Thailand's Creative Art & Design Community

ATTA Gallery ตัวตนที่แท้จริงของ "อตินุช ตันติวิท"

ทำความฝันให้เป็นจริงได้แล้วสำหรับสาวคนนี้ "อตินุช ตันติวิท" ลูกสาวคนเดียวของ "บันเทิง ตันติวิท" ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารธนชาต ที่หันมาเปิดแกลเลอรี่ของตัวเองในชื่อ "ATTA Gallery" จิวเวลรี่อาร์ตแกลเลอรี่แห่งแรกในเมืองไทย

หลังจากคลุกคลีอยู่ในวงการคอนเทมโพรารี่จิวเวลรี่ได้ระยะหนึ่งกับการเปิดแบรนด์ "ลา คีโอชโชลีน่า" (La Chiocciolina) นำเสนอเครื่องประดับร่วมสมัยออกสู่ตลาดได้ไม่นาน อตินุชก็ก้าวสู่การเปิดแกลเลอรี่ที่ตัวเองใฝ่ฝัน

และ "ATTA Gallery" ก็เปิดตัวสู่สาธารณชนโดยถือฤกษ์ดีเมื่อวันที่ 11 เดือน 11 ที่ผ่านมา

ชื่อของ "ATTA" นอกจากจะหมายถึงความเป็นตัวตนแล้ว ยังมาจากชื่อจริงของอตินุช ตันติวิท ที่นำเอาอักษรแรกของชื่อและนามสกุลมารวมกัน...จนได้เป็นคำที่มีความหมาย

นอกจากนั้น ยังมีความหมายแฝงคือการให้ศิลปินแสดงความเป็นตัวตนผ่านงานศิลปะ โดยใช้เครื่องประดับในการแสดงออก ไม่ใช่ความหรูหราฟุ่มเฟือย แต่เป็นความขี้เล่น ประชดประชัน และมีชีวิต อตินุชจึงเลือกชื่อนี้มาเป็นชื่อจิวเวลรี่อาร์ตแกลลอรี่ของตัวเอง

หลังจากประสบความสำเร็จกับ ลา คีโอช โชลีน่า และได้รวมกลุ่มนักออกแบบจิวเวลรี่ รุ่นใหม่แนวคอนเทมโพรารี่ที่เรียกตัวเองว่า Tanimpimpaporn ซึ่งมาจากคำว่า ถนิมพิมพาภรณ์ มาอยู่ด้วยกันแล้ว...เธอก็เดินหน้าทำฝันของตัวเอง

ที่แกลเลอรี่แห่งนี้จึงมีโปรเจ็กต์หลักปีละครั้งที่จะกระตุ้นความคิดให้ศิลปินในกลุ่มนี้ใช้เป็นเวทีในการแสดงออก และยังมีศิลปินจากต่างชาติหมุนเวียนกันมาจัดแสดงอีกด้วย

"เป้าหมายของอัตตา แกลเลอรี่ คือ เป็นสถานที่จัดแสดงจิวเวลรี่ที่เป็นคอมเทมโพรารี่อาร์ตแห่งแรกของไทย ในต่างประเทศมีแกลเลอรี่ประเภทนี้อยูนานแล้ว ที่ผ่านมาใครที่ต้องการจะดูศิลปะประเภทนี้ต้องเดินทางไปต่างประเทศ แต่สำหรับศิลปินใหม่ ๆ แล้วถือว่ามีโอกาสน้อยมาก ดังนั้นเราจึงต้องการให้เป็นที่จัดแสดงและหมุนเวียนศิลปะที่เป็นจิวเวลรี่ทั้งในเมืองไทยและต่างชาติ"

ไม่ใช่แค่จัดแสดงอย่างเดียว แต่ถ้าใครสนใจจิวเวลรี่ที่นี่ก็พร้อมจะนำเสนอ ซึ่งมีให้เลือกหลายระดับตั้งแต่ราคาหลักร้อยจนถึงหลักแสนบาท...ขึ้นอยู่กับชิ้นงานและศิลปินแต่ละคน

"งานของเรามีหลายระดับ ตั้งแต่คอนเทมโพรารี่อาร์ตซึ่งมีราคาสูงมาก จนถึงเอ็นทรี่เลเวลที่มีราคาตั้งแต่ 300-2,000 บาท สำหรับลูกค้าที่ยังไม่มีทุนมากแต่ต้องการของชิ้นเล็ก ๆ ไปใช้งานก็เข้ามาเลือกหาได้"

อตินุชยังมีความหวังที่จะให้แกลลอรี่แห่งนี้เป็นจุดหมายของบายเออร์จากต่างประเทศที่ต้องการนำจิวเวลรี่อาร์ตของศิลปินไทยไปจำหน่าย หรือแม้แต่ซื้อไปใช้งานเอง ก็มี ความสุขแล้ว

"คนไทยรักศิลปะและชอบการแต่งตัวอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมายังไม่ค่อยมีใครรู้จักงานประเภทนี้ เพราะยังไม่มีออปชั่นให้เลือก คนส่วนใหญ่ก็หันไปซื้อแฟชั่นจิวเวลรี่ แต่งานของเราเป็นการแสดงตัวตนออกมา ทั้งตัวตนของศิลปินและอาจจะรวมถึงตัวตนของคนสวมใส่ด้วย"

"คนที่เข้ามาชมไม่ใช่ทุกคนจะต้องซื้อ แต่ต้องมีความเข้าใจ ในช่วงแรก ๆ ไม่ได้หวังที่จะขายมาก แต่ถ้าคุยกันแล้วมีคนสนใจก็ดีใจ และยิ่งถ้าได้คุยกับศิลปินผู้ออกแบบด้วยตัวเองก็ยิ่งทำให้เข้าใจงานแต่ละชิ้นได้มากขึ้น"

สำหรับครอบครัวแล้วถือว่าได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่ง แม้ว่าจะมีธุรกิจอีกมากมายที่รอให้อตินุชไปรับช่วงต่อ แต่คุณพ่อคุณแม่ก็เปิดโอกาสให้เธอได้ทำงานที่ตัวเองรัก

"ขอเวลาที่บ้าน 3 ปี สำหรับทำงานนี้ (ยิ้ม) จริง ๆ แล้วคุณพ่อคุณแม่อยากให้ไปช่วยงานที่บ้าน แต่เรามีเป้าหมายในใจแล้วก็อยากจะลองทำ ไม่อยากให้ติดอยู่ในใจ และตอนนี้ก็มีคนให้กำลังใจเยอะ (หัวเราะ)"

"คุณพ่อคุณแม่เห็นความตั้งใจจริงของเรา เพราะงานทุกชิ้นก็ทำด้วยตัวเองทั้งหมด ตั้งแต่เลือกวัสดุ ออกแบบ เชื่อมงานเองทั้งหมด จนออกมาเป็นชิ้นงาน และเราก็มีสตูดิโอของตัวเอง มีทั้งตัวเชื่อม ถังแก๊ส และทุกอย่างที่เกี่ยวกับงานด้านจิวเวลรี่"

ไม่เฉพาะงานด้านคอมเทมโพรารี่อาร์ตเท่านั้น ที่ผ่านมาอตินุชก็ออกแบบเครื่องประดับประเภทเพชรพลอยให้กับคุณแม่ด้วย

"ที่ผ่านมาก็เคยออกแบบเครื่องประดับที่เป็นชุดเพชรพลอยให้คุณแม่ คุณแม่ก็ชอบ ใส่ไปเพื่อน ๆ เห็นก็ชอบ (ยิ้ม) คุณแม่เอาพลอยมาให้ พลอยบางชนิดก็มีเอกลักษณ์ บางชนิดก็ไม่มี เราก็ไปดีไซน์ตัวเรือนให้พลอยเด่น และเข้ากับคุณแม่มากที่สุด"

"จริง ๆ แล้วตัวเองชอบคอมเทมโพรารี่อาร์ต ถ้าเครื่องประดับแฟชั่นประเภทเพชรพลอยก็มีคนทำเยอะแล้ว ดีไซน์ส่วนใหญ่ก็คล้ายกัน นอกจากนั้นเราต้องการเป็นตัวกลางให้กับศิลปินมากกว่า เวลานี้ยังมีน้อง ๆ รุ่นใหม่ที่มีไฟอยู่เยอะ แต่เมื่อไม่มีเวทีให้เขาแสดงออก เขาก็จะเข้าไปสู่การดีไซน์เครื่องประดับแฟชั่นที่มีอยู่มาก ดังนั้นอัตตา แกลเลอรี่ จึงน่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายคนได้บ้าง"

สำหรับผู้นิยมเครื่องประดับประเภท คอมเทมโพรารี่อาร์ต แวะไปให้กำลังใจเธอได้ที่ โอ.พี.การ์เด้นท์ ซอยเจริญกรุง 36

นี่คือ...ผู้หญิงที่มีโอกาสเดินตามฝันของ ตัวเอง !

โดย: ศิราณี วงษ์โซ
ที่มา: prachachat.net วันที่ 25 พฤศจิกายน 2553