18.08.09
เมื่อตอนหัวค่ำของสองวันที่แล้ว เรามีนัด ไม่ใช่กับใครแต่เป็นกับร้านถ่ายรูปที่ไปล้างฟิล์มไว้แล้วต้องไปเอา
มันอยู่ไม่ไกล เลยคิดว่าขึ้นรถกระป๋องจากหน้าหอไปก็ได้ พอเดินไปถึงป้ายรถเมล์เพื่อขึ้นรถกระป๋องที่จอดอยู่
แต่ว่าเราขึ้นไม่ทันคันแรกที่เห็น เลยต้องขึ้นคันถัดมา
ก่อนขึ้นรถก็มองผ่านไปที่ห้องโดยสารด้านหน้าในแบบที่คนทั่วไปปกติจะมองผ่าน
ในขณะที่ก้าวเท้าเหยียบบันได ตาที่เหลือบมองไปในรถ ก็เห็นบางอย่างตกอยู่บนพื้นรถเป็นกระดาษ แต่เศษกระดาษที่ว่านี้ มีมูลค่า 100 บาทด้วยกัน
แว๊บแรกที่เห็น รู้เลยว่า ต้องเก็บมันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ในนาทีแรก ยอมรับว่าดีใจมาก เพราะจำนวนเงินที่เห็นนั้น มีค่ามากกว่า เศษเงินทั่วไปที่จะสามารถตกได้ตามถนน
พอหยิบเงินขึ้นมาถือในมือ รู้สึกได้ถึงความตื่นเต้น อาจด้วยความรู้สึกอยากได้เป็นเจ้าของบวกกับความคิดในหัวที่รู้ว่ามันไม่ใช่ของ ของเรา
แล้วความคิดที่ตามมาก็คือ แล้วจะทำยังไงกับเงินจำนวนนี้ดี ขณะที่คิดรถยังคงจอดอยู่ที่ป้าย เหมือนกับรอเวลาให้เราตัดสินใจด้วยว่า
จะทำอะไรกับสิ่งที่เพิ่งจะได้มาพอเสียงสตาทเครื่องดัง เหมือนความคิดในหัวก็ดังขึ้นพร้อมกัน และทำให้นึกถึงคนขับด้านหน้าที่นั่งหันหลังชนกับเราอยู่ในอีกฟากของตัวรถ เราจึงตัดสินใจได้ว่า จะให้เงินจำนวนนี้กับพวกเขา เพราะว่า นอกจากจะมีคนขับอยู่ด้านหน้าแล้ว
เราจำได้ว่าก่อนขึ้นรถมาข้างๆคนขับเป็นแม่กับลูกเล็กๆ
ทำให้เข้าใจได้ว่านั่นเป็นครอบครัวรถกระป๋องของเค้า พอรถเคลื่อนออกไปในหัวก็หมดคำถามเพราะตัดสินใจได้แล้วว่าจะให้มันกับใคร เพราะอะไร
ที่เหลือก็อยู่แค่รอให้ถึงปลายทางเพื่อที่จะได้ทำสิ่งที่ตั้งใจไว้จริงๆ
พอใกล้ถึงจุดที่จะต้องลง เราก็กดกริ่ง กริ๊งงงง.. เป็นเสียงของการเริ่มต้นในสุดปลายทางสั้นๆ
พอก้าวลงรถ เราก็ยื่นเงินจำนวน 5 บาท ที่อยู่ในมือซ้ายสำหรับค่ารถ " นี่เงินค่ารถนะคะ แล้วก็นี่ เมื่อกี้เจอตกอยู่นรถค่ะ"
เรายื่นให้ผู้หญิงที่เป็นแม่ เธอรับไว้พร้อมพยักหน้ารับ สีหน้าของเธอยังคงงงๆพอกับคนขับที่คาดว่าเป็นพ่อของเด็ก
และก็เหมือนกับเราตอนที่เจอมันครั้งแรก
ฉันผละออกมาเมื่อเสร็จเรื่องที่ต้องทำโดยไม่ได้หันกลับไปมองอีก ได้ยินแต่เสียงรถที่ไกลออกไป
ระหว่างที่เรากำลังเดินออกจากร้านรูป ในหัวก็คิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น ว่ามันรู้สึกดีที่เหมือนได้ทำบุญ แต่การทำบุญครั้งนี้เหมือนกับว่าเราได้ทำบุญกับใครคนนึงที่ฉันไม่รู้จัก ซึ่งเป็นเจ้าของเงินที่ตกอยู่
และเราก็มอบให้กับคนที่เราไม่รู้จักอีกเช่นกัน แต่มันรู้สึกเหมือนการได้ช่วย แม้สิ่งนั้นเราอาจจะคิดไปเองก็ได้ว่าเงิน 100 บาท นี้เหมือนเราได้นั่งรถกระป๋องถึง 20 เที่ยวด้วยกัน
เราคิดว่ามันคงพอทุ่นเวลาในการเหน็ดเหนื่อยของพวกเค้าได้บ้าง ที่ต้องรอรับคนให้เต็มในแต่ล่ะรอบเพื่อที่จะได้รายได้จากต่อคนเพียงคนล่ะ 5 บาท
ปล. ขอบคุณเจ้าของเงิน 100 บาท ที่ทำให้เราได้ทำสิ่งดีๆ
แล้วเราคิดว่าบางทีค่าของเงิน 100 บาท อาจน้อยกว่า ค่าของ การที่มันเป็นเพียงเศษกระดาษที่มีมูลค่าแต่สามารถทำให้คนถึง สี่คน กับอีกหนึ่งตัวน้อยมีความเกี่ยวเนื่องกันโดยผ่านแค่ เศษกระดาษที่มีมูลค่าเพียงชิ้นเดียว :)
ถึงคนอ่านถ้าวนไปมาก็ขออภัยเพราะพยามถ่ายทอดความรู้สึกที่ได้รับเมื่อสองวันที่แล้ว แต่เพิ่งจะได้เขียนมันออกมา หลังจากนั้นหนึ่งวัน
You need to be a member of PORTFOLIOS*NET to add comments!
Join PORTFOLIOS*NET