เป็นไปอย่างคาดเมื่อวานไปรับรูปจากร้านอัดรูปราคาประหยัด
เซ็งใจ เป็นอย่างแรง เพราะรูปที่เราส่งไปอัดถ่ายยามเช้ามีพระอาทิตย์ส้มๆสลัวๆออกมานิดๆ
โทนภาพแดดอุ่นๆยามเช้า พี่คนอัดภาพไม่เข้าใจอารมณ์ของรูปของผม
แกคิดว่าไอ้หมอนี่อ่อนถ่าย มาติดส้มไม่รู้จักปรับ WB ถ่ายมาก็มืดๆ
มามะ พี่จะอาศัยการมองรูปของพี่ รูปในจอเท่ากล่องไม้ขีดปรับให้

ปร๊าป..... พี่แก เนรมิตคความสว่างให้ภาพ พระอาทิตย์ผมหายไปจากท้องฟ้า ภาพกลายเป็นโทนอมฟ้า
อาจจะมีคนสงสัยว่าทำไมผมไม่บอกให้เขาไม่ต้อง ปรับละ
แหะๆ ร้านแถวนั้นคนรับรูปจำหน้าผมได้ดี พูดคุยกับเขามาหลายครั้งหลายคราว
สรุปใจความสั้นๆว่า ถึงพี่จะมี Profile สีตรง แต่กระดาษคนละชนิด เครื่องคนละเครื่อง น้ำยาไม่เหมือนกัน มันยากหนะพี่
ผมก็เข้าใจนะ เพราะมีร้านนึงเขาใจดีมาก พาผมไปให้ดูเห็นๆเลยว่า
เครื่องรุ่นใหม่ที่เน้นอัดกระดาษราคาประหยัด จะสีค่อนข้างตรง (แต่รายละเอียดของภาพมันแย่ สำหรับผม)
เครื่องที่อัดกระดาษดีๆอย่าง Kodak มันเก่า พี่ต้องวางใจให้เขาปรับให้ ไม่งั้นสีมันมืดไม่ตรง
ผมไม่ตำหนิร้านหรอกครับ ด้วยการแข่งขันที่สูง คุณภาพกระดาษ ราคาเป็นตัวแปร
ความถี่บ่อยในการเปลี่ยนน้ำยามากน้อยแค่ไหนไม่รู้ แต่ถ้าไปอัดทุกเดือนจะรู้ได้ว่าเมื่อไรเขาเปลี่ยนน้ำยาแล้ว
เพราะ รูปมันสีสันสดใสกว่ากัน

กลับมาเข้าเรื่องดีกว่า จริงๆผมติดใจบทความของพี่หาว กล้องกับเลนส์ แค่นั้นเหรอ ???
ค้างคาใจมานานแล้ว เพราะมีโอกาสได้ไปดูรูปที่พิมพ์ออกมาอย่างแจ่มๆแล้วมันซึ้งใจมาก
ย่อๆ พี่หาวกล่าวไว้ ช่างภาพส่วนใหญ่สนใจแต่กล้องและเลนส์ ทุ่มกันไปเป็นแสน ลงทุนกับ Input
แต่ Output ไม่มีใครสนใจ เช่นใช้จอสีไม่ตรง อัดรูปในร้านราคาประหยัด

ด้วยความแย่ของ Output สุดท้ายมีคนบางคนสรุปว่า อัดแค่รูปจัมโบ้ กล้องโปร เลนส์เทพไม่ต่างเท่าไรหรอกทั่วไปเท่าไรหรอก
ของอย่างนี้ไม่เอามา เทียบกันจริงๆ ไม่เห็นความแตกต่าง
ผมเองก็อัดรูปจากร้านราคาประยัดเป็นประจำ เพราะบางครั้งเป็นความจำเป็นด้านต้นทุน
บางทีก็อัดมาดูขำๆไม่คิด มากอะไร แต่เมื่อวานเกิดของขึ้นอีกครั้ง
เลยค้นหารูปเก่าๆมาเทียบกันซิ ว่าอัดราคาประหยัด หรือ ลงทุนพิมพ์เองกระดาษดีหน่อยใช้หมึกปลอม
หรือทุ่มทุนสร้างใช้ของดี ให้หมด พิมพ์ทิ้งไว้ผ่านไป 1 ปี ผลจะเป็นอย่างไร
รูปด้านล่างคือตัวอย่างที่ผม scan มา เรื่องdetail ของภาพขอข้ามเพราะเอามาให้ดูยาก
ขอพูดถึงแต่สี จริงๆทั้ง 3 รูปตอนเริ่มต้นก็แตกต่างกันเล็กน้อยในด้านไล่โทน และความเที่ยงตรงของสี
เมื่อผ่านไป 1ปี สีสันจะเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง

ผลคือด้านล่างครับ
ไม่รู้เหมือนกันในบางครั้งอยากจะพิมพ์รูป เด็ดๆของเราสักรูป
ให้มันได้สีสันมิติตรงใจอยาก ลงทุนพิมพ์แพงๆสักครั้งมันจะคุ้มไหม
เพราะลงทุนกล้องเลนส์กันไป เป็นแสน หรือหลายหมื่น
เพิ่มเงินอีกสักหน่อยเพื่อเก็บรูปเด็ดๆของเราไว้มันน่าจะคุ้มนะ
ลองดูรูปด้านล่างก่อนแล้วจะเฉยครับ ว่ารูปไหนพิมพ์/อัดอย่างไร




รูป A : อัดที่ร้านราคาประหยัด กระดาษ Kodak ในราคา 3 บาท (4x6) (ใบละ 2 บาทไม่ขอพูดถึงเพราะมันไม่ชัด)
รูป B : พิมพ์เองที่บ้าน Epson R230 Epson Glossy แต่หมึกปลอม ต้นทุนประมาณใบละ 6 บาท
รูป C : พิมพ์เองที่บ้าน Epson R230 Epson Premium Glossy และหมึกแท้ ต้นทุนประมาณใบละ 12 บาท
ผลสรุปสั้นๆ รูป C ให้ความประทับใจผมตั้งแต่แรกตอนพิมพ์ แม้ผ่านไป 1 ปีก็ยังคงเดิมในขณะที่ A และ B มืดคล้ำสีเพี้ยนๆมืดซีดลงไปบ้าง
จริงๆรอจังหวะพวกงานคอมมักจะมีกระดาษพิมพ์รูปมาลดราคาเสมอซื้อมา ตุนไว้จะลดต้นทุนลงอีกครับ
ว่าแล้วขายเลนส์ไปซื้อเครื่องพิมพ์ A3 ดีกว่า กร๊ากกกก