การขึ้นมาสู่ความเป็นคนพิเศษในฐานะเบอร์ต้นๆ ของโลก ด้วยฝีมือและมันสมองที่เดินสอดคล้องไปตามครรลองของโลกดนตรี ที่ขับเคลื่อนไปด้วยแนวทางการทำงานแบบพาณิชย์ศิลป์ จะทำอย่างไรจึงจะถูกยอมรับ ทั้งในเชิงของเรื่องความงดงามของสุนทรียศาสตร์ทางดนตรีและบทเพลง สร้างเอกลักษณ์ของตัวเองขึ้นมา รวมถึงประสบความสำเร็จทางด้านการตลาดผ่านยอดขายอย่างท่วมท้น

และที่สำคัญที่สุดสามารถยืนระยะอย่างโดดเด่นสง่างามยาวนานเป็นเวลาหลายสิบปี โดยข้ามผ่านช่วงเวลาต่างๆ อย่างไม่หลุดไปจากกระแสความนิยม และสิ่งที่เป็นผลดีต่อวงการดนตรีโลกก็คือ สามารถปลุกปั้นนักร้องในระดับพรสวรรค์จริงๆ ออกมาให้ยืนเป็นป๊อปสตาร์ได้อย่างมากมายและต่อเนื่อง

นี่คือคนเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกคนหนึ่งในวงการเพลง ที่ถือเป็นหัวใจหลักของการทำงานแบบพาณิชย์ศิลป์ที่มีกลไกทางการตลาดคอยหนุนและส่งพลังขับเคลื่อน

เขาคือ เดวิด ฟอสเตอร์ (David Foster)

ในขวบปีที่ผ่านมา เดวิด ฟอสเตอร์ มีวงโคจรมาอยู่แถบทวีปเอเชีย โดยเฉพาะประเทศในย่านเอเชียแปซิฟิคมากเป็นพิเศษ เนื่องจากเขาเป็นโปรดิวเซอร์และผลักดันนักร้องสาวรุ่นชาวฟิลิปินส์ ชารีซ เพมเพงโก หรือเรียกสั้นๆ ว่า ชารีซ ให้ก้าวขึ้นสู่ความเป็นนักร้องเสียงทองหรือดิวาระดับโลก

ในช่วงต้นสัปดาห์สุดท้ายปลายเดือนตุลาคมนี้ เดวิด ฟอสเตอร์ ก็จะมาเยือนเมืองไทยพร้อมกับคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบในชื่อ ‘Hit Man David Foster and Friends Live in Bangkok’ ซึ่งก็ขนกองทัพนักร้องและวงดนตรีมาเล่นกันอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อไม่ให้เสียชื่อยอดโปรดิวเซอร์ที่มีเพลงฮิตในตลาดเพลงป๊อปมากที่สุดของโลกในรอบหลายทศวรรษที่ผ่านมา

แม้แต่นิตยสารดนตรีอันทรงอิทธิพลของสหรัฐอเมริกา อย่าง โรลลิ่ง สโตน ได้บัญญัติตัวตนของ เดวิด ฟอสเตอร์ ไว้ว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญการทำเพลงรื่นหูในศิลปะแบบที่ตลาดชอบ

เมื่อได้หยิบเอาอัลบั้มรวมบทเพลงฮิตที่ครบถ้วนและสมบูรณ์แบบที่สุดของเขา ‘The Magic of David Foster & Friends’ ขึ้นมาฟังวอร์มอัพหูเพื่อเตรียมตัวฟังเพลงในแบบแสดงสดในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

อัลบั้มนี้เป็นซีดีคู่ที่รวบรวมผลงานการโปรดิวซ์และแต่งเพลงของเดวิด ฟอสเตอร์ ไว้ค่อนข้างครบครันและครบถ้วน

หากว่าไปแล้ว เดวิด ฟอสเตอร์ ถือเป็นนักประพันธ์เพลง โปรดิวเซอร์หรือผู้อำนวยการผลิตที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกดนตรียอดนิยมหรือป๊อปปูลาร์ เขาสามารถนำสุ้มเสียงที่เป็นอัตลักษณ์ประจำตัวในการสร้างสรรค์งานเพลงแบบพาวเวอร์บัลลาดป๊อปอันทรงพลัง ซึ่งเป็นสุนทรียศาสตร์ของเพลงป๊อปในสังคมสมัยใหม่ของการฟังเพลง ลงไปสู่โสตของคนฟังทั่วโลก

สามารถสร้างเพลงฮิตที่ประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวงในกลุ่มคนฟังวงกว้างทั่วโลก เรียกว่ามีกลุ่มคนฟังทุกเพศทุกวัยและทุกช่วงอายุ โดยเฉพาะการข้ามไปสู่ดนตรีและเพลงประกอบภาพยนตร์ทำให้มีส่วนเสริมซึ่งกันและกันอย่างมากมายในตลาดคนฟังเพลงกระแสหลัก

สิ่งที่เป็นบทพิสูจน์ในผลงานของตัวเขาที่สามารถกล่าวได้ว่า เขาคือคนดนตรีในระดับมือทองสมองเพชร ก็คือ การที่เดวิด ฟอสเตอร์ สามารถรักษาดุลยภาพของความสำเร็จทางการตลาด ในระดับของเพลงที่อยู่ในขั้นเมกะฮิต มาผนวกกับอีกด้านคือ ทางสุนทรียศาสตร์ในดนตรีป๊อปที่เขาถูกยอมรับผ่านรางวัลทางดนตรีต่างๆ มากมาย

โดยเฉพาะรางวัลดนตรีที่ถือว่าได้รับการยอมรับและยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก อย่างรางวัลแกรมมี่ โดยเข้าชิงมากถึง 44 ครั้ง และหยิบรางวัลมาอยู่ในอ้อมกอดถึง 15 ครั้ง คิดถัวเฉลี่ยแล้วก็ 1 ใน 3 คือ เข้าชิง 3 ครั้งได้มาถึงรางวัล นอกจากนี้ก็ยังได้รางวัลเกี่ยวกับดนตรีและบทเพลงข้ามสายไปสู่วงการทีวี รางวัลเอมมี่ 1 รางวัล วงการละครเพลงหรือบรอดเวย์กับรางวัลโทนี่ และวงการภาพยนตร์ รางวัลลูกโลกทองคำ แต่น่าเสียดายที่รางวัลใหญ่ที่สุดของโลกภาพยนตร์ เคยถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 3 ครั้ง แต่พลาดหมด

อัลบั้ม ‘The Magic of David Foster & Friends’ อัดแน่นไปด้วยบทเพลงที่ผ่านการพิสูจน์จากกาลเวลาแล้วว่า เป็นบทเพลงป๊อปที่อยู่เหนือกาลเวลาสามารถมาหยิบมาฟังได้เสมอ และจะเปล่งขับขานความไพเราะเสนาะหู เสน่ห์ของเสียงร้องที่จับใจอย่างไม่เสื่อมคลายถึง 34 บทเพลง ด้วยความยาวถึง 2 แผ่นซีดี ซึ่งสะท้อนออกมาบนเส้นทางดนตรีและการทำเพลงในฐานะนักประพันธ์เพลง โปรดิวเซอร์และผู้อำนวยการผลิต

จะเห็นได้ถึงความเชี่ยวชาญช่ำชองในการสร้างงานเพลงป๊อปทีหลอมละลายหรือฟิวชั่นทางดนตรีป๊อป, อาร์แอนด์บี, คลาสสิก, กอสเปล, อดัลต์ คอนเทมโพแรรี และ ร๊อก นำมาใส่ในบุคลิกและพรสวรรค์อันเด่นชัดของนักร้องที่เขารับทำงานให้ ได้ขับเปล่งทุกอย่างออกมาโดยสมบูรณ์แบบที่สุด และสามารถติดหูติดใจเข้าไปสู่ความชอบของคนฟังได้

อาจจะเรียกว่า เดวิด ฟอสเตอร์ มีสัมผัสพิเศษทางดนตรีป๊อปในโลกดนตรียอดนิยม ซึ่งเป็นเรื่องนามธรรมที่อธิบายกันได้ยาก ดูเหมือนง่ายๆ มีสูตรสำเร็จแต่ยากที่สุดในการจะทำให้ลงตัวและประสบความสำเร็จ แต่เดวิด ฟอสเตอร์ ดูเหมือนจะครอบครองกลเม็ดเคล็ดลับในจุดนี้ไว้ได้ โดยที่ไม่มีใครสามารถเลียนแบบได้ โดยเฉพาะการค้นหาและเลือกทำงานกับนักร้องที่เขาเห็นถึงรัศมีและความสามารถที่เหนือกว่านักร้องทั่วไปที่มีอยู่มากมายในวงการเพลง นี่คือความเคี่ยวกรำที่มีอยู่ในลักษณะเฉพาะตัวของบุคคลแต่ละคนที่ไม่สามารถสอนหรือทำกันได้ง่ายๆ

บทเพลงในอัลบั้มที่รวมเพลงฮิตของเดวิด ฟอสเตอร์ ผ่านการนำเสนอโดยนักร้องมากมาย ซึ่งกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ และป๊อปสตาร์ในระดับโลกทั้งสิ้น ‘The Magic of David Foster & Friends’ เปิดหัวกันด้วยบทเพลง ‘I Will Always Love You’ ของ วิทนีย์ ฮุสตัน ซึ่งเป็นบทเพลงที่ถือเป็นเครื่องหมายทางการค้าของเธอไปจนชั่วชีวิต และสร้างให้เธออยู่บนจุดสูงสุดของคำว่า ราชินีเพลงป๊อปอาร์แอนบี-โซล ที่มีอิทธิพลที่สุด และก็มีบทเพลงที่เรียกว่าอยู่ในความทรงจำของคนฟังเพลงมาตั้งแต่ยุคทศวรรษที่ 80 จนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น ‘Because You Love Me’ ของราชินีเพลงป๊อปตัวแม่อีกคนอย่าง ซีลิน ดิออน

ซึ่งถ้าพูดถึงรายชื่อเพลงและนักร้องทั้งหมดก็ต้องบอกได้ยืดยาวเกินควร แต่สามารถการันตีได้ว่า ไม่ผิดหวังเลย กับการเลือกสรรบทเพลงและตัวนักร้องที่เป็นตัวแทนขับขานบทเพลงของเดวิด ฟอสเตอร์ ได้อย่างยอดเยี่ยม และเป็นตัวของตัวเองในการโชว์ศักยภาพการร้องเพลงออกมาได้อย่างน่าตะลึงงันในขีดความสามารถของแต่ละคน

วกกลับมาที่คอนเสิร์ตที่ เดวิด ฟอสเตอร์ ด้วยวัย 61 ปี ที่ยังมีไฟอยู่เต็มเปี่ยม จะขนศิลปินโวคอล แจ๊สระดับโลกอย่าง นาตาลี โคล และสาวน้อยมหัศจรรย์ของเอเชีย ชารีซ รวมถึง ปีเตอร์ เซทาร่า อดีตสมาชิกวงชิคาโก ซึ่งผันตัวเองมาเป็นศิลปินเดี่ยวและโปรดิวเซอร์ รูเบน สตัดดาร์ด นักร้องเพลงป๊อป-อาร์แอนด์บี และกอสเปล ชาวอเมริกัน และ 4 หนุ่มประสานเสียงในแนวเพลงคลาสสิก-ป๊อปร่วมสมัย อย่าง เดอะ แคนาเดียน เทเนอร์ส ซึ่งจะนำบทเพลงฮิตและอมตะของเดวิด ฟอสเตอร์ มาขับร้องอย่างเต็มพลังเสียงในแบบของตัวเอง

ซึ่งน่าจะเป็นคอนเสิร์ตที่น่าดูชมและมีเพลงไพเราะเสนาะโสตให้ฟังกันอย่างจุใจอย่างแน่นอน




คอนเสิร์ต ‘Hit Man David Foster and Friends Live in Bangkok’

จะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม 2553 นี้ ณ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี บัตรราคา 1,000 / 2,000 / 3,000 / 3,500 และ โกลด์แพ็คเกจ 4,500 บาท ซื้อบัตรได้ที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา / ไปรษณีย์ไทย 52 สาขา กรุงเทพฯ และปริมณฑล / จุดจำหน่ายตั๋วของเมเจอร์ และอีจีวี

สอบถามโปรโมชั่น และข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.thaiticketmajor.com โทร. 02-262-3838

รายชื่อเพลงในอัลบั้ม ‘The Magic of David Foster & Friends’
- ซีดีแผ่น 1

1. Whitney Houston / ‘I Will Always Love You’
2. Celine Dion / ‘Because You Loved Me’
3. Michael Jackson / ‘The Earth Song’
4. Michael Buble / ‘Home’
5. Natalie Cole & Nat King Cole / ‘Unforgettable’
6. Peter Cetera / ‘Hard To Say I'm Sorry’ / ‘You're The Inspiration’ / ‘Glory Of Love Foster’
7. Charice / ‘In This Song’
8. Madonna / ‘You'll See’
9. Toni Braxton / ‘Un-Break My Heart’
10. All-4-One / ‘I Can Love You Like That’
11. Air Supply / ‘Goodbye’
12. The Corrs / ‘Runaway’
13. Brandy / ‘Have You Ever’
14. Gloria Estefan & *Nsync / ‘Music Of My Heart’
15. Jordan Hill / ‘Remember Me This Way’
16. Andrea Bocelli / ‘Can't Help Falling In Love’
17. Earth Wind & Fire / ‘After The Love Has Gone’

- ซีดีแผ่น 2
1. Barbra Striesand / ‘Somewhere’
2. Celine Dion & Andrea Bocelli / ‘The Prayer’
3. David Foster & Olivia Newton-John / ‘The Best Of Me’
4. Peter Cetera / ‘The Glory Of Love’
5. Chaka Khan / ‘Through The Fire’
6. Lionle Richie / ‘The Only One’
7. Josh Groban / ‘You Raise Me Up’
8. Katherine Jenkins / ‘Angel’
9. Peter Cincotti / ‘Goodbye Philadelphia’
10. Renee Olstead / ‘A Love That Will Last’
11. David Foster & Marilyn Martin / ‘And When She Danced’
12. Seal / ‘If You Don't Know Me By Now’
13. Al Jarreau / ‘Morning’
14. Boz Scaggs / ‘Look What You've Done To Me’
15. James Ingram / ‘Whatever We Imagine’
16. Cheryl Lynn / ‘Got To Be Real’
17. David Foster / ‘Love Theme From St Elmo's Fire’ (For Just A Moment)

 

 

 

โดย: พอล เฮง

ที่มา: ASTVผู้จัดการรายวัน 14 ตุลาคม 2553