เดอะคิส ของ เอลวิส เพรสลี่ย์

 

เรื่องของเอลวิส เพรสลี่ย์ และอดีตช่างภาพคู่ใจ พร้อมๆ กับเรื่องราวสาวๆ ในภาพถ่าย 

แม้ว่าเอลวิส เพรสลี่ย์ ราชาแห่งร็อคแอนด์โรลล์จะเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2520 เพราะเสพยาเกินขนาด แต่เรื่องราวชีวิตและเพลงของเขาก็ยังได้รับการเล่าขานจนทุกวันนี้ และกลายเป็นตำนานของโลกมายาไปแล้ว 

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา อัลเฟรด เวอร์ไธเมอร์ อดีตช่างภาพคู่ใจของเอลวิสออกมาให้สัมภาษณ์เพื่อเป็นการครบรอบ 34 ปีของการจากไปของ “เดอะคิง” หรือราชาแห่งการโยกและคลึง อัลเฟรดเล่าว่า เขาได้รับการว่าจ้างให้ถ่ายภาพเอลวิสเป็นครั้งแรกในปี 2499 ซึ่งเป็นปีแรกที่เอลวิสออกอัลบั้ม ตอนนั้นอัลเฟรดอายุ 26 ปีและเอลวิสอายุเพียง 21 ปี 

เอลวิสเริ่มมีชื่อเสียงอยู่บ้าง เฉพาะในแถบมิสซิสซิปปี เทนเนสซี่และตอนใต้ของสหรัฐเท่านั้น แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง บริษัทที่เอลวิสสังกัดอยู่จึงอยากประชาสัมพันธ์ให้คนรู้จักเขามากขึ้นและพบว่าไม่มีรูปของเขาเพื่อใช้สำหรับแจกให้สื่อมวลชนเลย บริษัทจึงต้องการหาช่างภาพเพื่อถ่ายรูปเขาเก็บไว้ ตอนนั้นอัลเฟรดเป็นช่างภาพอิสระ เขารับถ่ายภาพให้กับนิตยสารและหนังสือพิมพ์หลายฉบับ แต่จะได้งานก็ต่อเมื่อช่างภาพตัวจริงติดงานอื่น 

วันหนึ่งเขาได้รับการติดต่อให้ไปถ่ายภาพงานคอนเสิร์ตของ the Dorsey Brothers ที่สตูดิโอ 50 ของซีบีเอส เขารับงานนี้ด้วยความยินดี เพราะชอบนักร้องคณะนี้อยู่แล้ว แต่เมื่อเข้าไปที่หลังเวทีในวันซ้อม คนที่ติดต่อเขาบอกว่า จะให้เขาถ่ายภาพเอลวิส เพรสลีย์แทน 

ตอนนั้นเขาถามกลับไปว่า “ใครคือเอลวิส เพรสลี่ย์ ผมไม่รู้จัก” และเขาถูกพาไปที่ห้องแต่งตัวของเอลวิส ตอนนั้นเอลวิสนั่งคุยอยู่กับชายอีกคนที่อัลเฟรดมารู้ตอนหลังว่าเป็นเซลล์ขายแหวน ทั้งสองได้รับการแนะนำให้รู้จักกัน แต่ตอนนั้นเอลวิสยุ่งอยู่กับการเลือกแหวน อัลเฟรดจึงเอากล้องออกจากกระเป๋าและเริ่มถ่ายภาพเอลวิส นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของคอลเลคชั่นภาพเอลวิสของอัลเฟรดซึ่งมีมากกว่า 2,500 ภาพ 

ในคอนเสิร์ตครั้งนั้น เอลวิสจะร้อง 2 เพลงหรือประมาณ 6 นาที ตอนซ้อมเอลวิสดูประหม่าเวทีอยู่บ้าง แต่เมื่อขึ้นเวทีจริง เขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคนและเป็นธรรมชาติมาก ที่หลังเวที เอลวิสพูดคุยและได้รับการแนะนำจากเอเย่นต์ 2 คนจากบริษัทวิลเลี่ยม มอริส อัลเฟรดถ่ายรูปทั้ง 3 คนขณะกำลังพูดคุยกัน เขาว่า รูปนี้เป็นรูปที่เขาชอบมากรูปหนึ่ง เขาได้ยินเอเย่นต์คนหนึ่งแนะนำเอลวิสว่า “ไม่ต้องโยกเอวมากนักนะ” 

หลังจากวันนั้น อัลเฟรดก็ได้เดินทางไปออกทัวร์คอนเสิร์ตกับเอลวิสในที่ต่างๆ มากมายเป็นเวลากว่า 10 วัน อัลเฟรดได้รับการชมเชยว่าสามารถถ่ายทอดอากัปกิริยาและอารมณ์ของเอลวิสออกมาได้อย่างแท้จริงและสวยงาม เพราะภาพส่วนใหญ่เป็นภาพถ่ายหน้าตรงและเป็นพิธีการมาก 

เมื่อถามว่า เขาชอบรูปไหนมากที่สุด อัลเฟรดบอกว่า เป็นรูปที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก เขาตั้งชื่อรูปนี้ว่า “สุภาพบุรุษ คุณจะสั่งอะไร” ในภาพนี้ เอลวิสกับเพื่อนนั่งอยู่ที่ร้านแห่งหนึ่ง สาวเสริฟของร้านถือกระดาษและดินสอรอรับออร์เดอร์ เธอและเพื่อนเขามองตากัน เอลวิสพูดว่า “คุณมีอะไรทานบ้าง” ตาจ้องเขม็งไปที่เธอ และอีก 5 นาทีต่อมา เขาก็ประสบความสำเร็จและเอาแขนโอบเอวเธอไว้ ส่วนอีกรูปที่เขาชอบคือ รูปเอลวิสที่จ้องมองเขาบนรถไฟเหมือนกำลังบอกว่า “ผมเฝ้ามองคุณอยู่นะ ระวังตัวด้วย” 

อัลเฟรดเล่าว่า ครั้งหนึ่งเขา เอลวิสและทีมงานกำลังรอขึ้นรถไฟที่สถานีชัตตานูก้า รัฐเทนเนสซี เอลวิสเดินไปที่แผงหนังสือและเปิดนิตยสารภาพยนตร์ฉบับหนึ่ง เมื่อเจอรูปเขาข้างใน เขาหันมาขอยืมปากกาจากอัลเฟรดแล้วเซ็นชื่อที่รูปนั้น แล้วเขาเดินไปหาสาวขายหนังสือและยื่นหน้าที่มีลายเซ็นให้เธอดู เอลวิสหันมายิ้มกว้างให้เขาเหมือนจะบอกว่าคอยดูนะ แต่สาวคนนั้นก็ทำเขาหน้าแตก เธอพูดว่า “หนังสือราคา 35 เซ็นต์ค่ะ” 

เอลวิสบอกกับเธอว่า “ไม่ ผมเซ็นต์ให้คุณ ผมคือเอลวิส เพรสลี่ย์” ในที่สุดพวกเธอก็ยอมรับว่าเขาคือนักร้องในรูป อัลเฟรดได้ถ่ายรูปช่วงเวลานั้นไว้ด้วยอย่างที่เอลวิสต้องการ 



อัลเฟรดยกย่องเอลวิสว่า ร้องเพลงเพราะ เต้นมีเอกลักษณ์และที่ไม่เหมือนใครคือ เขาสามารถทำให้ผู้ฟังผู้ชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวๆ ร้องไห้ได้ เขาว่านักร้องคนไหนๆ ก็สามารถทำให้คนกระโดด กรีดร้อง ตะโกนแต่ไม่ใช่ร้องไห้เพราะ การร้องไห้เป็นการแสดงอารมณ์ที่มาจากข้างในจริงๆ 

หลังจากนั้น อัลเฟรดได้รับมอบหมายให้ถ่ายรูปเอลวิสอีกครั้งในวันที่ 22 กันยายน 2501 ก่อนที่เอลวิสจะไปเป็นทหารร่วมรบสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เยอรมัน อัลเฟรดใช้เวลาถ่ายรูปทั้งหมด 8 วัน เขาว่า ตอนนั้นเขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมแฟนเพลงโดยเฉพาะสาวๆ ถึงได้คลั่งไคล้เอลวิสกันนัก 

รูปที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของอัลเฟรดคือ “เดอะคิส” ในรูปเอลวิสพยายามจะจูบสาวสวยผมบลอนด์คนหนึ่งในปี 2499 ขณะเตรียมขึ้นเวทีที่เมืองริชมอนต์ รัฐเวอร์จิเนีย ไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นใคร อัลเฟรดเองก็ไม่ได้ถามชื่อของเธอ เขาว่าเอลวิสมีผู้หญิงมากมาย ตัวตนของสาวคนนี้เป็นปริศนามาตลอด 55 ปีจนกระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้เมื่อเธอตกลงใจให้สัมภาษณ์นิตยสารวานิตี้แฟร์ 

เธอคือ บาร์บาร่า เกรย์ เธอเล่าว่า ตอนที่เธอเจอเอลวิสนั้น เธออายุ 20 ปีเท่านั้นและเอลวิสเป็นหนุ่มน้อยที่ตลกและมีอารมณ์ขัน ตอนนั้นทั้งสองคนวิ่งไล่กันเหมือนเด็กๆ เขาวิ่งไปทันเธอที่ห้องโถงและพยายามชวนให้เธอไปรายการทีวีสตีฟ แอลแลนด้วยกัน แต่เธอปฏิเสธ เพราะกำลังจะเดินทางไปหาแฟนหนุ่มที่ฟิลาเดเฟีย คำตอบนี้ทำให้เอลวิส นักร้องหนุ่ม รูปหล่อ ควงสาวไม่ซ้ำหน้ารู้สึกเหมือนถูกท้าทาย 

เกรย์ ซึ่งเคยเป็นนายหน้าขายบ้านและที่ดินกล่าวว่า เอลวิสพยายามชวนเธอไปโน่นไปนี่อยู่นานพอสมควร แต่เธอก็ยังปฏิเสธเขาอยู่ดี วันสุดท้ายที่เจอกัน เขากำลังจะขึ้นรถไฟไปนิวยอร์ค เขาชวนเธอเข้าไปในตู้รถไฟส่วนตัว เขาพยายามเป็นครั้งสุดท้า ยแต่ก็มีเจ้าหน้าที่รถไฟมาเคาะประตูเสียก่อนเพื่อบอกว่ารถไฟกำลังจะออก นั่นเองเป็นครั้งสุดท้ายที่ทั้งสองเจอกัน 

เกรย์เล่าว่า หลังจากนั้น เธอก็เห็นภาพเดอะ คิสออกตีพิมพ์ แต่ก็ไม่ได้สนใจจะแสดงตัว หลายครั้งที่สามีเธอเห็นภาพนี้ เขามักจะล้อเธอว่า ที่รัก เธอมาก่อนพริสซิล่า (ภรรยาเอลวิส) อีกนะ พริสซิล่ารู้เรื่องนี้ไหมนะ เกรย์ว่าที่เธอตัดสินใจเปิดเผยตัว ก็เพราะแค่อยากให้ความจริงปรากฎเท่านั้น 

...................... 

หมายเหตุ : ข้อมูลจากเว็บไซท์บีบีซี วานิตี้แฟร์ อัลเฟรด เวอร์ไธเมอร์ 


 

 
ที่มา: bangkokbiznews.com / 22 สิงหาคม 2554

Views: 568

Reply to This

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service