วิจารณ์ภาพยนตร์: Life in a Day ทุกมุมโลก

Life in a Day สารคดีที่น่าสนใจตั้งแต่วินาทีแรกที่หนังถูก Pitch จนกระทั่งถูกนำมาฉายในเทศกาลหนังซันแดนซ์ปีนี้ 

ช่วงนี้คอหนังหลายคนคงตื่นเต้นเพราะมีหนังฟอร์มยักษ์ทยอยเข้าฉายไม่เว้นแต่ละสัปดาห์ เข้าข่าย Summer Movie ของฮอลลีวู้ด แต่ถ้าลองถอยห่างออกมาแล้วมองไปที่หนังจากแนวทางอื่นๆ เราจะพบว่า 

ปีนี้มีหนังสารคดีหลายเรื่องที่ไม่ดูไม่ได้แล้ว ผู้เขียนเคยเอ่ยถึง Senna ไปแล้วเมื่อประมาณ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากสารคดีนักแข่งรถ F1 ในตำนานแล้ว ยังมี Love Etc. ที่เอาใจคนมีความรักคับอกด้วยการตามติดชีวิตของคน 5 คู่ที่อาศัยกรุงนิวยอร์กเป็นฉากหลัง พูดถึงนิวยอร์กแล้วก็ต้องพูดถึงสารคดีเรื่อง Page One : A Year Inside the New York Times ที่หยิบเอาเรื่องราวในหนึ่งปีของหนังสือพิมพ์หัวโตของสหรัฐอเมริกาอย่าง The New York Times มาตีแผ่ 


ไม่เท่านั้นยังมี Life 2.0 ที่หยิบเอาประเด็นเรื่องราวของการใช้ชีวิตในโลกไซเบอร์ การสร้างตัวตนขึ้นใหม่ของคนอีกกลุ่มหนึ่งผ่านทางโลกออนไลน์ ยังไม่หมดเพราะ How to Die in Oregon หยิบเอาประเด็นเรื่องการฆ่าตัวตายของคนที่ป่วยมากๆ โดยถูกกฎหมายมาบอกเล่า สุดท้ายกับ Life in a Day สารคดีที่น่าสนใจตั้งแต่วินาทีแรกที่หนังถูก Pitch จนกระทั่งถูกนำมาฉายในเทศกาลหนังซันแดนซ์ปีนี้ 


วันที่ 24 กรกฎาคม 2010 ผู้คนนับพันคนจากทั่วทุกมุมโลก ถ่ายวีดิโอและอัพโหลดวีดิโอที่ตัวเองถ่ายนั้นลงเว็บไซต์อย่าง You Tube เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในหนังสารคดีของเควิน แม็คโดนัลด์ ผู้กำกับที่สร้างชื่อจากหนังอย่าง The Last King of Scotland, State of Play และ The Eagle ผลปรากฏว่ามีวีดิโอถูกส่งเข้ามากกว่า 80,000 เรื่อง จาก 192 ประเทศทั่วโลก มีภาพฟุตเทจรวมทั้งสิ้น 4,500 ชั่วโมง สุดท้ายถูกตัดทอนจนเหลือความยาวเพียง 94 นาที 57 วินาที และได้ออกมาเป็นหนังสารคดีที่ถูกเรียกว่า Life in a Day 


ชื่อหนังก็บอกอยู่แล้วว่า “ชีวิตในหนึ่งวัน” สารคดีที่คนทั้งโลกเป็นตากล้องพาเราไปพบกับชีวิตของคนมากหน้าหลายตาบนดาวเคราะห์สีฟ้าดวงนี้ที่ทำกิจกรรมต่างๆ กันไปในวันที่ 24 กรกฎาคม 2010 เราได้เห็นภาพของเด็กที่เพิ่งลืมตาดูโลกในแอฟริกา วัยรุ่นอเมริกาที่โกนหนวดเป็นครั้งแรก ฝูงชนที่อัดกันแน่นใน Love Parade ที่เยอรมนี เด็กหญิงที่ปีนหอคอยมนุษย์ขึ้นไปอยู่บนยอดสุดที่สเปน รวมทั้งภาพของชายชราที่เพิ่งผ่านการผ่าตัดหัวใจมาหมาดๆ ที่ออสเตรเลีย ยีราฟแรกเกิด วัวถูกฆ่า งานแต่งงาน ชายหนุ่มโทรศัพท์ไปบอกย่าว่าเขาเป็นเกย์ ทหารที่บอกว่าตัวเองอาจจะไม่ได้กลับบ้านแบบมีลมหายใจ ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นเพียงเหตุการณ์เล็กๆ ที่เกิดขึ้นในหนึ่งวันของโลกใบนี้ 


จุดเริ่มต้นไอเดียในการทำสารคดีเรื่องนี้นั้นมาจากการก่อกำเนิดขึ้นของ You Tube เว็บไซต์ออกตัวแรงที่ให้ผู้คนอัพโหลดวีดิโอต่างๆ ไว้บนเว็บไซต์และให้คนทั้งโลกเข้ามาดูได้ 

Life in a Day เป็นเหมือนโครงงานวิทยาศาสตร์ที่มีสมมติฐานว่า คนทั้งโลกเชื่อมต่อกันด้วยอินเทอร์เน็ต การที่จะพิสูจน์เพื่อให้เห็นเป็นภาพขึ้นมาก็คือ การทำหนัง 

 
ควิน แม็คโดนัลด์ ผู้กำกับ 
-----------------------------

จากจุดนั้นเองที่ทำให้ “ริดลี่ย์ สกอตต์” ผู้กำกับคนดังเกิดประกาย และลงมารับหน้าที่โปรดิวเซอร์ โดยมอบหมายให้เควิน แม็คโดนัลด์ รับหน้าที่กำกับ ขั้นตอนในการสร้างสารคดีเรื่องนี้ก็เริ่มจากการป่าวประกาศออกไปให้คนทั้งโลกรู้ว่าจะมีการสร้างหนังแบบนี้ขึ้นมา รบกวนช่วยถ่ายภาพชีวิตของคุณๆ ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2010 แล้วอัพโหลดลง You Tube เรียกว่าให้ทุกคนบนโลกช่วยเป็นตากล้องของหนังเรื่องนี้ แค่วิธีการคิดและสร้างก็น่าสนใจแล้ว 


พอได้ภาพฟุตเทจมาแล้ว งานหนักก็มาตกอยู่ที่คนตัดต่อ “โจ วอล์คเกอร์” ซึ่งน่าจะเป็นพระเอกตัวจริงของหนัง ด้วยความยาวของภาพกว่า 4,500 ชั่วโมง และด้วยหน้าที่ของ Editor เขาต้องนั่งดูฟุตเทจเหล่านั้นทั้งหมด เสร็จแล้วก็หยิบจับเอาส่วนที่น่าสนใจมาร้อยเรียงให้เป็นหนังความยาว 90 นาทีกว่าๆ ซึ่งถ้าถามว่าทำไมถึงต้องตัดทอนจนเหลือความยาวเพียงเท่านี้ 


คำตอบก็มีอยู่ว่าระยะเวลา 90 นาทีกว่าๆ นั้นคือตัวเลขความยาวของหนังที่ผ่านการทดสอบ ผ่านการคิดมาแล้วว่า ไม่สั้นจนเกินไป ไม่ยาวจนเกินไป เป็นความยาวที่เหมาะกับภาพยนตร์หนึ่งเรื่อง ถ้าไม่เชื่อลองไปสังเกตดูสิว่า ช่วงหลังๆ หนังแทบทุกเรื่องจะมีความยาวราว 90 นาทีกว่าๆ 


ในทุกๆ วันมีคนตกหลุมรัก ในทุกวันมีคนที่อยู่ด้วยความกลัว และในทุกๆ วันมีคนที่อาศัยอยู่กับความหวัง 

หนังเน้นที่จะนำเสนอเรื่องราวของ 3 สิ่งที่เราเอ่ยไป คือ ความรัก ความกลัว และความหวัง ซึ่งเป็นการหาจุดร่วมเดียวกันจากฟุตเทจที่ได้รับมา อย่าสนใจเรื่องราวของความต่อเนื่องเช่น ถ้าเห็นว่าซีนก่อนหน้านี้สว่าง แล้วต่อมาทำไมถึงมืด หนังเล่าเรื่องโดยปะติดปะต่อทุกอย่างเข้าไว้ด้วยกันอย่างดีและมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนในสิ่งที่ต้องการจะนำเสนอและบอกเล่า 


เริ่มต้นด้วยภาพของพระจันทร์เต็มดวงซึ่งถูกถ่ายจากสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกจากนั้นก็ไล่เรียงมาจนถึงภาพของวันใหม่ที่เริ่มขึ้นอย่างมีความหวัง ผู้คนตื่นนอน แปรงฟัน ล้างหน้า อาบน้ำ รับประทานอาหารเช้า ไปทำงาน ผู้คนที่ทำสิ่งธรรมดาสามัญที่ใครๆ ก็ทำกัน กับภาพของผู้คนที่ทำสิ่งที่แปลกออกไปถูกใช้ตัดสลับกัน เช่น ชายชาวเกาหลีที่ปั่นจักรยานรอบโลกมาแล้วเป็นเวลากว่า 10 ปี วันที่เขาถ่ายวีดิโอส่งเข้ามานั้น ตัวเขาอยู่ที่เนปาล เพื่อบอกว่าสิ่งที่เขาอยากเห็นมากที่สุดก่อนลาโลกนี้ไปคือ เห็นเกาหลีรวมชาติอีกครั้ง หนังจบลงด้วยภาพของเด็กสาวชาวอเมริกันที่รีบกลับบ้านเพื่อให้ทันเวลาเที่ยงคืน และพบว่าวันนั้นทั้งวันของตัวเองว่างเปล่า โดดเดี่ยวและเหมือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก 


ต่อให้ภาพยนตร์จะพูดเรื่องราวใหญ่โตขนาดไหน มีวิธีการถ่ายทำที่พิเศษและแปลกใหม่อย่างไร นักแสดงสวมบทบาทได้เข้าถึงเพียงไร สุดท้าย “ชีวิต” ก็คือ การแสดงที่สมบูรณ์แบบที่สุดบนโลกใบนี้และถ้าจะมีหนังสักเรื่องบอกเล่าความหมายของชีวิตได้ใกล้เคียงที่สุด 

Life in a Day ก็คงเป็นหนังเรื่องนั้น 



โดย: พรทิพย์ แย้มงามเหลือ
ที่มา: bangkokbiznews.com / 2 กรกฎาคม 2554

Views: 116

Reply to This

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service