chronos on February 24, 2010 at 4:29am
ธรรมชาติของคนเราเนี่ยะ...เปลือยกายยังง่ายกว่าเปลือยใจอีกนะ
Comment by daxter on February 22, 2010 at 1:04pm
ตอนนี้ผมเปลือยไม่ได้นะ....คนเต็มออฟฟิสเลย5555

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service