Kees van Dongen จิตรกรขวัญใจไฮโซ


 
Cornelis Theodorus Maria van Dongen เป็นชื่อเต็มของจิตรกรชาว Dutch ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งเป็นจิตรกรกลุ่ม Fauves ที่มี Henri Matisse เป็นผู้นำ นิยมการวาดภาพด้วยสีที่ตัดกันอย่างรุนแรง












Kees van Dongen เกิดเมื่อวันที่ 26 มกราคม ค.ศ.1877 ที่เมืองเล็กๆชื่อ Delfshaven ไม่ไกลจากเมือง Rotterdam ซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ Netherlands ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับประวัติในวัยเด็กของ Kees van Dongen มากนัก ในปี ค.ศ.1892

เมื่ออายุได้ 16 ปี Kees van Dongen เข้าเรียนศิลปะภาคค่ำที่ The Royal Academy of Fine Arts ในกรุง Rotterdam ระหว่างเรียนหนังสือ Kees van Dongen ใช้ชีวิตอยู่ในย่าน Red Quarter ซึ่งตั้งอยู่ริมท่าเรือ เขาหาเลี้ยงชีพอยู่ได้ด้วยการวาดภาพขาย ภาพส่วนใหญ่ที่วาดเป็นภาพใกล้ตัวคือ ทิวทัศน์ทะเล กะลาสี และหญิงบริการ เมื่อสำเร็จการศึกษาในปี ค.ศ.1897 Kees van Dongen เดินทางไปกรุง Paris ช่วงเวลาสั้นๆและกลับไปอีกครั้งในเดือนธันวาคมของปี ค.ศ.1899 เพื่อปักหลักอย่างถาวร








ชีวิตในกรุง Paris ของ Kees van Dongen เป็นไปอย่างปกติ เขาหาเลี้ยงชีพด้วยการวาดภาพขาย วันที่ 11 กรกฎาคม ค.ศ.1901 Kees van Dongen แต่งงานกับ Augusta Preitinger เพื่อนสาวที่เรียนศิลปะด้วยกันที่ Rotterdam เมื่อมีผลงานมากขึ้น Kees van Dongen ก็ได้นำภาพเขียนของตนออกแสดง ครั้งสำคัญที่สุดคือ Salon d′automne ในปี ค.ศ.1905 ที่ภาพเขียนของเขาถูกนำมาแสดงในห้องเดียวกับ Henri Matisse เพราะมีวิธีการวาดและการใช้สีที่คล้ายกันคือใช้สีที่ตัดกันรุนแรง ต่อมาจึงได้มีการเรียกศิลปินที่วาดและใช้สีแบบนี้ว่าเป็นพวก fauves ซึ่งหมายถึงสัตว์ป่า


ศิลปินพวก fauves มีอยู่หลายคน เช่น Maurice de Vlaminck, Othon Friesz, Henri Rousseau, Robert Delaunay, Albert Marquet และ Edouard Vuillard ภาพที่ Kees van Dongen นำมาแสดงคือภาพที่มีชื่อว่า Femme Fatale เป็นภาพที่มีสีสันร้อนแรงมาก




ในปี ค.ศ.1904 Kees van Dongen นำภาพเขียนของตนเองจำนวน 100 ภาพไปแสคงที่ห้องแสดงภาพเขียนแห่งหนึ่งในกรุง Paris ชื่อ Ambroise Vollard ต่อมาในปี ค.ศ.1906 Kees van Dongen และภรรยาย้ายไปพักอยู่ในบริเวณที่ชื่อว่า Le Bateau-Lavoir ในย่าน Montmartre ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวมีศิลปินชื่อดังอาศัยอยู่หลายคน เช่น Pablo Picasso กับคู่รัก Fernande Olivier ซึ่งต่อมาก็ได้กลายเป็นเพื่อนสนิทและในปี ค.ศ.1907 Kees van Dongen ได้วาดภาพของ Fernande Olivier ให้กับ Pablo Picasso ด้วย







นอกจากจะวาดภาพขายเพื่อหาเลี้ยงชีพแล้ว Kees van Dongen ยังวาดภาพการ์ตูนให้กับหนังสือพิมพ์อีกหลายฉบับเช่น Le Rire, Gil Blas และ La Revue Blanche รวมทั้งวาดภาพเหมือนให้กับขุนนางและเศรษฐี ต่อมาในปี ค.ศ.1910 Kees van Dongen เดินทางไปหลายประเทศ เช่น Spain,Morocco และ Egypt เพื่อหาแรงบันดาลใจในการวาดภาพ











ในปี ค.ศ.1913 Kees van Dongen วาดภาพเปลือยภรรยาของตัวเองและนำไปแสดงที่งานแสดงภาพเขียนระดับชาติที่ชื่อ Salon d′Automne ภาพดังกล่าวแขวนให้คนชมอยู่ได้ไม่นานก็ถูกตำรวจปลดลงเนื่องจากถูกมองว่าเป็น ภาพอนาจาร




ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1ไม่นาน Kees van Dongen ย้ายบ้านมาอยู่ที่ย่าน Montparnasse และเริ่มเข้าสังคมกับคนชั้นสูง ความเป็นคนสนุก เปิดเผยและโผงผางไม่เกรงกลัวใคร ทำให้เขาเป็นที่สนใจของคนในสังคม ในช่วงเวลานี้เองที่เขารับวาดภาพเหมือนของเศรษฐีและคนชั้นสูงเป็นจำนวนมาก เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 จบลง Kees van Dongen กลายเป็นจิตรกรที่กล่าวขวัญถึงกันมากในหมู่ชนชั้นสูงและมีคนถามหามากที่สุด คนหนึ่งในยุคนั้น ภาพเหมือนที่เขาวาดส่วนใหญ่เขาจะวาดให้ดูดีกว่าตัวจริงเช่น มีสัดส่วนที่สวยงามกว่าตัวจริง ดูผอมและหุ่นดีกว่าตัวจริง คนชั้นสูงจึงนิยมให้เขาวาดภาพเหมือนกันมากจนตัวผู้วาดเองถึงกับกล่าวว่า ภาพวาดของเขาคือ การโกหกที่สวยงามที่สุด












สำหรับชีวิตส่วนตัวของ Kees van Dongen นั้น เขาหย่าขาดกับภรรยาคนแรกในปี ค.ศ.1921 และแต่งงานใหม่ในปี ค.ศ.1953 กับ Marie-Claire Huguen ในปี ค.ศ.1926 ได้รับอิสสริยาภรณ์ระดับสูง Légion d′honneur จากรัฐบาลฝรั่งเศส และในปีต่อมา Kees van Dongen ก็ได้รับอิสสริยาภรณ์ระดับสูง Order of the Crown of Belgium ที่สำคัญที่สุดก็คือในปี ค.ศ.1929 Kees van Dongen ได้รับสัญชาติฝรั่งเศส






ผลงานที่มีชื่อเสียงของ Kees van Dongen มีอยู่มากมาย ที่ชอบมากๆก็คือ The Corn Poppy ที่ปัจจุบันแสดงอยู่ที่ Museum of Fine Arts ใน Houston



ส่วนภาพวาดที่มีคนสนใจกันมากก็คือภาพวาดของ BB หรือ Brigitte Bardot ผู้หญิงที่สวยและเซ็กซี่ที่สุดในช่วงเวลานั้น ภาพชุดดังกล่าว Kees van Dongen วาดในปี ค.ศ.1959 เมื่อเขามีอายุกว่า 80 ปี











ในบั้นปลายของชีวิต Kees van Dongen ใช้ชีวิตอย่างสงบและมีความสุขอยู่ที่รัฐ Monaco เขายังคงวาดภาพต่อมาเรื่อยๆจนกระทั่งเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ค.ศ.1968











โดย: อายตนะ
ที่มา: prachachat.net / 4 กรกฎาคม 2554

Views: 1302

Reply to This

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service