‘รอฟ วอน บูเรน’ การเดินทางของนักธุรกิจศิลป์

 
ความเป็นนักเดินทางของรอฟ วอน บูเรน กับการเดินทางของโลตัส อาร์ต เดอร์ วิฟว์ ผสานกันเป็นความสำเร็จของธุรกิจกับศิลปะ 

เกือบ 30 ปีมาแล้วที่แบรนด์“โลตัส อาร์ต เดอร์ วิฟว์” (Lotus Arts de Vivre) เป็นที่รู้จัก กว้างขวางในลูกค้ากระเป๋าหนักที่โปรดปรานดีไซน์เครื่องประดับและของแต่งบ้านไม่เหมือนใคร 

จากร้านแรกที่โรงแรมรีเจนท์ (ปัจจุบันคือโฟร์ซีซันส์)..การออกเดินทางของแบรนด์ที่เริ่มต้นจากธุรกิจเล็กๆของครอบครัวฝรั่งหัวใจไทย จนโด่งดังระดับอินเตอร์ นำพาให้‘รอฟ วอน บูเรน’ พบปะคลุกคลีกับแวดวงสังคมชั้นสูงมากมาย ทั้งในระดับราชวงศ์ เศรษฐี นักธุรกิจ ดาราฮอลลีวู้ด ศิลปิน ฯลฯ 

ความเป็นนักเดินทางของรอฟกับการเดินทางของโลตัส อาร์ต เดอร์ วิฟว์ ผสานกับเป็นความสำเร็จของธุรกิจกับศิลปะโดยมีลูกชายทั้ง 2 คน ศรีและนิกคลาส วอน บูเรน ช่วยเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสานต่อธุรกิจ 

“เมื่อ 30 ปีก่อนแนวคิดเรื่องแบรนด์ยังมีน้อย แต่เราตั้งใจตั้งแต่แรกที่จะสร้างแบรนด์ในตอนนั้น เมื่อเราไม่ได้ทำสินค้าแมส แต่ทำสินค้าดีไซน์ สินค้าที่มีแค่ชิ้นเดียว โดยหลักการเราไม่ใช้การโฆษณา แต่ใช้รูปแบบการจัดเอ็กซิบิชั่น จัดเลี้ยงและชวนเพื่อนๆชวนลูกค้ามาสังสรรค์กัน 


 



การเดินทางก็เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างแบรนด์ของเรา มุมที่สอง..การเดินทาง คือ การที่เราได้ออกไปดูทั่วโลกว่ามีอะไรขึ้น อะไรคือแฟชั่นใหม่ อะไรคือแบรนด์ใหม่ รสนิยมของผู้คนเปลี่ยนไปอย่างไร และมุมที่สามคือการได้ออกไปเจอผู้ซื้อ ผู้ขาย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เสริมความรู้ ความเข้าใจโลกเข้าใจตลาดของเรา” 

รอฟเป็นชาวเยอรมัน เดินทางเข้ามาอยู่เมืองไทยครั้งแรกทำงานเป็นผู้บริหารบริษัทด้านเคมีภัณฑ์ที่เข้ามาขยายกิจการในไทย 

ผ่านมาถึงวันนี้ 49 ปีมาแล้วที่เขาตกหลุมรักเมืองไทย อาหารไทย รวมไปถึงภรรยาลูกครึ่งเชื้อสายไทย “เฮเลน วอน บูเรน”ที่แต่งงานสร้างครอบครัวและธุรกิจร่วมกันที่กรุงเทพฯ 

ความเป็นคนเฟรนด์ลี่เข้าสังคมเก่งทำให้รอฟมีเพื่อนเยอะ ทั้งเพื่อนในเมืองไทยและต่างประเทศ กัลยาณมิตรคนหนึ่งที่เขาไม่เคยลืม คือ ม.จ.สนิท รังสิต 

“ท่านสนิทเป็นคนเก่ง และน่ารัก กว้างขวางในแวดวงสังคม บางทีมีเพื่อนดังๆจากเมืองนอกก็มาจัดเลี้ยงกันที่บ้านท่าน บางทีก็มาเลี้ยงกันที่บ้านเรา...เมื่อ 30 ปีก่อนที่กรุงเทพฯยังเป็นกรุงเทพฯแบบเก่า ยังไม่มีตึกสูง ๆ เมืองไทยเป็นจุดหมายที่ฮิตจริงๆของคนต่างชาติที่อยากจะมาเห็นมาสัมผัสวิถีชีวิต” 
การสังสรรค์และงานเลี้ยงกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของรอฟ และแบรนด์โลตัส อาร์ต เดอร์ วิฟว์ เขามีทั้งเพื่อนที่เป็นลูกค้าและลูกค้าที่สนิทสนมกันจนเป็นเพื่อน โดยมีรสนิยมและไลฟ์สไตล์ส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นรสนิยมด้านศิลปะ และอาหารรสเลิศ ทำหน้าที่เป็นทูตสันถวไมตรี 

ท่ามกลางบรรยากาศเสพศิลป์กินดื่มอย่างสุนทรีย์ ในรูปแบบ Exclusive Party เฉพาะกลุ่มเพื่อนสนิท ลูกค้าวีไอพี มาร่วมสังสรรค์อย่างเป็นกันเองครั้งและ 30-50 คน 

ตัวอย่างเช่นงานค็อกเทลปาร์ตี้ต้นปีที่ผ่านมาในคอนเซ็ปต์แบบ Art Show ท่ามกลางบรรยากาศจัดแสดงผลงานภาพวาดจากศิลปินต่างประเทศ และเครื่องประดับในแบบของโลตัสฯ โดยมีเชฟจากอิตาลีบินมาปรุงอาหาร และเสิร์ฟไวน์รสเลิศ ภายในแวร์เฮาส์ที่ปรับปรุงตกแต่งให้เป็นอาร์ตแกลอรี่ 

“ลูกค้าหลายคนเป็นเพื่อนผม เรากินข้าวด้วยกัน เขาก็ไปเมืองนอกกลับมาเล่า เราก็ไปเมืองนอกกลับมาเล่า แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เดือนหนึ่งเราจัดงานประมาณ 2-3 ครั้ง บางครั้งก็เชิญเลี้ยงกันที่บ้าน“ 

รอฟ บอกว่า การนั่งคุยกับเพื่อนดีๆที่ถูกคอ กินข้าวด้วยกันในบรรยากาศดีๆ หัวเราะมากๆ เป็นศิลปะการใช้ชีวิตที่เขาโปรดปราน เช่นเดียวกับการทำสวนอยู่กับบ้าน การลิ้มรสอาหารดีๆ อาหารไทยอร่อยๆ และการเดินทางท่องโลกกับเพื่อนฝูง 

20 ปีก่อนเขาเคยปีนเขาที่หิมาลัยกับถวัลย์ ดัชนี และเพื่อนคนไทยอีกหลายคน เป็นทริปที่ประทับใจมาก ปีหน้านักเดินทางวัย 71 ปีเลยวางแผนไว้ว่าจะกลับไปที่นั่นอีกครั้งพร้อมหลานวัยรุ่น 
รอฟเดินทางบ่อย การเดินทางและธรรมชาติเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการทำงาน โดยเฉพาะไอเดียการใช้วัสดุแปลกๆจากธรรมชาติที่คาดไม่ถึงในเครื่องประดับและของแต่งบ้านแต่ละชิ้น 

ความพิเศษของผลงานบางชิ้นไม่เพียงมีชิ้นเดียวในโลก หรือใช้เวลาผลิตแรมปี แต่ยังมีเบื้องหลังเรื่องราวแรงบันดาลใจที่ครอบครัววอน บูเรน เดินทางรอนแรมเสาะหาวัสดุธรรมชาติตามที่ต่างๆทั่วโลก 
อย่างเช่นเรื่องราวของผลงานชิ้นเอกอย่าง“พระพิฆเนศ” จากรากไม้สักอายุเก่าแก่นับร้อยปีสูงถึง 2.30 เมตร หลังจากเดินทางไปค้นพบไม้ชิ้นนี้ที่บาหลี ภาพดีไซน์พระพิฆเนศปรากฏขึ้นในใจของเขาทันที ใช้เวลาทำ 11 เดือนระดมช่างฝีมือ 15 คนกว่าจะสร้างสรรค์งานไม้ประกอบด้วยเงินแท้ออกมางดงามสมใจ 

นอกจากนี้ยังมีรากไม้มะฮฮกกานีที่นำมาสร้างสรรค์เป็น“นกอินทรียักษ์” ที่แผ่ปีกกว้างถึง 7.7 เมตร โต๊ะสระบัวขนาดใหญ่ เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งด้วยหนังปลากระเบน โต๊ะเก้าอี้ไม้สไตล์จีนโบราณ คอลเลคชั่นเครื่องประดับจากปีกแมลงทับ อาทิ กระเป๋านกแก้ว,กำไลงูสองหัวทำจากปีกแมลงทับประดับอัญมณีหลากสี ฯลฯ 

นอกจากมุมมอง รสนิยมและไอเดียแล้วการเป็นนักเล่าเรื่องที่คุยสนุกและเป็นมิตรยังเป็นคุณสมบัติที่โดดเด่นของรอฟที่ทำให้เขาเข้าไปนั่งในใจของลูกค้าหลายต่อหลายคน 

รอฟ เล่าว่า สมัยแรกๆที่เริ่มต้นธุรกิจในเมืองไทย ลูกค้าส่วนใหญ่ยังเป็นชาวต่างชาติ ส่วนลูกค้าคนไทยจะเป็นกลุ่มที่เรียนจบเมืองนอก คุ้นเคยกับวัฒนธรรมตะวันตก และชื่นชอบศิลปะงานดีไซน์ 

ปัจจุบันลูกค้าไทยกับต่างประเทศสัดส่วนมีพอๆกัน หลายคนเป็นลูกค้าประจำที่เหนียวแน่นและบางคนชื่นชอบถึงขนาดตามสะสมผลงานแบบเป็นคอลเลคชั่น สำหรับรอฟแล้วนิยามถึงคำว่า Luxury ในมุมมองของเขา บางอย่างไม่จำเป็นต้องแพงมหาศาลเสมอไป แต่เป็นสิ่งที่ช่วยปรับปรุงชีวิต ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น เป็นความพิถีพิถันในการใช้ชีวิต 

“ Luxury คือ ทำให้มีอารมณ์ดีๆ อารมณ์ขันมากขึ้น”เจ้าของโลตัส อาร์ต เดอร์ วิฟว์ บอกเช่นนั้น 
------------------------------------------- 






โดย: ดุลยปวีณ กรณฑ์แสง
ที่มา: bangkokbiznews.com / 20 กรกฎาคม 2554

Views: 80

Reply to This

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service