สุดยอดภาพยนตร์แอนิเมชันฟอร์มยักษ์ในใจเด็กๆ และผู้ใหญ่หัวใจเด็กหลายๆ คนอย่าง "Doraemon The Movie สงครามเงือกใต้สมุทร"

เพิ่งดูจบลงไปหมาดๆ ก็กลับมานั่งเขียนบทความ "ชีวิตการ์ตูน" นี้กันเลยทีเดียว... กับสุดยอดภาพยนตร์แอนิเมชันฟอร์มยักษ์ในใจเด็กๆ และผู้ใหญ่หัวใจเด็กหลายๆ คนอย่าง "Doraemon The Movie สงครามเงือกใต้สมุทร" ซึ่งเป็นตอนพิเศษของสุดยอดการ์ตูนสร้างสรรค์ระดับโลกเชื้อสายญี่ปุ่น "โดราเอมอน" ที่เด็กๆ แทบทุกคนจะต้องรักและรู้จักชนิดที่ศักดิ์ศรีไม่ได้น้อยหรือด้อยไปกว่าตัวการ์ตูนซูเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่าง "Micky Mouse" แห่ง Walt Disney เลย

หากจะนับกันจริงๆ แล้ว Doraemon The Movie สงครามเงือกใต้สมุทร นี้ก็ถือเป็นโดราเอมอนตอนพิเศษประจำปี 2010 นั่นเอง... ก่อนหน้านี้ถ้าหากเราลองย้อนดูประวัติศาสตร์การเข้าฉายหรือการออกวางจำหน่ายของโดราเอมอนตอนพิเศษที่ผ่านๆ มาทั้งหมดก็จะเห็นได้ว่าทาง "Fujiko F. Fujio" (ฟุจิโกะ เอฟ. ฟุจิโอะ) มีความถี่เฉลี่ยในการสร้างและออกฉายโดราเอมอนตอนพิเศษนี้อยู่ที่ประมาณปีละ 1 ตอน เท่ากับว่าในแต่ละปีเด็กๆ และแฟนๆ โดราเอมอนทั้งหลายจะมีโอกาสได้สนุกสนานไปกับการผจญภัยของโนบิตะและผองเพื่อนประมาณ 1 ครั้ง ซึ่งถึงจะไม่จุใจแฟนๆ ที่อยากจะให้มันมีให้ดูถี่กว่านี้
 

แต่ก็ไม่นานจนเกินรอ เผลอๆ การรอคอยที่เพาะบ่มมาในระยะเวลาประมาณ 1 ปีอาจทำให้ระดับความอยากในการชมภาพยนตร์หรืออ่านการ์ตูนตอนพิเศษนั้นกำลังพอดีได้ที่ เช่นเดียวกับความรู้สึกในการชม Doraemon The Movie สงครามเงือกใต้สมุทร นี้ที่ดูสนุกเพลิดเพลินและรู้สึกอิ่มกำลังดีเหลือเกิน...

เรื่องราวของ Doraemon The Movie สงครามเงือกใต้สมุทร กล่าวถึงตำนานของเผ่าพันธุ์เงือกที่เล่ากล่าวกันมาถึง 5,000 ปีว่าแท้ที่จริงแล้วเป็นเผ่าพันธุ์สิ่งมีชีวิตที่อพยพมาจากดาวดวงอื่น (พูดง่ายๆ ว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวนั่นแหละ) โดยมีการผูกโยงเข้ากับตำนานสากลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องบ้างไม่เกี่ยวข้องบ้างเพื่ออ้างอิงพอเป็นกระษัย แถมยังมีการเพิ่มเติมเรื่องราวที่สร้างขึ้นมาต่างหากเข้าไปเพื่อให้เกิดความสนุกสร้างสรรค์ตามสไตล์โดราเอมอนตอนพิเศษด้วย
 

แต่สิ่งที่เป็นเสน่ห์เสียจนแทบทำให้แฟนๆ โดราเอมอนไม่สนใจเรื่องของเนื้อหากันสักเท่าไหร่นักก็เห็นจะเป็นรายละเอียดปลีกย่อยที่ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สร้างสีสันให้กับโดราเอมอนตอนพิเศษมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเรื่องช่วงต้นที่มักจะเกิดจากการที่โนบิตะและเพื่อนๆ (โดยมีไจแอนท์, ซึเนะโอะ, ชิซุกะอยู่ด้วยเสมอ) คุยกันถึงเรื่องอะไรบางอย่างอันเป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด ก่อนจะจบลงตรงที่โนบิตะถูกเพื่อนๆ แกล้งหรือล้อให้เสียใจจนต้องวิ่งร้องไห้โฮไปขอให้โดราเอมอนช่วย (ตามเคย) ก่อนที่จะเข้าสู่ไตเติลของภาคนั้นๆ (มีรูปแบบที่ชัดเจนเช่นเดียวกับภาพยนตร์ "007" ภาคต่างๆ กันเลยทีเดียว)

ที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญอีกอย่างหนึ่งซึ่งไม่ว่าจะกี่ภาคและกี่ครั้งก็สร้างรอยยิ้มให้กับผู้ชมหรือผู้อ่านได้เสมอก็คือ... เมื่อถึงเวลาคับขันจวนตัวและจำเป็นต้องใช้ของวิเศษอย่างเร่งด่วน โดราเอมอนเจ้ากรรมก็มักจะหาของวิเศษที่จะใช้งานได้เหมาะกับสถานการณ์ไม่เจอจนทำให้ต้องหยิบสิ่งของโน่นนี่นั่นที่ไม่มีประโยชน์ออกมากระจัดกระจายไปทั่วและทำให้ต้องลุ้นกันตัวโก่งทุกทีไป
 

นอกจากนั้นยังมีมุกโนบิตะผู้เป็นตัวถ่วงของกลุ่มเป็นประจำ, มุกซึเนะโอะอวดรวย, มุกซึเนะโอะขี้ขลาด, มุกโนบิตะกล้าหาญในสถานการณ์สำคัญ ฯลฯ และที่จะขาดเสียไม่ได้ก็คือความผูกพันของเหล่าตัวละครสหายทั้ง 5 ซึ่งถึงแม้ว่าในตอนต้นเรื่องจะดูเหมือนไม่ลงรอยกันเพียงใดก็ตาม... แต่ในจิตใจส่วนลึกแล้วทุกคนผูกพันและห่วงใยกันชนิดที่ไม่ยอมทิ้งกันไปแม้สถานการณ์จะเสี่ยงอันตรายหรือเลวร้ายขนาดไหนก็ตาม ดังประโยคบนโปสเตอร์ภาพยนตร์ว่า "มิตรภาพของผองเพื่อนที่ล้ำลึกยิ่งกว่าห้วงมหาสมุทร" นั่นเอง...

ที่มา: ประสพโชค จันทรมงคล

โดย: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์  22 ตุลาคม 2553