พันธนาการอย่างเสรี

พันธนาการอย่างเสรี
ผมมีเวลาอีกแค่สี่วันเท่านั้นที่จะได้อยู่ที่กรุงเวียนนา สี่วันสำหรับผมมันจะเร็วไปไหมถ้าหากว่าผมไม่ได้ทำอะไรที่ใจอยากทำ และสี่วันจะเร็วไปไหมถ้าหากว่าผมพลาดที่จะไม่ได้นั่งรถไฟไปดูแม่น้ำดานูป แต่เพื่อนร่วมทางของผมคัดค้านความคิด ผมขึ้นมาว่า
“ ดานูปที่กรุงเวียนนาก็มีให้ดูให้ชมทำไมจะต้องรอนแรมไปดูไกลๆด้วย”
ใช่ครับ! ดานูป ที่กรุงเวียนนาก็มีให้ดู แต่ ดานูป ที่ขึ้นชื่อมันไม่ได้อยู่ที่นี่ มันอยู่ที่ฮังการี่ หรือที่ผมเข้าใจก็คือ บูดาเปตส์ นั้นเอง และความสวยงามความโรแมนติกมันก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ระหว่างออสเตรียและฮังการี่ มนต์เสน่ห์ของแม่น้ำดานูป ได้ะสะกดจิตให้ผมระลึกถึงฉากหนังฮอลลี่วูดเรื่องหนึ่งที่ผมดูแล้วเกิดความอิจฉา และอยากที่จะลองทำในสิ่งที่นางเอก ที่เธอแสดงเป็นถึงลูกประธานาธิบดีได้ปลดปล่อยชีวิตที่เธอไม่ได้กำหนดตารางชีวิตของเธอเองเลย ที่ได้ท่องเที่ยวไปตามประเทศที่เธออยากไป และท่องเที่ยวไปตามเส้นทางรถไฟในยุโรปวิ่งผ่านตามเมืองต่างๆ มันชั่งได้ปลดปล่อยพันธนาการ การท่องเที่ยวอย่างเสรีและไม่มีแม้ตารางชีวิตให้เธอได้ทำในแต่ละวัน นั้นหละคือสิ่งที่ผมปรารถนา อยากจะตามรอยเส้นทางของฉากในหนังเรื่องนั้น
พูดจบผมไม่มัวมานั่งฮัมเพลงป๊อบ เพลงแจ๊ส เหมือนแต่ก่อนที่เคยทำมา รีบจัดแจงเก็บข้าวของเพื่อจะไปประเทศฮังการี่ สักสองคืนสามวัน ในระหว่างที่ผมหาข้อมูลในห้องสมุดออนไลน์ที่ใหญ่ และน่าเชื่อถือได้ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง สิ่งสำคัญอีกอย่างผมจะต้องหาที่พักราคาไม่สูงไม่แพงมากจนเกินไป และต้องอยู่ไกล้กับสถานที่เที่ยว ที่ดื่ม และที่สำคัญต้องไกล้กับแม่น้ำ ดานูป อันส่วนหลังเป็นที่สำคัญที่สุด! ณ เวลานี้นาทีนี้ตารางเดินรถไฟไปฮังการี่เที่ยวที่ดีที่สุดในตอนนี้เหลืออีกยี่สิบนาที ที่จะออกจากสถานีกรุงเวียนนา ผมบอกกับเพื่อนร่วมทางว่า ถ้าจะไปฮังการีด้วยกันก็จัดกระเป๋าและพร้อมที่จะเดินทางตอนนี้เลย!
ผมไม่ลืมที่จะเช็คตั๋วยูเรียลพาส ที่ผมได้ซื้อมาจากกรุงเทพ และทะนุถนอมมันอย่างดี ด้วยการจัดแจงแผนการเดินทางอย่างรอบคอม และรัดกุมให้คุ้มค่าที่สุด มันเป็นโชคดีของผมเป็นอย่างยิ่งเพราะตั๋วเหลือวันใช้งานได้สองครั้ง เท่ากับว่า พอดีเที่ยวไปฮังการี่และเที่ยวกลับมาออสเตรีย เพื่อขึ้นเรือบินที่เวียนนากลับไปกรุงเทพ แต่นั้นคงจะไม่สำคัญเท่าไหร่หรอกครับ! ตอนนี้เวลานี้เหลืออีกห้านาที ที่รถไฟไปบูดาเปตส์จะออกจากสถานีกรุงเวียนนา ผมไม่รอช้าที่จะวิ่งโดยที่ไม่คิดถึงชีวิตตัวเอง แต่โชคดีที่โฮสเทลที่ผมพักมันไม่ไกลจากสถานีรถไฟเท่าไหร่นัก
ผมต้องแปลกใจทำไมบนรถไฟถึงมีคนเยอะจัง! เดินไปตู้ไหนห้องไหนก็มีคนแน่นไปหมด แล้วจะมีที่เหลือพอสักที่สองที่ให้กะเหรี่ยงได้นั่งๆนอนๆไปยลโฉมดูแม่น้ำดานูปที่ใจปรารถนาอยากไป
ให้เห็นกับตาไหม? และแล้วรถไฟก็เริ่มเคลื่อนตัว จะถึงก็ชั่ง ไม่ถึงก็ชั่ง แต่ที่แน่ๆผมและเพื่อนร่วมทางไม่ยอมตกรถไฟขบวนนี้เป็นแน่แท้ ผมสำรวจหาที่นั่งตามตู้แล้วตู้เล่าทุกห้องค่อนข้างเต็ม ผมรอให้รถไฟผ่านสถานีไปเรื่อยๆและคอยสังเกตุว่ามีคนลงที่สถานีไหนบ้าง และมันก็เป็นผลสำเร็จที่สถานีข้างหน้ามีชาวฮังกาเรียนลากกระเป๋ามายื่นอยู่หน้าประตูทางลงเพื่อที่จะเตรียมตัวลง ด้วยสองเท้าที่ ย่ำโลกและเดินตามกระบือมาค่อนโลกเป็นทุนเดิม หรือจะที่เรียกว่าเดิน
จนกระบืออายนั่นแหละครับ! จึงได้ที่นั่งพอที่จะได้จดๆเขียนๆอะไรที่ผ่านหูผ่านตาได้บ้าง และในห้องที่ผมและเพื่อนร่วมทางของผมอยู่นั้นมีทั้งหมดหกคน และมีกะเหรี่ยงหัวดำเพียงสองคนที่ดูสะดุดตาและน่าเกรงขามหรือเปล่านะอย่างหลังนี่ผมคาดเดาเอาเอง
ผมมองออกไปนอกหน้าต่างและสังเกตตึกราบ้านช่อง ช่างดูแตกต่างประเทศออสเตรียเหลือเกิน ตึกดูแลเก่าๆและผุพังไปตามกาลเวลา และถ้าสังเกตให้ดียังพอมีคราบสงครามโลกหลงเหลืออยู่ให้เห็นประปราย ผมนึกในใจ! นี้คงจะเป็นตึกชนบทของฮังการี่ แต่ดูแล้วมันมีมนต์ขลังยังไงพิกล ทำให้ผมพลอยนึกถึงฉากของหนังเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวกับการจับเฉลยสงครามของชาวยิว ที่มีผู้บงการอยู่ข้างหลังคือนาซี ฉากของหนังได้เล่าถึงการต้อนเฉลยสงครามหรือที่พวกมันเรียกว่าชาวยิวนั้นเอง ตอนนั้นชาวยิวซึ่งพวกเค้าก็เป็นปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่อยู่อาศัยอย่างคนปกติในเมืองและประเทศในยุโรปตะวันออกช่วงนั้น เขาต่างไม่เคยคาดเดาเลยว่าพวกนาซีจะ
ทำการปฏิวัติล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวให้สิ้นซาก ทำเหมือนชาวยิวเป็นหมู หมา ปลา ไก่ ต้อนขึ้นรถไฟเพื่อไปกักขังยังที่ ที่พวกมันได้เตรียมเอาไว้ และชาวยิวจากประเทศฮังการี่ก็เช่นกัน พวกเค้าโดนต้อนขึ้นรถไฟอย่างแออัด มีเพียงที่ไว้สำหรับยืนและพื้นที่ไว้ลมหายใจเท่านั้น โดยสถานที่พวกนาซีเตรียมไว้อยู่ที่ประเทศโปแลนด์ และได้เรียกค่ายนี้ว่า “เอาท์สวิทส์”
ระหว่างทางที่รถไฟมุ่งหน้าไปยังค่ายกักกันเอาสวิตส์นั้น ชาวยิวต่างไม่รู้ชะตาชีวิตของตนเองเลย แม้แต่น้อย พวกมันจับพวกเขาไปเป็นทาสให้ทำงานหนักๆ และไม่มีอาหารให้พวกเขาได้ดื่มกินแม้แต่น้อย จะมีดีหน่อยก็เพียงซุบใสๆและขนมปังเน่าๆเท่านั้น ชาวยิวคนไหนร่างกายไม่แข็งแรงและไม่มีเรียวแรงทำงานต่อไปได้ ก็จะถูกคัดตัวและรอวันที่จะนำตัวไปเผาทั้งเป็น บางคนก็โดนรมด้วยควันพิษ
แล้วมุมมองประเทศฮังการี่จะเหมือนในฉากของหนังที่ผมเคยดูมาหรือเปล่า? และความไม่เที่ยงแท้จะเกิดกับผมในเส้นทางข้างหน้าหรือเปล่า? ผมไม่เคยคาดเดาได้เลยสักครั้ง ได้แต่ตั้งจิตอธิฐานในระหว่างการเดินทางอยู่ตลอด ขอให้การเดินทางทุกครั้ง และทุกที่ ขอให้ราบรื่นลุล่วงไปด้วยดี แต่การเดินทางทุกครั้งไม่จำเป็นที่จะประสบผลสำเร็จบ่อยครั้งไป บางครั้ง
ผมต้องเจอกับปัญหาและต้องแก้สถานการณ์เฉพาะหน้า ไปให้ได้ทุกครั้ง นี่แหละเป็นการเดินทางที่ผมเลือกเอง มันไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่ใครๆเขาคิดไว้ ผมถือว่าประสบการณ์ที่ผมได้เจอะเจอมันจะเป็นบทเรียนครั้งยิ่งใหญ่ที่ห้องเรียนห้องไหนไม่ได้สอนผมมา และบ่อยครั้งที่ผมนำเอาประสบการณ์เหล่านั้น จะหนักจะเบามาปรับใช้ในชีวิตประจำวันผมได้
นั่นทำให้ผมคิดถึงตัวตนเองตอนที่ตัดสินใจเดินทางมาท่องยุโรปครั้งแรก ทั้งที่ภาษาอังกฤษของผมถือว่าอยู่ในระดับไม่อดอยาก พอที่จะสั่งอาหารการกินพอได้อยู่บ้าง หรือที่เรียกว่าไม่อดตาย ถูๆไถๆไปได้ก็แล้วกัน แต่ในมุมกลุ่มเพื่อนของผม ต่างไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจไปท่องยุโรปโดยตัวลำพัง พวกเค้าไม่ได้อิจฉาผมแต่อย่างไร แต่ด้วยประการที่ว่าเพื่อนต่างรู้วิถีชีวิตและการใช้ชีวิตร่วมทั้งรู้ว่าผมไม่กล้าออกไปเผชิญกับโลกใบอื่นอีกโลกหนึ่ง ที่ผมไม่เคยพบเห็น ผมรู้แม้มันเสี่ยง และรู้ว่ามันอันตราย แต่สิ่งเหล่านั้นกลับเป็นแรงผลักดันชั้นเยี่ยมในวัยที่ผมโหยหา สิ่งที่ตื่นเต้นเพื่อกระตุ้นต่อมการใช้ชีวิตนั้นต่างหาก
ผมก้มหน้ามองดูนาฬิกาข้อมือเทียบเวลาตามยี่ห่้อฮอยเอ๊อ ที่เพื่อนๆมันตั้งชื่อยี่ห้อนี้ให้กับนาฬิกาของผม ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสามกว่าๆ ผมนั่งรถไฟมาได้สองชั่วโมงต้นๆ และคงเหลืออีกหนึ่งชั่วโมงพอดีที่จะถึงบูดาเปสต์ ผมเงยหน้ากวาดสายตามองเพื่อนร่วมห้องของตู้รถไฟ ต่างคนต่างอมน้ำลายฝันไปไกลยังที่พวกเค้าวาดฝันในโลกใบอื่นอีกโลกหนึ่ง ดูเหมือนพวกเค้าพยายามที่จะค้นหาทางเดินของตนเองเหมือนกับผมเช่นกัน
ผมชอบคำกล่าวตอนหนึ่งของหนังสือ “นั่งรถไฟไปตู้เย็น” ของคุณนิ้วกลม ที่ว่าเพื่อนร่วมทางสำคัญกับความคิดนะ และเรื่องราวในระหว่างทางมากๆ ความคิดและการพูดคุยสามารถสร้างบรรยากาศอารมณ์ความรู้สึกและสิ่งจดจำในการเดินทางทุกครั้ง เดินทางกับคนที่คุยกันรู้เรื่องมีแต่จะอยากยืดวันเวลาออกไป เดินทางกับคนที่ขัดใจกันมีแต่อยากให้แต่ละวันสั้นลงไปทุกที บางครั้งผมก็เลือกเพื่อนร่วมทางไม่ได้ อาจต้องลองเดินทางดูก่อน หากทั้งสองรู้สึกดี ก็เดินทางกันต่อไป หากมีใครไม่สบายใจสุดท้ายก็แค่แยกทาง” สงสัยจะจริงอย่างที่คุณนิ้วกลมเค้าว่าไว้ไม่มีผิด เพราะผมกำลังที่จะเลือกและเรียนรู้ ถ้าผมไม่เรียนรู้และไม่ลองที่จะปฏิบัติมัน ผมจะตีโจทย์วิชาเลือกที่เลือกได้หรือเปล่า การบ้านบทนี้ผมจะต้องลองทำส่งมันสักตั้ง!

Views: 88

Comment

You need to be a member of PORTFOLIOS*NET to add comments!

Join PORTFOLIOS*NET

Comment by dejchaz on August 18, 2009 at 7:30pm
คริๆๆๆ ของตาเองก็เขียนยาวเหมือนกันชิไมชิไม คริๆๆๆ มดน้อย
Comment by Night life on August 18, 2009 at 5:41pm
แวะเข้ามาอ่าน ได้นิดๆหน่อยๆ เด๋วมาอ่านต่อให้ จบ

ยาวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ขอบอก

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service