สำหรับแฟนคลับการ์ตูนญี่ปุ่น คุณคงไม่อาจเรียกตัวเองว่าโอตากุได้ หากไม่รู้จักคนคนนี้ “เท็ตสึกะ โอซามุ” นักเขียนการ์ตูนในตำนาน เจ้าของผลงานคลาสสิกหลายต่อหลายเรื่อง ที่เอ่ยชื่อปุ๊บ คนต้องร้องอ๋อ ก็อย่างเช่น เจ้าหนูปรมาณู, ฮิโนโทริ, วิหกเพลิง, แบล็กแจ็ก, หมอปีศาจ ฯลฯ 

แต่นี่ใช่ว่าจู่ๆ ผมจะเอ่ยชื่อของโอซามุขึ้นมาลอยๆ โดยไร้เหตุผล หากแต่เป็นเพราะว่าขณะนี้มีแอนิเมชั่นที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนของเขา และสำหรับเมืองพุทธเรา สมควรหรือที่จะพลาดชม เพราะมันคือแอนิเมชั่นที่พูดบอกเล่าเรื่องราวพุทธประวัติ 

ไม่ใช่พุทธประวัติแบบที่เราคุ้นเคยเสียอีก แต่จะเป็นอย่างไร คงต้องไปพิสูจน์กัน 

Buddha กำกับโดยนักสร้างแอนิเมชั่นมือเก๋า โคโซ โมริชิตะ ที่มีผลงานคลาสสิกอย่าง เซนต์เซย่า และดราก้อนบอล และได้ ฮิเดทากะ โยชิโอกะ นักแสดงหนุ่มที่รับบทนำใน Always ทั้งสองภาค มาให้เสียงเป็นพระพุทธเจ้า และได้รับการคาดหมายว่าจะสร้างเป็นไตรภาค โดยภาคแรกใช้ชื่อว่า The Great Depature ก็จะเป็นช่วงแรกของชีวิตของเจ้าชายสิทธัตถะ ในการผจญกับวิถีชีวิตทางโลก 

ประเทศอินเดียก่อนพุทธกาล ชีวิตของผู้คนเต็มไปด้วยความแร้นแค้นและอดอยาก การรบราฆ่าฟันเกิดขึ้นตลอดเวลา ระบบชนชั้นวรรณะที่เข้มงวดทำให้เกิดความไม่ยุติธรรมในสังคม แต่แล้วชีวิตของทุกคนถูกพาเข้ามาหากันจากชะตาที่ถูกลิขิตไว้ เมื่อเจ้าชายหนุ่มนาม สิทธัตถะ ถือกำเนิดขึ้น... นี่คือการเดินทางแห่งจิตวิญญาณ และการบรรลุเพื่อเป็น “ผู้ตรัสรู้ธรรมอันประเสริฐ” หรือ “พระพุทธเจ้า” เจ้าชายสิทธัตถะ ต้องพยายามนำทุกคนเข้าสู่ยุคใหม่ และช่วยเหลือวิญญาณของทุกคนให้พ้นภัยในยุคแห่งความมืดมน 

จุดเด่นอีกหนึ่งประการของ Buddha ก็คือการได้ X-Japan วงดนตรีเจร็อกในตำนานมาทำเพลงธีมหลักชื่อ Scarlet Love Song ซึ่งขับร้องโดยโทชิ และนี่คือเพลงบัลลาดที่เพราะที่สุดเพลงหนึ่ง และก็ยังเป็นซิงเกิลล่าสุดของวงนี้ด้วย

โดย: อภินันท์ บุญเรืองพะเนา 
ที่มา: ผู้จัดการ / 2 พฤศจิกายน 2554