10 สุดยอดการออกแบบรองเท้า ที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึกไว้

ภาพแรกที่เห็นด้านบนเป็นความสุดล้ำของ Alexander McQueen ในปีที่โลกแฟชั่นได้สูญเสียเขาไป Armadillo Shoes คู่นี้เพิ่งจะออกมาให้ชาวโลกยลโฉมเมื่อปีที่แล้ว แต่ก่อนหน้านั้นโลกที่กระหายอยากความสวยงาม มีสีสันตลอดเวลาใบนี้ ก็ได้มีนักออกแบบและช่างทำรองเท้ามากมาย ได้ประดิษฐคิดค้นจนได้เครื่องแต่งกายทั้งสวยหรู ทั้งเรียบง่ายให้กับผู้คนมาทุกยุคทุกสมัย เก็บมาฝากกับการจัดอันดับแฟชั่นรองเท้าในประวัติศาสตร์ที่ทั้งเก๋ ทั้งเก๋าอย่าบอกใคร รองเท้าคู่ไหน จากชาติใดที่จะคว้าที่ 1 ไปครองมาตามดูกัน

 

 10. Okobo : ราวปี 1970 รองเท้าสำหรับ Maiko หรือ เกอิชาฝึกหัดคู่นี้ ถูกออกแบบขึ้นและทำมาจากไม้ล้วน มีความสูงเกือบ ๆ  5 นิ้ว ช่วยเสริมความสง่างามยามคุณใส่กิโมโน น่าฟังกับเสียงดังยามรองเท้ากระทบกับพื้น ยามค่อย ๆ เยื้องย่างกรีดกรายไปตามทีต่าง ๆ

 

9. Men’s high heels : ส้นสูงสำหรับท่านชายคู่นี้ เป็นรองเท้าสัญชาติยุโรปนิยมสวมใส่แถว ๆ ปี 1700  ผู้สวมใส่ส่วนมากมีอันจะกิน คหบดีหรือขุนนางผู้มั่งคั่ง


8. kabkabs คู่นี้ส่งตรงมาจากเลบานอน มีอายุเก่าแก่อยู่ในราวศตวรรษที่ 14-17 โน่นเลยทีเดียว การที่หญิงสาวสวมใส่รองเท้าสูงขนาดนี้ ก็เพื่อป้องกันความสกปรกต่าง ๆ นั่นเอง รองเท้าทำมาจากไม้แต่ก็เพิ่มความเรียบหรูดูดีตามสไตล์พวกอาหรับเขา ด้วยการแต่งจากผ้ากำมะหยี่และเงินแท้ลงไป

 

7.Plaited birch bark shoe : ในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ที่ฟินแลนด์ ผู้หญิงที่นั่นได้ผลิตรองเท้าที่มีอายุการใช้งานแสนสั้นเพียงราว ๆ  1 สัปดาห์เท่านั้น ก็ต้องเปลี่ยนคู่ใหม่ เพราะมันเป็นรองเท้าทำมือที่สานขึ้นมาอย่างง่าย ๆ จากเปลือกของต้นไม้ นอกจากนี้ว่ากันว่าที่นอร์เวย์ สวีเดนหรือแม้กระทั่งรัสเซีย ในแต่ละประเทศก็มีการทำรองเท้าซึ่งมีอายุการใช้งานสั้น สวมใส่สบายขึ้นมาใช้เช่นเดียวกัน

 

6. Chopines : รองเท้าจากอิตาลี ซึ่งเมื่อดูดีไซน์แล้วก็สมกับเป็นผู้นำแฟชั่นของโลกมาถึงปัจจุบันนี้ คู่นี้ถูกสร้างขึ้นมาและใช้ในช่วงปี 1580-1620 รูปร่างละม้ายไปทาง Okobo เหมือนกันนะ แต่คู่นี้ว่ากันว่าสมัยนั้นทั้งแพง ทั้งหรูหราเชียวล่ะ ซึ่งต่างจากรองเท้าของไมโกะที่เน้นความเรียบง่าย

5. Heelless shoes : มาถึงร้องเท้าไร้ส้นคู่ที่ไม่ต้องย้อนเวลาไปหาอดีตมากนัก กับความสำเร็จที่ Antonio Berardi ดีไซน์เนอร์ชาวอังกฤษ นำขึ้นมาแสดงบนรันเวย์ให้ทั้งโลกอื้ออึงเมื่อปี 2007 จากนั้นมาแฟชั่น Heelless shoes ก็เริ่มระบาดกับแฟชั่นไอคอนชื่อดัง ลามไปยังนักแสดงและดารานักร้อง ไม่เว้นแม้กระทั่งในบ้านเรา

4. Padukas (Toe-knob sandals) : ดูรูปร่างก็รู้ว่าเป็นรองเท้า แต่หลายคนก็คงคิดเหมือนกันว่าคงจะเดินลำบากน่าดู  Padukas คู่นี้ส่งตรงมาจากดินแดนภารตะในยุคปี 1700  เป็นรองเท้าสำหรับชายหนุ่มที่ทั้งหนัก ทั้งแข็ง ทำจากไม้และเหล็ก แล้วที่การดีไซน์ออกมาเป็นดังที่เห็นนี้ ก็เพื่อสร้างความเจ็บปวด?? อ่านไม่ผิดหรอก รองเท้าคู่นี้สร้างขึ้นมาเพื่อให้คนใส่ทรมาน เขาเชื่อว่าความเจ็บปวดจะเป็นสิ่งที่ทำให้ความรู้สึกเหมือนทุกรีเซตใหม่อีกครั้ง เราจะรู้สึกโล่งอย่างบอกไม่ถูก หลังจากที่ความเจ็บปวดหายไป แถมยังช่วยเพิ่มพลังทางเพศอีกนะ


3. Wooden Bridal Shoes : ตัวนี้มาจากฝรั่งเศส คงไม่แปลกตานักเพราะอาจจะเห็นตัวละครในหนังจักร วงศ์ ๆ ของบ้านเราใส่อะไรทำนองนี้มาบ้างแล้ว ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ศวรรษที่ 19 ทำมาจากไม้วอลนัทประดับเงินแท้

 

2.The Ballet Boot : สาวสวยในชุดหนังรัดรูปกับรองเท้า Boot ส้นแหลมปรี๊ด ดูเหมือนจะเป็นสัญลักษณ์ของความเซกซี่ เย้ายวนใจ ท้าทายของหญิงสาวในยุคนี้ไปแล้ว และดูเหมือนว่าแฟชั่นรองเท้าที่เริ่มตั้งแต่ปี 1980 คู่นี้ จะดูล้ำอนาคตเสมอ คงอีกนานกว่าที่จะกลายเป็นอดีตไป ที่มาที่ไปนั้นสืบสาวความไม่ได้ว่าต้นตอเริ่มจากที่ไหน แต่ที่แน่ ๆ ฮิตมากในญี่ปุ่น

1. Lotus Shoes : รองเท้าคู่นี้มีชื่อจีนเรียกว่า 'กงเสีย' ได้อันดับหนึ่งแบบไม่อาจมีใครเทียบเทียมได้ รองเท้าจากแผ่นดินใหญ่คู่นี้เป็นความสวยงามอันแสนเจ็บปวดซึ่งอยู่คู่กับสตรีชาวจีนมานานตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 จนถึงปลายปี 2009 ที่วัฒนธรรมสมัยใหม่ได้รุกคืบเข้าไปจนทำลายความเชื่อเก่า ๆ ของชาวจีนที่ว่า หญิงสาวที่สวยต้องเท้าเล็ก ดูเป็นผู้ดี เดินเหินแต่ละย่างก้าวสง่างาม แถมยังทำให้ร่ายรำสวยงามอีกด้วย

 

 

 

[ via: listverse ]

Views: 6819

Comment

You need to be a member of PORTFOLIOS*NET to add comments!

Join PORTFOLIOS*NET

Comment by Verarit Vincent Veranondh on August 17, 2011 at 4:07pm
ดูทรมานจัง

ส่วนตัวชอบเดินบนสนามหญ้าด้วยเท้าเปล่า ^^

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service