มีเสียงบ่นมาว่า อายตนะชอบศิลปินสมัยใหม่มากเกินไปจนลืมศิลปินรุ่นเก่าที่มีผลงานดีกว่า ศิลปินรุ่นใหม่ ก็ต้องขอแก้ตัวด้วยการนำเอาผลงานของศิลปินรุ่นเก่าที่เราไม่ค่อยรู้จักมา เล่าให้ฟังบ้างเพื่อที่จะแสดงให้ประจักษ์ว่า อายตนะนั้นไม่ได้รู้จักแต่เพียงของใหม่

Franz von Stuck เป็นศิลปินชาวเยอรมันที่ "เก่งทุกทาง" จริงๆเพราะเขาเป็นทั้งจิตรกร ประติมากร ช่างปั้น ช่างแกะสลักและสถาปนิก เกิดที่เมือง Tettenweis ในแคว้น Bavaria เมื่อวันที่ 24 กันยายน ค.ศ.1863 ชอบวาดภาพมาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่เพิ่งมามีโอกาสเรียนศิลปะเมื่อย้ายเข้ามาอยู่ที่เมือง Munich ในปี ค.ศ.1878 โดย Franz von Stuck เข้าเรียนศิลปะที่ Munich Academy ในระหว่างปี ค.ศ.1881-1885




เมื่อจบการศึกษา Franz von Stuck เริ่มต้นชีวิตการทำงานด้วยการวาดภาพการ์ตูนในหนังสือพิมพ์หลายเล่ม นอกจากนี้เขายังรับออกแบบปกหนังสือและเครื่องหมายต่างๆด้วย ขณะเดียวกัน Franz von Stuck ก็วาดภาพเป็นจำนวนมากภาพวาดส่วนใหญ่ของเขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากคัมภีร์ ไบเบิ้ลและจากเทพนิยาย


ในปี ค.ศ.1889 Franz vonStuck นำผลงานจำนวนหนึ่งของเขาไปแสดงที่ Munich Glass Palace แม้ว่าการแสดงผลงานครั้งนี้จะเป็นการแสดงผลงานครั้งแรกของเขา แต่ Franz von Stuck ก็ได้รับรางวัลเหรียญทองจากภาพวาดที่ชื่อ Guards of Paradise หลังจากได้รับรางวัล เขาอุทิศเวลาให้กับการวาดภาพมากขึ้น มีคนจำนวนมากว่าจ้างให้เขาวาดภาพเหมือน (portrait)


Franz von Stuck เป็นศิลปินที่จัดอยู่ในกลุ่ม symbolism จุดเริ่มต้นของศิลปินประเภทนี้มาจากกวีชาวฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 19 ที่ให้ความสนใจในความลึกลับ จิตวิญญาณ รวมทั้งภูตผีปีศาจ ซึ่งต่อมาแนวคิดดังกล่าวก็กลายเป็นที่สนใจของศิลปินแขนงอื่น เช่น จิตรกรที่ให้ความสนใจในการวาดภาพที่มีที่มาจากตำนาน นิยายปรำปรา คัมภีร์ไบเบิ้ล โดยภาพที่วาดออกมานั้นมีรูปร่างหน้าตาท่าทางที่มาจากจินตนาการของตนเองทั้ง สิ้น


นอกจากภาพวาดที่มาจากจินตนาการแล้ว Franz von Stuck ยังชอบวาดภาพผู้หญิงเปลือยอีกด้วยแต่ผู้หญิงเปลือยของเขานั้นส่วนใหญ่ถ้าไม่ ดุร้ายก็ต้องดูลึกลับ เมื่อวาดภาพเสร็จแต่ละภาพ Franz von Stuck จะเป็นผู้ลงมือทำและแกะสลักกรอบรูปทุกชิ้นด้วยตัวเอง







ในปี ค.ศ.1892 Franz von Stuck เริ่มหันมาสนใจทำงานปั้น ในขณะเดียวกัน เขาก็ไม่ทิ้งงานวาดภาพ ในปี ค.ศ.1892 นี้เองที่เขาวาดภาพที่สำคัญที่สุดภาพหนึ่งในชีวิตของเขาคือ The Sin


ภาพ The Sin เป็นภาพที่ดูแล้วเย้ายวนมาก วาดขึ้นจากจินตนาการของตัวเอง ในปีต่อมา เขาได้รับรางวัล World′s Colombien Exposition จากการประกวดภาพวาดที่เมือง Chicago ประเทศสหรัฐอเมริกา สองปีต่อมาคือในปี ค.ศ.1895 Franz von Stuck เริ่มงานในฐานะอาจารย์ด้วยการไปสอนศิลปะที่ Munich Academy ที่เขาเคยเรียนศิลปะ เขาเป็นศาสตราจารย์ที่มีอายุน้อยมากคือ 32 ปี Franz von Stuck มีโอกาสได้สอนลูกศิษย์ที่ต่อมากลายเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงหลายคน เช่น Paul Klee, Wassily Kadinsky เป็นต้น


ส่วนชีวิตครอบครัวนั้น Franz von Stuck แต่งงานกับ Mary Lindpainter แม่ม่ายชาวอเมริกันเมื่อปี ค.ศ.1897การแต่งงานทำให้ Franz von Stuck กลายเป็นสถาปนิกเพราะเขาเป็นผู้สร้างบ้านของตัวเองให้เป็นทั้งบ้านและที่ ทำงาน Franz von Stuck ออกแบบทุกอย่างเองหมดแม้กระทั่งเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นในบ้านที่ทำให้เขาได้รับ รางวัลเหรียญทองจากการประกวดที่ Paris Exhibition ในปี ค.ศ.1900 ด้วย บ้านของเขามีชื่อว่า Villa Stuck ที่ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผลงานศิลปะสมัยใหม่ (art nouveau) รวมทั้งมีผลงานของ Franz von Stuck อยู่เป็นจำนวนมาก


ชีวิตศิลปินของ Franz von Stuck นั้นวนเวียนอยู่กับการสร้างผลงานหลายแขนง กับการได้รับรางวัลมากมาย และกับการเป็นครู ในบั้นปลายของชีวิต เขาได้รับรัฐอิสสริยาภรณ์ระดับสูงที่ชื่อ Cross of Knighthood in the Order of Merit of the Bavarian Crown ด้วย Franz von Stuck เสียชีวิตจากอาการหัวใจวายเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ.1928 ส่วน Mary ภรรยาของเขาเสียชีวิต12 เดือนถัดมาด้วยโรคมะเร็ง

Franz von Stuck ได้รับการยกย่องให้เป็น "เจ้าชายแห่งจิตรกร" ( prince of painters )





โดย: อายตนะ
ที่มา: matichon.co.th / 23 พฤษภาคม 2554