อากงสอนว่า อาม่าบอกไว้ ตอนที่ 4

 
 
กว่าจะเติบโต มาจนป่านนี้
เราทุกคน เคยเผชิญกับ ภาวะ ของการได้มา และ เสียไป
กี่ครั้ง กี่หน กันแล้วนะ...

ตั้งแต่วันแรก
ที่เรา ตื่นลืมตา มาร้องไห้ งอแง

 


จากที่ ไม่เคยมีอะไรเลย...

เราก็ได้มา ซึ่งร่างกาย
และส่วนประกอบ ในขันธ์ ทั้งหมดของมนุษย์

ทั้ง ยังมี อีกหลายผู้คน มารายล้อมดูแล

หลังจากนั้น...

ความคิด ความรู้สึก ก็เริ่มเข้ามามีบทบาทขึ้นเรื่อยๆ

พอโต มาหน่อย...

ความจำ ก็ทำหน้าที่ของมัน
บุคลิก ลักษณะ เริ่มปรากฏชัดเจนขึ้นเรื่อย

ทั้งหมด ทั้งมวลนี้ ยึดแน่น เกาะเกี่ยว เป็นตัวเป็นตน จนดิ้นไม่หลุด

จนทำให้เรา ลืมไปแล้วว่า...

อันที่จริง

ก่อนหน้านี้ เราก็ไม่เคยมีอะไร ติดตัวมาด้วยนี่นา

แล้วทำไม นะ การสูญเสีย หลายๆ อย่าง
มันช่าง ทรมารใจ
มากมาย เหลือเกิน .

เมื่อ วันเวลา ผ่านไป ตามเหตุของมัน...
เรื่องใหญ่ๆ เท่านั้น ที่ยังคงอยู่

การสูญเสียครั้งแรก นั่นไง
ที่ทำให้ฉัน จดจำได้ คงจะเป็น เรื่องเล็กๆ แสนยิ่งใหญ่

เรื่องราวของ " ฟันน้ำนม "

ยังจำกันได้ไหมว่า ฟันน้ำนม ซี่แรก ของเรานั้น
ตอนนี้ หายไป อยู่ที่ไหน แล้ว ?

ฉันก็นึกไม่ออก หรอกว่า
เจ้าฟัน ซี่ที่ ทำให้ฉันสะเทือนใจ ไม่ลืม นั่น
เป็นซี่ที่เท่าไหร่กันนะ...

รู้แต่ว่า มันเป็นฟันล่าง ที่หักไป พร้อมกับ ความเจ็บปวด
เท่าที่ทำให้เด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ส่งเสียงร้องไห้ ไม่หยุด
นานหลายชั่วโมง...
( จนเพื่อนๆ ดีใจ ที่ไม่ต้องเรียนหนังสือกันเลยทีเดียว ^^ )

ฟันซี่น้อย หักไปกอง อยู่ที่พื้นห้องเรียน
พร้อมกับร่างกายเล็กๆ
ที่สะดุดล้มลง ที่ขอบประตู...

ขณะเดียวกันนั้น
ใจของฉัน ก็หล่นวูบ ไปด้วยเช่นกัน

ความรู้สึกแบบนี้ กระมัง
ที่ เขาเรียกกันว่า " ความสูญเสีย "

หลังจากที่ รอยเลือด และ รอยน้ำตา จางไปแล้ว
เด็กน้อย ก็ประคอง ฟันซี่เล็กๆ
ไปล้าง จนสะอาด
แล้วนำมาพักไว้ ในกล่องดินสอ ใบใหญ่

แอบเอาไว้ จนถึงบ้าน ไม่บอกใคร
และทุกครั้ง ที่กลับมา แน่นอนว่า
ฉัน ต้องได้เจอ กับ อาม่า ที่น่ารัก คนเดิม

อาม่าไม่รอช้า รีบถามว่า ฟันล่าง หรือ ฟันบน ?
เด็กน้อย ตอบว่า " ฟันล่างค่ะ"
( พร้อมโชว์ ร่องฟันหรอ ให้ดู )

อาม่าถามว่า...

จะเก็บเอาไว้ทำไม ทิ้งไปเถอะ มันไม่มีประโยชน์อะไร

แต่ฉันก็ไม่สนใจฟัง...สักนิ

วันเวลาล่วงเลยไป…

นานจน ฟันอีกซี่ หลุดออกไปเอง
แบบง่ายดาย

เช่นเคย
ฟันอีกซี่นั้น ก็มานอน รวมอยู่กับ ฟันซี่แรกในกล่องดินสอใบเดิ

เมื่ออาม่า มาเห็นเข้าอีก ก็รู้แล้วว่า…
ยังไงๆ ฉันก็ไม่ยอมทิ้ง ฟันน้ำนมสุดหวงไปแน่ๆ

อาม่า เลยแกล้ง หลอกว่า ( หรือว่ามันจริงหว่า ?)

" ถ้าเราโยน ฟันน้ำนม ซี่ล่าง ขึ้นไปบนหลังคา
ฟันแท้ใหม่ จะงอกขึ้นมาอย่างสวยงาม"

เย็นวันนั้น อาม่า จูงมือ เล๊กๆ ของเด็กน้อย
ที่มืออีกข้าง กอดกล่องดินสอเอาไว้
แล้วเดินไปที่หลังบ้าน อีกฝั่งหนึ่ง

อาม่า สอนว่า
" โลกนี้ ไม่มีอะไร ที่เป็นของเรา วันนี้ แค่ฟันน้ำนมหลุด
วันข้างหน้า เมื่อเราโตขึ้น
ยังมีอีกมากมาย ที่เราต้องสูญเสียไป
เป็นธรรมดา อย่าไปเสียดาย และ ไม่ต้องเสียใจ "

ฟันซี่แรก ลอยสูงขึ้นไป ลิบๆ ด้วยแรงเหวี่ยง จากแขนเล็กๆ
ตามมาติดๆ ด้วยเรง ที่มากขึ้น

ฉัน บ๊าย บาย เจ้าฟันน้ำนม 2 ซี่นั้น

" อาม่าจ๋า ถ้าเอ๋ขว้างเบี้ยว แล้วฟัน มันจะขึ้นเบี้ยวด้วยไหม อะ "

สรุปว่า วันนั้น ฉันไม่ได้รู้สึก อะไร กับที่อาม่าสอนเลยสักนิด
แต่ยังโชคดี ที่ ใจความของคำพูดลอยๆ นั้น ไม่ได้เลือนหายไปกับกาลเวลา

มันกลับมา ย้ำชัด อีกครั้ง
ตอนที่ ฉันเข้าเรียน มหาวิทยาลัย
และ ได้พบ กับ วัฏจักร ของความรักเข้าให้
อาม่า จะช่วยได้ไหม
ค่อยมาว่า กัน ตอนต่อไปนะ ^___^

Views: 432

Replies to This Discussion

มาถึงตอนที่ 4 แล้ว
เจ้าของ เรือ่ง ขออนุญาติ หนีเที่ยวสัก 4-5 วันนะคะ ^__^
ถ้าความเสียใจทำให้เราก้าวต่อไปไม่ได้

จงอย่าเสียน้ำตาให้กับมัน

แล้วก้าวต่อไป

ขอบคุณนะ ^_^
ส่วนเอ๋
เสียน้ำตาทุกครั้ง
แล้ว ก็ ก้าวต่อไป
เป็นผู้หญิง ก็ดีอย่างนี้แหละ
เสียน้ำตาแค่ไหน ก็ไม่มีใครว่าอะไรเนอะ ^^
คงจะอย่างนั้นแหละครับ

สำหรับผู้ชายคงต้องนานๆที อิอิ
ฟันเสีย ก็ต้องถอน
ใจเสีย ก็ควรถอน เช่นกัน ^_^
จะด้วยสุรา หรือ นารี ก็ว่าไป
( แต่มากไปก็ไม่ดีนะคะ )
555+

ว่าแต่ไปดื่มกันไหมครับ คิคิ
ฮั่นแน่ ^^
55+
ขออนุญาตเขียนรีวิว เรื่องราวของ อากงสอนว่า อาม่าบอกไว้ ไว้ใน A MUST ของหนังสือ a day BULLETIN ฉบับวันที่ 2 เมษา นะครับ หน้าปก ติ๊ก เจษฎาพร www.daypoets.com/adb
โอ๊ะ! ลงหนังสือด้วย ดีจริงๆ >_
คนเขียนฉลองหน่อย >_< คิคิ
ไปเลี้ยงที่ไหนดีเนี่ย ^__^

RSS

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service