ทานตะวันในแจกัน : กับการล่มสลายของมิตรภาพที่ศิลปะไม่อาจเยียวยา



“คุณเคยมีความสุขไหม วินเซนท์???”
โกแกงหลุดคำพูดให้ผมได้ยิน ขณะที่ทั้งสองคนเดินออกจากซ่องของหลุยส์

ฟูกู: คนบ้าผมสีแดง
โปรวองซ์-อาเล่ส์


ที่นั่น เกือบทุกคนเรียกเขาอย่างนั้น
บ้านหลังเล็กของเขาฉาบด้วยปูนทาสีเหลืองสด ดูกลมกลืนไปกับสภาพแห้งแล้งของเมือง……..
เพราะรอยร้าวในหัวรึไงนะ ที่ทำให้เขา ทำตัวแปลกและประหลาด อย่างตอนที่ชาวนาถามว่าเขาทำงานอะไร
เขาตอบไปว่า งานของเขาคือการมองต้นไม้

เขามองทุกสิ่ง ซึบซับเอาความเป็นจริงของสิ่งต่างๆถ่ายทอดออกมาด้วยสีสันที่จัดจ้าน
อารมณ์ที่แปรปรวนและเจ็บปวดจากเรื่องราวต่างๆ ไหลผ่านจากหัวใจสู่ปลายพู่กัน ทำให้ภาพของเขาเป็นที่น่าอิจฉานัก
ว่าทำไมไม่สามารถวาดได้แบบนั้น : นั่นเป็นความคิดของโกแกง เมื่อได้เห็นเหล่าดอกทานตะวันในแจกัน

มองเตซูมา : ผู้สืบเชื้อสายจากกษัตริย์แอซแทค และเพื่อนของฟูกูคนนั้น
ปองท์อาเวน-โรงคนบ้า


“ซื่อสัตย์ต่อสิ่งที่คุณเห็นและรู้สึก ....สีดำก็คือสีสีหนึ่ง”
โกแกงในฐานะของหัวหน้ากลุ่ม เป็นที่ยอมรับของทุกคน ในความสามารถ และเฉลียวฉลาด
ทฤษฎีของเบอร์นาร์ดที่อธิบายได้แต่คำพูด ถูกโกแกงสอนมวยด้วยการปฏิบัติ - ภาพนั้นเป็นที่คร้ามต่อคนเคร่งศาสนานัก
นั่นเป็นรูปก่อนที่เขาจะเขียนรูปตัวเองแล้วส่งไปให้วินเซนท์ที่อาเล่ส์

โกแกง-แวนก็อกห์

ผมเห็นสองคนนั่นเป็นประจำที่ร้านกาแฟ ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มเมามาย และเดินไปซ่องของหลุยส์
มองเตซูมาจับเจ้าอ้วนคนนั้นดันติดกำแพง หลังจากที่เจ้านั่นเอาแต่พร่ำล้อฟูกู
นั่นสร้างความประทับใจต่อแวนก็อกห์ไม่น้อย นอกเหนือจากความฉลาดและหลงตนเองของโกแกง

แวนก็อกห์ยอมทุกอย่างสำหรับเพื่อนรักของเขา แต่ปมในใจบางอย่างของแวนก็อกห์ก็ทำให้โกแกงคิดว่าไม่สามารถที่จะอยู่ร่วมบ้านได้ต่อไป
ดอกทานตะวันที่แวนก็อกห์วาดไว้เพื่อต้อนรับเพื่อนๆและแสดงออกถึงมิตรภาพ ไม่อาจที่จะดึงมิตรภาพนั้นไว้ได้แล้ว
…………………
โกแกงเพิ่งเดินผ่านหน้าผมไปเมื่อสักครู่ เขาพยักหน้าเป็นเชิงทักทายนิดนึง ก่อนที่ผมจะเห็นแวนก็อกห์ถือมีดโกนตามหลัง
โกแกงคงรู้สึกได้ในที เขาหันกลับมาพร้อมกล่าวกับแวนก็อกห์
“................................................”

ผมฟังไม่ถนัดนัก แต่ก็เห็นว่า วินเซนท์ยอมเดินกลับไป
ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น โกแกงได้แต่กล่าวโทษตัวเอง กับการอยู่ต่อที่อาเล่ส์ และหูของแวนก็อกห์ที่มอบให้ราเชล
โสเภณีคนนั้นที่ซ่องของหลุยส์ ผู้ซึ่งไม่เคยหัวเราะเยาะเขา
....................
ไม่กี่อาทิตย์จากนั้น วินเซนท์ก็ยิงตัวตาย ก่อนที่จะเสียชีวิตในอีก 2 วันต่อมา
วินเซนท์ แวนก็อกห์จากโลกนี้ไปด้วยอายุ 37 ปี ในวันที่ 27 กค.1890

30 มีค. 1987 เกือบ 100ปีหลังจากนั้น
ภาพดอกทานตะวันภาพนั้น ถูกประมูลขายโดยคริสตีส์ (Christie’s) ในราคา 22,500,000 ปอนด์ หรือ ประมาณ 1,350ล้านบาท
ณ เวลานั้น ถือว่าเป็นภาพที่แพงที่สุดเท่าที่มีมาในโลก และแพงที่สุดของแวนก็อกห์ ผู้ที่ทั้งชีวิต ขายภาพได้เพียงภาพเดียว

13/12/2551 ในวันที่งานรุมเร้า


Cover:
Vincent Van Gogh
SUNFLOWERS (1888)
Oil on canvas. 37 3/8 x 28 ¾ in.

ภาพด้านล่าง จากซ้ายไปขวา
1.Self-Portrait (Dedicated to Paul Gauguin)
Painting, Oil on Canvas
2.Paul Gauguin
Self-Portrait. 1896. Oil on canvas.
3.Paul Gauguin.
Van Gogh Painting Sunflowers. 1888.
Oil on canvas.
(ในตอนที่อยู่ด้วยกันที่อาเล่ส์ โกแกงอดไม่ได้กับพลังอันน่าหลงใหลของแวนก็อกห์ยามที่ออกไปวาดภาพด้วยกัน
โกแกงขอร้องแวนก็อกห์ให้เป็นแบบให้เขา)

4.Paul Gauguin.
Sunflowers. 1901.
Oil on canvas. The Hermitage, St. Petersburg, Russia.

Views: 824

Comment

You need to be a member of PORTFOLIOS*NET to add comments!

Join PORTFOLIOS*NET

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service