music for incredibly strange people...
แพนด้าเรคคอร์ด เปิดรับศิลปินใหม่ร่วมอุดมการณ์
หากคุณคิดว่าเพลงของคุณไม่เหมือนใคร และมักจะคุยกับใครไม่รู้เรื่อง
ส่งเดโมมาได้ที่ info.pandarecords@gmail.com ทุกเวลา

History
ปี 2000 แพนด้าเรคคอร์ดนำเสนอ "Wave Impression" Compilation ออกมาเป็นชุดแรก ซึ่งประกอบไปด้วยเพลงจากศิลปินอินดี้ชื่อใหม่ๆทั้งหมด 10 วง
หลายๆศิลปินที่ร่วมงานอยู่ในอัลบั้มนี้นั้น ต่างผลิตผลงานและมีชื่อเสียงอยู่ในวงการเพลงอินดี้มาจากทั้งอดีตจนปัจจุบัน เช่น Stylish Nonsese, จูน ซับใน(ปัจจุบันคือ Bear-Garden), วง Pixyl จาก Bakery Music (ปัจจุบันคือ Blue Army), Snowblow (ปัจจุบันคือ เจ Penguin Villa), เล็ก สุรชัย กิจเกษมสิน (อดีตนักร้องนำและมือกีตาร์วงพราว), Violent Massaus (ปัจจุบันคือโตน Sofa) และยังได้แจ้งเกิดศิลปินอย่าง วง C.A.D. และ Damnwrong
หลังจากอัลบั้มนี้ออกไป ทำให้ชื่อของแพนด้าเรคคอร์ดเป็นที่รู้จักกันในหมู่คนฟังเพลงนอกกระแส เริ่มมีการนำเสนอเดโมจากศิลปินกลุ่มใหม่ๆเข้ามา เช่นวง Redtwenty และ Temporary Channel จึงทำ Compilation ออกมาอีกครั้งชื่อชุด "Accessories" ซึ่งได้รับการตอบรับดีมากในงาน Fat Festival งานเทศกาลอินดี้ที่จัดขึ้นครั้งแรกโดยคลื่นวิทยุ Fat Radio ในเดือนพฤศจิกายนปี 2001 อัลบั้มนี้ยังมีชื่อเสียงไปถึงกลุ่มคนฟังเพลงนอกกระแสในประเทศญี่ปุ่นและถูกเลือกนำไปเขียนรีวิวลงในนิตยสารด้วย
และก่อนจะหมดปี 2001 ก็ออกอีกหนึ่งอัลบั้ม "I'm a gardener" ของศิลปิน Bear-Garden ซึ่งเป็นโปรเจคงานเดี่ยวของจูนซับในนั่นเอง เป็นอัลบั้มเต็มชุดแรกที่มีเพลงถึง 16 เพลง ถึงแม้ว่าอัลบั้มนี้ออกวางจำหน่ายอย่างเงียบๆโดยการฝากขายเองเพียงไม่กี่ร้าน แต่กลับมีกลุ่มแฟนเพลงทั้งใหม่และเก่าได้ให้ความสนใจมาก
แพนด้าเรคคอร์ด กลายเป็นบริษัทเล็กๆที่มีผู้บริหารงานเพียง 3 คน ได้แก่ ป๊อก วรรณฤต พงศ์ประยูร ทำหน้าที่โปรดิวเซอร์และซาวน์เอ็นจิเนียร์, จูน โสมสิริ แสงแก้ว ทำหน้าที่ออกแบบปก, กราฟฟิค, เว็บไซต์, โลโก้ของแพนด้าเรคคอร์ด และกำกับมิวสิควิดิโอ และจูน ยุทธนา กะลัมพะเหติ (วิศวกรคอมพิวเตอร์เน็ตเวิร์ค, สมาชิกวง Stylish Nonsense อีกคนหนึ่ง) ทำหน้าที่เขียนโปรแกรมให้กับเว็บไซต์ของแพนด้าเรคคอร์ดและเป็นที่ปรึกษา

ปี 2002 เป็นการออก Compilation ชุดที่สามเหมือนเป็นธรรมเนียม ในชื่อชุด "Music for Incredibly Strange People" ในชุดนี้มีเพลงที่ขึ้นถึงอันดับสองในชาร์ตของ Fat Radio อย่าง "Drink for living" ของ Bear-Garden และเพลงเพราะซึ้งที่ได้รับความนิยมมากจนทุกวันนี้ "ใจเราเป็นของกันและกัน" ของ Damnwrong
ในปีนี้มีการออกอากาศ Music VDO เพลง "La La is Love" ของ Bear-Garden ที่เป็น Animation แบบการ์ตูนวาดฝีมือของจูนเอง ซึ่งมีเอกลักษณ์ยากหาใครเหมือน และถูกนำไปฉายในเทศกาลหนังของมูลนิธิหนังไทย


เริ่มปี 2003 Music VDO "Drink for Living" ออกอากาศไม่นานนักอัลบั้มเต็มชุดที่สอง "Mercy Killing" ของ Bear-Garden ก็วางจำหน่าย และในงาน Fat Festival ปีที่สาม ป๊อกได้หยิบเอางานของวงดนตรีสมัยเรียนมหาวิทยาลัยร่วมกับจูน(ชาย)ในปี 1994 ชื่อ "วงเหมี่ยวเอ๋อ" มาปัดฝุ่นขายโดยจัดทำเป็นซีดีคู่ อัลบั้มและ Anthology เพื่อเป็นอนุสรณ์ แก่วง จากนั้นอัลบั้มนี้ถูกยกย่องให้เป็นอัลบั้มยอดเยี่ยมของปีในกลุ่มคนฟังเพลงนอกกระแสของเว็บไซต์ pantip.com และเป็นที่พูดถึงมากมายในเอกลักษณ์ของสไตล์ดนตรีและเนื้อร้องที่แปลกประหลาด



ในปีนี้ศิลปิน Bear-Garden กับ Stylish Nonsense ยังได้รับเชิญแสดงคอนเสิร์ตร่วมกับ วงอินดี้ระดับสากลจากประเทศเยอรมัน "Maximilian Hecker" (Emi) และ "Barbara Morgenstern" (Monika Enterprise) ที่มาเปิดการแสดงในเมืองไทย ในการแสดงครั้งนี้ทำให้อัลบั้ม I'm a gardener ของ Bear-Garden ถูกติดต่อไปขายในยุโรปและออสเตรเลียโดยสังกัดอินดี้สากลชื่อ "Testify! Records"



Barbara Morgenstern


Stylish Nonsense

Panda Records Showcase วัฒนธรรมการจัดงานแสดงดนตรีสดของกลุ่มวงดนตรีอินดี้เกิดขึ้นอย่างไม่ต้องรอเวทีใดๆ ในร้านอาหาร, บาร์, คอฟฟี่ช้อบ, แกลเลอรี่, ฯลฯ แพนด้าเรคคอร์ดได้เชื่อมต่อกับผู้ชมด้วยดนตรี Original และยังค้นพบศิลปินอินดี้กลุ่มใหม่ๆทั้งไทยและเทศ การแลกเปลี่ยนงานดนตรีอย่างไม่มีพรมแดนจึงเกิดขึ้น



ปี 2004 มีอัลบั้มเต็มชุดที่ 3 "Blue Traveller" ของ Bear-Garden ออกมาอย่างต่อเนื่อง นับเป็นศิลปินอินดี้ที่ผลิตงานสม่ำเสมอที่สุดคนนึง และ Compilation ชุดที่ 4 "Panda Scream" ที่มีศิลปินใหม่ๆเพิ่มเข้ามาด้วยกันหลายกลุ่ม ได้แก่ Adulterer, The Eastbound Downers, The Darlings, ... ซึ่งต่างมีสไตล์ดนตรีของตัวเองไม่อิงกับกระแสใดๆ ซีดีอัลบั้มของแพนด้าเรคคอร์ดกลายเป็นคอลเลคชั่นที่คอเพลงนอกกระแสตามเก็บสะสม
นอกจากนี้ยังมีอัลบั้ม "Use your professor!" ของ Stylish Nonsense ที่ออกร่วมกับสังกัดอินดี้เพื่อนบ้าน Small Room และป๊อกและจูนเองยังได้รับเชิญโปรดิวซ์งานอัลบั้มใน Small Room มากมาย เช่น วง Armchair, SmallRoom003, 004, ฯลฯ

และศิลปิน Bear-Garden กับ Stylish Nonsense ยังได้รับเชิญไปแสดงคอนเสิร์ตในประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับศิลปินอินดี้ระดับโลกและไทยมีชื่อเสียงมากมาย Buffalo Daugther, Suan Lennon, YMCK, ป๊อด โมเดิร์นด๊อก, The Photo Sticker Machines

ปี 2005 มีอัลบั้มออกมามากมาย เริ่มจากเดือนเมษายน "Liberation Evolution" อัลบั้มเต็มชุดแรกของ Damnwrong วางจำหน่ายพร้อมกับ Music VDO เพลงใจเราเป็นของกันและกัน
เดือนมิถุนายน อัลบั้ม "Broken Hearts & Paper Cuts" ของ The Eastbound Downers และอัลบั้ม I'm a gardener และ Accessories ที่ถูกนำพิมพ์ใหม่
เดือนพฤศจิกายนก็มีอัลบั้มเต็มชุดที่ 4 "Love is sweet suicide" ของ Bear-Garden และ Compilation ชุดที่ 5 "Between Hell & Heaven"
ศิลปิน Bear-Garden กับ Stylish Nonsense ได้รับเชิญไปแสดงคอนเสิร์ตในญี่ปุ่นเป็นครั้งที่สองที่เมืองโยโกฮาม่าและฮาราจูกุ ร่วมกับศิลปินอินดี้ชื่อดังจากญี่ปุ่นและไทย Hideki Kaji, Nomiya Maki (Pizzicato Five), Futon, Penguin Villa

หลังจากนั้นแพนด้าเรคคอร์ด ยังได้รับเชิญไปแสดงดนตรีในต่างประเทศอีกมากมาย...


Stylish Nonsense Live in Hanoi International Music Festival 2008


Redtwenty Street Live in Hamburg


Bear-Garden Live in Berlin

Bangkok Base Indepent Label
ทุกวันนี้แพนด้าเรคคอร์ดเริ่มเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในชื่อของตราแผ่นเสียงจากประเทศไทยที่นำเสนองานเพลงอินดี้ระดับสากล ศิลปิน Stylish Nosense และ Bear-Garden ได้รับเชิญไปแสดงคอนเสิร์ตและทัวร์ในต่างประเทศมากมาย เช่นใน ฝรั่งเศส(ปารีส) เยอรมัน(เบอร์ลิน, แฮมบวกร์, ไลป์ซิก) ญี่ปุ่น, เวียดนาม, ฯลฯ และยังร่วมงานกับศิลปินที่ยอดเยี่ยมจากต่างประเทศ
แพนด้าเรคคอร์ดยังเป็นส่วนนึงในความเคลื่อนไหวของ Music Scene ของกรุงเทพฯและเมืองไทยมาตลอด การจัดโชว์คอนเสิร์ตให้กับศิลปินอินดี้ไทยและเทศนับครั้งไม่ถ้วน รวมไปถึงการแสดงร่วมกับงานศิลปะแขนงอื่นๆ

Artists
วงเหมี่ยวเอ๋อ
Adulterer
Bear-garden
Damnwrong
The Eastbound Downers
Redtwenty
Stylish Nonsense
Temporary Channel
Beatnik Filmstars
Bellavista
The Cat Cat Catz
Diva Int.
Robot Speaker
The Darlings