เยือนพิพิธภัณฑ์คนอกหักในโครเอเชีย

 
พิพิธภัณฑ์คนอกหักของโครเอเชียรวบรวมของบริจาคจากคนที่ผิดหวังในความรัก ของที่ระลึกที่ไม่อยากเก็บไว้เพราะเตือนให้นึกถึงความเจ็บปวด 

โครเอเชีย หรืออดีตสาธารณรัฐในยูโกสลาเวียเดิม เป็นประเทศในยุโรปตะวันออกที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักนัก เพราะเป็นประเทศปิดมาโดยตลอดและวุ่นวายอยู่กับศึกสงคราม จนได้รับเอกราชเมื่อปี 2535 จึงเริ่มเปิดประเทศมากขึ้นและกำลังขอเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ธุรกิจร้านค้าความทันสมัยต่างๆ ยังไม่ได้เข้าไปมากนัก ทำให้ไม่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวขาช้อปทั้งหลาย 

แต่สำหรับนักท่องเที่ยวนิยมประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมสวยงาม ป้อมปราการและมหาวิหารในยุคก่อนๆ ก็จะไม่ผิดหวัง เพราะโครเอเชียมีแหล่งท่องเที่ยวในเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมากมาย รวมทั้งแหล่งมรดกโลกอีกด้วย 

โครเอเชียมีรูปร่างเหมือนเสี้ยววงเดือน นครซาเกรปเมืองหลวงไม่ได้รับผลกระทบจากสงครามมากนัก 

ในปีนี้ถ้าใครไปเมืองซาเกรปก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ที่แปลกแหวกแนว คือ พิพิธภัณฑ์คนอกหัก ที่นี่รวบรวมของบริจาคจากคนที่ผิดหวังในความรัก ของที่ระลึกที่ไม่อยากเก็บไว้เพราะเตือนให้นึกถึงความเจ็บปวดรวดร้าวของความรักที่ไม่สมหวัง 

พิพิธภัณฑ์เกิดขึ้นเมื่อสองศิลปิน โอลิงกา วิสติกา และดราเซน กรูบิสิก แยกทางกัน แต่ทั้งสองอยากทำบางสิ่งที่สร้างสรรค์ร่วมกัน พวกเขาตัดสินใจรวบรวมสิ่งของที่ตกค้างจากความสัมพันธ์ของพวกเขามาจัดนิทรรศการพร้อมเชิญชวนเพื่อนๆ ให้ร่วมด้วย 

วิสติกา ศิลปินสาวเจ้าของไอเดีย เล่าว่า “นิทรรศการนี้เกิดขึ้นจากความจริงใจ และช่วยให้เราผ่านพ้นช่วงเวลาที่รักล่มสลายมาได้” 

หลังจากนั้นทั้งสองอนุญาตให้นำนิทรรศการเดินทางไปแสดงทั่วโลก เช่น บอสเนีย-เฮอร์เซโกวินา สโลวีเนีย นิวยอร์ก บราซิล เบลเกรด สตอกโฮล์ม โตเกียว แอฟริกาใต้ และฟิลิปปินส์ เมื่อไปที่ใดผู้จัดก็จะขอรับบริจาคของที่ระลึกจากคนรักคุดทั้งหลาย 

เมื่อไม่นานนี้ได้มีการจัดแสดงนิทรรศการเคลื่อนที่ที่เบอร์ลิน คนที่นั่นบริจาคสิ่งของกว่า 30 ชิ้น ในจำนวนนี้รวมถึงชุดแต่งงานที่ไม่เคยได้ใช้ และขวานที่สาวเลสเบี้ยนนางหนึ่งใช้จามเฟอร์นิเจอร์เมื่อคนรักเก่ากลับมาทวงเฟอร์นิเจอร์คืน สิ่งที่คนรักเก่าได้ไปคือเศษเฟอร์นิเจอร์ 

หลังจากเดินทางไปทั่วโลก นิทรรศการที่มีของไม่กี่ชิ้นก็กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีของมากมาย เมื่อกลับมาที่ซาเกรปก็ได้ตึกอยู่เป็นหลักแหล่งและเปิดเป็นทางการเมื่อกลางเดือนนี้เอง 

ของที่ระลึกที่นำมาแสดงชิ้นหนึ่งสร้างความกังขาให้กับผู้เข้าชม นั่นคือ ขาเทียมข้างหนึ่ง ผู้ที่บริจาคใช้ชื่อว่า วลาดิค เขาเขียนอธิบายไว้ว่า เขาเสียขาข้างหนึ่งเพราะไปเหยียบกับระเบิดในระหว่างสงครามโครเอเชีย 

“เมื่อปี 2535 ผมเข้ารักษาขาที่ขาดจากถูกกับระเบิด ผมเจอเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์สาวสวยและมุ่งมั่น เธอช่วยผมเรื่องขาเทียม ขาเทียมทำให้เรารักกัน แต่ความรักอยู่ไม่นาน ไม่เหมือนขาเทียมอันนี้” 
ส่วนของที่ระลึกอีกชิ้นที่สร้างความฮือฮาคือ กางเกงบ๊อกเซอร์ จากชายคนหนึ่งที่พบรักกับสาวทางอินเทอร์เน็ต 

“เธอส่งกางเกงบ๊อกเซอร์มาให้ผมเป็นของขวัญวันเกิดเมื่อเดือนมกราคม 2550 แต่ความรักของทั้งเราสิ้นสุดก่อนที่จะได้พบกันและก่อนที่เธอจะได้เห็นว่าผมใส่กางเกงแล้วเป็นอย่างไร” 

นอกจากนี้ที่นครซาเกรป นักเดินทางไม่ควรพลาด จัตุรัสมหาวิหารเซนต์สตีเฟน โบสถ์เก่าแก่ที่มีอายุเกือบ 1,000 ปี สามารถเห็นได้จากทุกมุมของเมือง เคยถูกกองทัพมองโกลทำลายในคริสต์ศตวรรษที่ 13 และพังทลายระหว่างแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 2423 แต่ได้รับการบูรณะให้เป็นนิโอกอธิคเช่นในปัจจุบัน 

เมื่อปี 2522 ยูเนสโกประกาศให้ อุทยานแห่งชาติทะเลสาบพลิตวิเซ่ อุทยานที่ใหญ่ที่สุดของโครเอเชียเป็นมรดกโลก น้ำที่นี่เป็นสีมรกต ใสสะอาด ที่นี่ยังมีน้ำตกที่มีความสูงลดหลั่นกันทั้งสิ้น 16 แห่ง ที่เมืองโอบาเทีย เมืองตากอากาศแบบริเวียร่าของโครเอเชียมีอากาศดีตลอดทั้งปี บ้านเรือนตั้งลดหลั่นไปตามไหล่เขา มีทั้งวิลล่าตากอากาศ โรงแรมชั้นนำ แหล่งบันเทิงและร้านอาหาร จัตุรัสกลางเมืองนี้มีรูปปั้นสตรีและนกนางนวลอันเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอิสระ 

สำหรับนักเดินทางที่นิยมประวัติศาสตร์ต้องไม่พลาดเมืองซีบีนิก ซึ่งเป็นที่ตั้งของ มหาวิหารเซนต์เจมส์ เป็นการผสมผสานของสถาปัตยกรรม 3 แห่ง คือ ดัลเมเชียน (ท้องถิ่น) ศิลปะทางเหนือของอิตาลี และทัสคานี มีห้องโถงสูงใหญ่ และโดมครึ่งวงกลม วิหารล้วนก็ล้วนสร้างด้วยหินทั้งหมด สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของศิลปะโกธิค และเรอเนสซองค์ ยูเนสโกยกให้มหาวิหารแห่งนี้ให้เป็นมรดกโลกในปี 2543 


โดย: เสาร์สวัสดี 
ที่มา: bangkokbiznews.com / 22 มกราคม 2554 

Views: 108

Reply to This

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service