ดวงดาว สุวรรณรังษี เรื่องเล่าจากนักเดินทางหญิง

"บางครั้งเกือบต้องแลกด้วยชีวิต" ดวงดาว สุวรรณรังษี ยืนยันถึงเส้นทางที่ เคยก้าวผ่านมาตลอดระยะเวลากว่าครึ่งชีวิต หลังจากเธอตัดสินใจเลือกเส้นทางสู่โลกกว้าง เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวความอัศจรรย์พันลึกของธรรมชาติสู่สายตาคนอ่าน 

มากกว่า 20 ปีก่อน นิสัยที่ชอบความโลดโผนตื่นเต้น ไม่ว่าจะตะลุยภู ดูทะเล ทำให้เด็กสาวจากรั้วจามจุรีแอบคิดถึงความฝันที่จะขึ้นมานั่งแท่นบรรณาธิการ อสท. นิตยสารท่องเที่ยวหัวหลักของประเทศไทย ไม่เคยปริปากบอกใครจนกว่าจะได้นั่งเก้าอี้ตัวนั้น 

"เป็นความฝันที่บังอาจมาก" รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะหมายความตามคำพูด 

สารคดีท่องเที่ยวที่ถูกกำหนดด้วยเรื่องราวชีวิต และสาระระหว่างทาง ดูเป็นธงนำที่ถูกปักเป็นหมุดหมายหลักของการทำงานมาโดยตลอด พอๆ กับแรงเสียดทานของความเป็นผู้หญิงที่จะเดินเคียงคู่ผู้ชายไปเผชิญชีวิตลุ่มๆ ท่ามกลางธรรมชาติ รวมทั้งภาพแต่ละใบที่เลือกให้ม่านชัตเตอร์เปิดรูรับแสงไปเก็บเอาไว้เพื่อมาอวดโฉมบนหน้าหนังสือ 

ถึงวันนี้ ในตำแหน่ง บรรณาธิการอำนวยการ ของนิตยสาร เนเจอร์เอ็กซ์พลอเรอร์ ก็ไม่เคยเปลี่ยน 

แน่นอน ถ้าไม่ทุ่มเท หรือไม่รักชนิดหัวปักหัวปำ ฉายา "ราชินีร้อยป่า" ก็คงไม่ได้มาประดับหลังชื่อ 

จากบรรทัดนี้ เรื่องเล่าของนักเดินทางหญิงคนหนึ่งจึงมีอะไรให้ติดตาม...มากมาย 

ระหว่างนักเขียน ช่างภาพ และนักเดินทาง ดวงดาว สุวรรณรังษี เป็นอะไรมากกว่ากัน 

เราเคยคิดว่า ครั้งหนึ่งที่เราอยากเป็นบรรณาธิการหนังสือ แล้วจู่ๆ เราก็มาเด่นดังในเรื่องถ่ายภาพ หลายคนรู้จักในฐานะช่างภาพหญิงคนหนึ่งของเมืองไทย ถามอีกทีเรายังคิดเลยว่า การเป็นบรรณาธิการ การทำหนังสือออกไป นี่แหละคือสิ่งที่เราเคยหวัง และฝันมาตลอด แต่มีช่วงที่ทำ อสท.จนถึงเป็นบรรณาธิการ กลับพบว่าพอถึงจุดสูงสุดแล้ว เราไม่ได้อยากเป็นอะไรเลย ทำไม ถึงต้องลาออกจาก ททท. เพราะมันอิ่มตัวมาก ต้องประชุม ต้องมานั่งคอเปอร์เรทให้คนมาทำโน่นทำนี่ แล้วตัวเองล่ะ แทบไม่ได้ถ่ายรูป แทบไม่ได้เดินทางเลย มานั่งเล่าความคิดว่าฉันอยากได้อย่างนั้น ฉันฝันจะให้เป็นอย่างนี้ คนบางคนก็ทำให้ได้ดั่งใจ บางคนก็ทำไม่ได้อย่างที่ฝัน 

จนมาที่สุดแล้ว แต่ความสุขที่แท้จริงก็ยังอยู่ที่การเดินทาง เรายังอยากเป็นนักเดินทางคนหนึ่ง ไม่น่าเชื่อนะ เพิ่งได้เริ่มต้นชีวิตการเป็นแบ็กแพ็คเมื่อตอนอายุ 50 ปี (ยิ้ม) ที่ผ่านมาไม่เคยเดินทางแบบไม่มีรูปแบบ ต้องติดต่อเตรียมการ มีอะไรที่เป็นรูปธรรม จนไปเมืองนอกนั่นแหละ ถึงได้พบว่ามันมีข้อจำกัดหลายอย่าง สิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นข้อจำกัดสำคัญก็คือ กล้าไปหรือเปล่า (ยิ้ม) ที่ญี่ปุ่นเราก็ค้นพบว่ามันทำได้ง่ายๆ โดยการขึ้นรถไฟ ไม่ต้องพูดญี่ปุ่นก็ทำได้ ติดต่ออินเตอร์เน็ต จองที่พัก เดินถ่ายรูป เราก็ค้นพบว่า มันเป็นช่วงหนึ่งของชีวิตที่ได้เดินทางครบทุกรูปแบบแล้ว 

เมื่อเราได้แบ็กทูเดอะเบสิก มัมก็ทำให้เราได้เห็นว่า มีตัวตน มีเรื่องราว มีชีวิตอยู่ในทุกการเดินทาง ดังนั้น เราอยากเป็นนักเดินทางคนหนึ่ง ครั้งหนึ่งเคยซื้อทริปไปซาฟารี แอฟริกาใต้ หลังจากเสร็จทริปของการบินไทย เราอยู่ต่อ ซื้อแพ็กเก็จไปคนเดียว แล้วบริษัทนี้ไม่เคยมีลูกค้าจากเอเชียเลย และมีข้อกำหนดว่าจะต้องอายุไม่เกิน 55 ปี จากแอฟริกาใต้ ไปบอทสวาน่า จนถึงน้ำตกวิทอเรียออฟ ซิมบับเว นอนแคมป์ตลอด 

มันเป็นชีวิตจริงๆ เพราะเราต้องใช้ชีวิตกับคนแปลกหน้า ก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง 3 วันแรกในกลุ่มเราก็โดนแบน เพราะเราถ่ายภาพมากไป แล้วก็ไม่เชื่อว่าเราเป็นช่างภาพ คืนนั้นนอนไม่หลับเลย มันเป็นเรื่องยากมากนะ ที่ทำให้คนเขารับเราไม่ได้ จนเพื่อนเราบอกว่า พรุ่งนี้ อย่าเอาเลนส์ยาวไปได้ไหม ให้ทำตัวเป็นแบบนักท่องเที่ยว เราคิดเลย พรุ่งนี้จะไม่ไป พวกแกจะไปไหนก็ไป 

แต่ถ้าเราทำอย่างนั้น เหมือนกับสิ่งที่เราเจอมาตลอด เราสู้เรื่องราวต่างๆ ที่คนแอนตี้เรา ที่ช่างภาพเคยสบประมาทว่าทำเกินหน้าคนอื่น ทำไมต้องทำให้ได้โดยไม่คำนึงถึงคนอื่นจะรู้สึกยังไง ไปทำให้ช่างภาพคนอื่นรู้สึกว่าไม่มีความหมายไปเลย จะทำยังไงได้ล่ะ ถ้าเราเก่งกว่าคนอื่นโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คนอื่นไร้ค่าไร้ความหมาย เป็นผู้หญิงที่เก่งกว่าผู้ชายในยุคเมื่อ 20 ปี ก่อน ใครมันรับได้บ้าง บางคนถึงกับหยาบคายกับเรา ไปนินทากันในวงเหล้า ไอ้หน่อยถามจริงเหอะ ถ้ามันมีผัวแล้ว อยากจะรู้ว่ามันจะเดินป่าได้อย่างนี้ไหม มันจะสมบุกสมบันได้ไหม ถ้าไอ้นั่นมันฉีกแล้ว มันถึงขนาดนั้น ช่างภาพผู้หญิงคนต้องเผชิญกับอะไรที่เล่าไม่ได้อีกมาก 

แสดงว่า ผู้หญิงทำงานคนหนึ่งสมัยก่อน ค่อนข้างเป็นอะไรที่ท้าทาย และมีอุปสรรคมาก ? 

เราไม่ได้ตั้งใจจะไปท้าทายอะไรหรอก เพราะเราตั้งใจ และทุ่มเทกับมันมากเกินไป คนเลยไม่ชอบ แต่มันก็ใช้เวลานะ และใช้ความพยายามสั่งสม อย่างดอยเชียงดาวขึ้นไปถ่ายกับเขา คนมันมืดฟ้ามัวดินน่ะ เราก็ต้องกลับไปซ่อม เงินทุกบาททุกสตางค์ ซื้อฟิล์มได้ 6 ม้วน ไปเองซ้ำเพื่อจะซ่อมงาน ออกมาตีพิมพ์ แล้วมันก็บังเอิญพระเจ้าคงให้ หลังจากที่เราผ่านความลำบากเพื่อจะไปทำอะไรขนาดนี้แล้ว ฟ้าเปิด มีอะไรที่ทำให้เราถ่ายมาแล้วสีสดมาก จนกระทั่งเอามาลงตีพิมพ์ จนเขาไม่เลือกงานคนอื่น 

เราเดินทางมาไกลแค่ไหน เราก็ต้องไปเริ่มต้นใหม่อยู่ดีที่เมืองนอก ทีนี้มันไม่เหมือนครั้งก่อนแล้ว เรารู้วิธีจัดการแล้ว มันไม่ได้มันก็ไม่ตายหรอก เรารู้เลยว่า เอาความรู้สึกของคนไว้ดีกว่าไหม เพราะอยู่ต่อกันไปอีกอาทิตย์กว่าเนี่ย ถ้าจะอยู่แบบหมาหัวเน่า ก็อยู่ไปเถอะแคมป์น่ะ เลยยอมวางกล้อง ไม่เอาเลนส์เทเลไป ไม่เอาขาตั้งกล้องไป เอาไปแค่เลนส์สั้นๆ ตัวหนึ่ง ไปเดินถ่ายซาฟารี แล้วไปเจอสิงโตกำลังล่าเนื้อ อยู่ข้างหน้ามันเป็นยังไงล่ะ เขาก็ถามว่าทำไมไม่ถ่าย เราก็ตอบว่าเราไม่ถ่ายหรอก เลนส์แค่นี้ถ่ายออกมาก็เท่านั้นแหละ แล้วยูคิดว่าเดินเข้าไปหาสิงโตมันอันตรายแค่ไหน ไกด์สิเอาไม้ไปขว้างให้สิงโต นั่นคือการรบกวนสัตว์นะ ผิดจรรยาบรรณ จนเขาอึ้งไปเลย 

แต่มันก็มีเรื่องราวต่างๆ 12 วันของการเดินทาง เราได้คิดว่า เรื่องถ่ายภาพเป็นเรื่องรองลงมา เรื่องความสัมพันธ์ของมนุษย์เป็นเรื่องที่สำคัญ กับเพื่อนร่วมทาง ถ้าเราทำทริปนี้ไม่มีความสุข หรือทำให้คนอื่นรำคาญ เท่ากับว่าเราได้ทำลายทริปนั้นลงไปแล้ว เราเปลี่ยนไปเลย จนในที่สุดเราก็ถ่ายภาพไป ทำงานไป เขาก็เริ่มยอมรับ จนวันสุดท้ายเขาก็เซอร์ไพรส์ ซื้อผ้าพันคอมาให้ และเราก็ไรท์ซีดีภาพแจกให้ทุกคน มันก็จบไปอีกเรื่องหนึ่ง ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า บางสิ่งที่เราใฝ่ฝัน เราคิดว่าจะทำอย่างนี้ให้สำเร็จ มีทางเดียวคือเราต้องสู้มัน บางทีมันใช่ บางทีมันก็ไม่ใช่ และเมื่อเราผ่านจุดนั้นมาแล้วเราจะรู้ว่า บางครั้งชีวิตต้องใช้ศิลปะ นั่นคือสิ่งที่เราต้องเรียนรู้มาใช้ชีวิตให้มีความสุข จนมาถึงตรงนี้ ไม่ได้อยากเด่นอยากดัง หรือมีทรัพย์สินเงินทอง ขอแค่ทำสิ่งที่มีประโยชน์ให้กับคนรุ่นต่อไปก็พอ ในแง่ของความเป็นคนๆ หนึ่งที่อยู่ในสายงานอะไรก็ตามที 

คุณพูดถึงช่วงเวลาที่พระเจ้าประทานให้ จริงๆ แล้วส่วนตัวเชื่อในเรื่องโชคชะตาไหม 

เชื่อ (ตอบทันที) แต่โชคชะตามันก็เรื่องหนึ่ง คนอื่นเขาบอกว่า ทำไมเวลาเขาไปไม่ได้หมอก ทำไมดวงดาวได้วะหมอก แต่เคยรู้ไหมว่าที่ไม่ได้หมอก ก็ไม่รู้กี่ครั้ง (หัวเราะ) มันไม่ใช่ฟ้าประทานอย่างเดียว หรือเก่งอย่างเดียวไง บางทีต้องทั้งเก่งทั้งเฮง มันต้องไปด้วยกัน เหมือนเราต้องพยายามด้วย เหมือนล่าสุดที่เราไปนอร์เวย์ อยากถ่ายแสงเหนือ (Aurora) แสงเหนือต้องไปตอนไหน หน้าหนาว แต่คนที่ไปใช้ชีวิตที่นั่นเพื่อรอให้เห็นเลย มันก็ไม่ใช่สักกี่คนที่จะไปเฝ้า หรือฝังชีวิต มันก็ไม่ได้ขึ้นมาหรอก ชีวิตมันก็เป็นเรื่องของโชคชะตานั่นแหละ บางทีได้ บางทีเสีย อยู่ที่เราจะสามารถนำข้อบวกและข้อลบออกมา อย่างเรามีความลำบาก มีความกดดันมากๆ มันทำให้เราสร้างสรรค์มากเหมือนกันนะ บางทีสบายเกินไปก็ทำให้เราขี้เกียจ แล้วก็ไม่สร้างสรรค์ คนที่มีความพร้อมมากเกินไปบางทีก็ไม่มีอะไรที่ทำให้เขาเกิดแรงผลักดัน หรืออารมณ์ร่วม ดังนั้น โชคชะตาก็เรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่เราจะทำมันต่างหากล่ะ มันยิ่งกว่าโชคชะตา เราจะบิวท์อัพตัวเองได้อย่างไร แปรความทุกข์ แปรความยากลำบากออกมาเป็นงานได้อย่างไร 

ถ้าอย่างนั้นแต่ละปีวางความถี่ในการเดินทางไว้แค่ไหน 

วางไม่ได้เลย อันนี้ต้องแล้วแต่โชคชะตาแล้วล่ะ (หัวเราะ) ก็พยายามวางแผนไว้ทั้งปี ทุกปี อยากไปนั่นอยากไปนี่ ถึงเวลาไม่มีใครไปด้วยก็ไปไม่ได้ กว่าเราจะทำสำเร็จ อย่างมาดากัสกาเราไปบุกเบิกตั้งแต่สายการบินยังไม่บิน จนมีสายการบินคนอื่นก็เอาไปทำ เขาก็บอกว่าเราไปทำแล้ว เราก็อดทำ (หัวเราะ) จริงๆ ไม่ใช่ง่ายหรอก การเห็นภาพสวยๆ สักภาพ เราต้องคิดเลยว่าภาพมันสวยได้ยังไง ช่างภาพต้องผ่านความยากลำบากมาไม่น้อยเลยทีเดียวนะ ถ้าเรามองอย่างเข้าใจ เราจะรู้เลยว่า ช่างภาพเขาถ่ายภาพมาแต่ละใบ ฟลุ๊กน่ะเป็นของชั่วคราว แต่ของที่จะอยู่ตลอดไปมันฟลุ๊กไม่ได้ มันต้องเป็นของจริงของแท้ 

จุดหมายปลายทางของการเดินทางอยู่ตรงไหน 

การเดินทางมันไม่มีวันสิ้นสุดหรอก ตราบใดที่เรายังไม่สิ้นลมหายใจ (หัวเราะ) เพราะคนเรามีชีวิตมา มันก็จะฝั่งแน่นอยู่กับตรงนั้น เรามีความสุขกับสิ่งที่เราทำ เราชอบที่จะเดินทาง ไปที่ไหนก็ได้ ไปถ่ายภาพ เขียนเรื่อง ไปเก็บงำมันมาถ่ายทอด ก็ล้วนแต่เป็นนิยามของการเดินทางหมด ในเมื่อเราเลือกแล้วว่าการเดินทางคือชีวิตของเรา จุดสิ้นสุดมันไม่อยู่ที่ตรงไหนเลย 

สิ่งที่ยากที่สุดในการเดินทางสำหรับคุณคืออะไร 

(หัวเราะ) ถ้าเป็นปัจจัยพื้นฐานก็เป็นเรื่องทุนทรัพย์ จะมากจะน้อยยังไงก็ต้องใช้เงินอยู่ดี มันจึงเป็นเรื่องต้นทุนชีวิตที่ต้องมี ต่อมาก็คือ คุณจะเดินทางไปทำไม ความสามารถที่เราจะไปใช้ในการเดินทางน่ะมีพอหรือเปล่า เหมือนกับเรียนหนังสือน่ะ ต้องผ่านบททดสอบมากมายกว่าที่จะไปทำอะไรด้วยตัวเองแบบนั้น ต้องรู้จัก เข้าใจมันหลายเรื่อง แต่ในโลกนี้ไม่มีทางที่จะทำได้ทุกอย่างหรอก แค่สิ่งที่เราทำได้ ขอให้ทำให้ดีก่อนเถอะ (หัวเราะ) 

แล้วง่ายที่สุดล่ะ ? 

คำถามนี้ยากนะ (หัวเราะ) จริงๆ สิ่งที่ง่ายที่สุดมันเหมือนยากนะ มันคือการหาความสุขในชีวิตการเดินทาง หาความสุขกับมันให้ได้ ทั้งๆ ที่มันอาจจะไม่มีอะไรเลย มันอาจจะเป็นสถานที่ๆ ธรรมดามาก นั่นคือสิ่งที่ค้นง่ายที่สุดด้วยตัวเอง แต่มันก็ไม่ได้สร้างขึ้นมาง่ายๆ นะ (หัวเราะ) 




โดย: ชัยณรงค์ กิตินารถอินทราณี 
ที่มา: bangkokbiznews.com / 5 กุมภาพันธ์ 2554

Views: 450

Reply to This

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service