Joshua Reynolds จิตรกรอังกฤษในคริสต์ศตวรรษที่ 18

 

ภาพเหมือนของ Reynolds ในชุดครุยวิทยฐานะดุษฎีบัณฑิต รูปปั้นที่อยู่ใกล้คือ รูปปั้นเหมือน Michelangelo
-----------------------------------------

 

 

Joshua Reynolds เกิดที่เมือง Plymouth ในอังกฤษ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 1723 ในครอบครัวใหญ่ที่มีทายาท 11 คน บิดาเป็นครูใหญ่ประจำโรงเรียนชื่อ Plymouth Grammar School เมื่อเติบใหญ่ Reynolds ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนที่บิดาสอน และได้เรียนประวัติศิลปะของภาพวาดในสมัย Renaissance ควบคู่ไปกับวิชาสามัญอื่นๆ

เมื่ออายุ 17 ปี ความสนใจในงานศิลปะได้ชักนำให้ Reynolds ไปฝึกวาดภาพเหมือนกับ Thomas Hudson ที่ลอนดอนเป็นเวลานาน 3 ปี แม้ Hudson จะมีความสามารถ แต่ก็เป็นจิตรกรที่ไม่มีพลังและสีสันในการกระตุ้นลูกศิษย์ให้กระตือรือร้นได้เลย

เมื่อสำเร็จการเรียน Reynolds ได้เดินทางกลับบ้านเกิดที่ Plymouth เพื่อประกอบอาชีพเป็นจิตรกรภาพเหมือน แต่ธุรกิจไม่ประสบความสำเร็จเพราะผู้คนแถบนั้นมีฐานะไม่ดี Reynolds จึงเดินทางไปลอนดอน และเริ่มวาดภาพเหมือนในแนวคลาสสิก คือสไตล์ของ Corregio, Titian, Raphael, Michelangelo, Tintoretto และ Veronese

แต่ Reynolds ยังไม่เคยเห็นภาพวาดของจริงที่จิตรกรเหล่านี้วาดเลย ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเดินทางไปอิตาลี เพื่อดูภาพวาดคลาสสิกด้วยตาที่ Florence, Bologna และ Venice จนซึมซับเทคนิคการวาด การจัดท่ายืนและท่านั่ง รวมถึงสีที่ใช้ระบายด้วย การเดินทางท่องไปในอิตาลีที่นาน 2 ปี ทำให้ Reynolds ผู้มีสุขภาพไม่สู้ดีต้องล่มป่วยด้วยโรคหูอักเสบ และได้พบว่าขณะพักที่โรม หูข้างหนึ่งเริ่มมีปัญหาในการได้ยิน จึงเอาลำโพงเสียงขนาดเล็กพกติดตัว เพื่อให้คู่สนทนาได้พูดเข้าลำโพงให้ได้ยินชัดขึ้น

ในปี 1753 Reynolds ซึ่งมีอายุ 30 ปี เริ่มมีชื่อเสียงในฐานะจิตรกรภาพเหมือน เพราะมีบุคคลร่ำรวยมาจ้างให้วาดภาพมากมาย จนวาดไม่ทัน ดังนั้น จึงได้ว่าจ้างผู้ช่วยมาช่วยวาด โดย Reynolds จะวาดใบหน้า มือ ท่ายืน หรือท่านั่ง แล้วให้ผู้ช่วยวาดเติมส่วนที่เป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ และฉากหลังจนภาพดูสมบูรณ์ ซึ่งการปฏิบัติเช่นนี้ ในสมัยนั้นไม่ถือเป็นเรื่องผิดจริยธรรม แต่จะอย่างไรก็ตาม ใครๆ ก็ดูออกว่า ภาพสุดท้ายที่เสร็จสมบูรณ์คือภาพวาดโดย Reynolds

ในด้านบุคลิก Reynolds สูงประมาณ 165 เซนติเมตร รูปร่างไม่แข็งแรง ผมหยิกเป็นลอนสีน้ำตาล ใบหน้ากว้าง คางบุ๋ม สันจมูกมีตำหนิ ผิวมีแผลเป็นเนื่องจากไข้ทรพิษ ริมฝีปากบนบิดเล็กน้อย เพราะเคยตกม้า มีนิสัยชอบความสงบเงียบ และพูดด้วยสำเนียงชาว Devonshire ตามปกติ Reynolds จะเป็นมิตรกับคนทั่วไปง่าย โดยเฉพาะคนนอกวงการศิลปะ เช่น Samuel, Johnson, Oliver Goldsmith กับ Edmond Burke และชอบจัดงานปาร์ตี โดยมี Frances ผู้เป็นน้องสาวทำหน้าที่เจ้าภาพฝ่ายสตรี ทั้งนี้เพราะ Reynolds ครองตัวโสดตลอดชีวิต

 

 

 

ภาพ Sarch Middons as the Tragic Muse วาดปี 1784
-----------------------------------

 

 

 

ภาพ Garrick between Tragedy and Comedy วาดปี 1761
------------------------------------

 

 

ช่วงเวลาที่ Reynolds มีชื่อเสียงนั้น คู่แข่งคนสำคัญของเขาคือ William Hogarth และ Thomas Gainsborough ศิลปินทั้งสามมีสไตล์การวาดภาพที่แตกต่างจากจิตรกรยุโรปอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด ทั้งสามจึงพบปะกันบ่อย และมีความเห็นว่า อังกฤษน่าจะมี Society of Artists เพื่อส่งเสริมศิลปะอังกฤษ โดยการเผยแพร่ผลงาน ทั้งนี้เพราะก่อนปี 1760 อังกฤษไม่เคยจัดงานแสดงภาพจิตรกรรมเลย Reynolds กับ Gainsborough จึงจัดตั้งสมาคมศิลปินขึ้นมา และได้กราบบังคมทูลขอให้พระเจ้า George ที่ 3 แห่งอังกฤษทรงเป็นองค์อุปถัมภ์สมาคม ซึ่งพระเจ้า George ที่ 3 ก็ทรงยินดี สมาคมจึงมีชื่อใหม่เป็น Royal Society of Arts และมี Reynolds เป็นนายกคนแรกของสมาคม และได้ดำรงตำแหน่งนี้ตราบจนวาระสุดท้ายของชีวิต

ในช่วงปี 1769-1790 ในฐานะนายกของสมาคม Reynolds ได้วางนโยบายการทำงานของสมาคม และเผยแพร่ความรู้เรื่องศิลปะให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจความหมายและความสุนทรีย์ของศิลปะ อีกทั้งได้เรียบเรียงตำรา Discourse on Arts ให้จิตรกรรุ่นหลังได้เข้าใจว่า ความสำเร็จอาจเกิดจากการเลียน และวาดงานศิลปะที่ยิ่งใหญ่ได้

อนึ่งในการจัดตั้ง Royal Society of Arts นั้น ได้มีศิลปินทั้งที่เห็นด้วยกับไม่เห็นด้วย เช่น William Blake ซึ่งไม่เห็นด้วย โดยอ้างว่าไม่ชอบการแบ่งแยกระดับความสามารถของศิลปิน แต่สำหรับ J.M.W. Turner แล้ว เขาเห็นด้วยกับ Reynolds ในการเชิดชูอาชีพศิลปินเป็นอย่างยิ่ง จนถึงกับได้ขอร้องว่า เมื่อตาย เขาใคร่จะได้ฝังใกล้ศพของ Reynolds จะอย่างไรก็ตาม ผลงานการจัดตั้งสมาคมได้ทำให้ Reynolds ได้รับโปรดเกล้าให้เป็น Sir และได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัย Oxford

 

 

 

ภาพ George Selwyn วาดปี 1764-1766
----------------------------------

 

 

เมื่ออายุ 58 ปี Reynolds ได้เดินทางไป Flanders และ Holland เพื่อศึกษาผลงานของ Peter Paul Rubens ซึ่งได้ทำให้รู้สึกประทับใจมาก แต่เมื่อกลับถึงอังกฤษ Reynolds รู้สึกเครียดมาก เพราะมีความแตกแยกในบรรดาสมาชิกของ Royal Society of Arts จนทำให้เส้นเลือดในสมองของ Reynolds แตกและเป็นอัมพฤกษ์ อีก 7 ปีต่อมา เมื่อตาซ้ายบอด Reynolds จึงต้องเกษียณชีวิตทำงาน และได้จากโลกไปในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1792 ที่บ้านพักในลอนดอนขณะอายุ 69 ปี และศพถูกนำไปฝังที่มหาวิหาร St. Paul’s

นักประวัติศิลปะได้พบว่า Reynolds วาดภาพทั้งหมดประมาณ 3,000 ภาพ ส่วนใหญ่เป็นภาพเหมือนของบุคคลไฮโซ และเพื่อนสนิท แต่ไม่วาดภาพกษัตริย์ และไม่ชอบวาดภาพที่เกี่ยวกับชีวิตในสังคม ข้อสังเกตหนึ่งในภาพเหมือนที่ Reynolds วาด คือ เขาจะวาดกลบจุดบกพร่องต่าง ๆ ของคนที่นั่งให้วาด เพื่อให้คนดูภาพเห็นแต่ส่วนดี นอกจากนี้เขาก็จะจัดให้คนนั่งโพสท่าไม่เกร็งและเป็นธรรมชาติ ดังกรณีภาพเหมือนของ George Selwyn กับสุนัขเลี้ยงชื่อ Raton ที่วาดในช่วงปี 1764-1766 ที่ Selwyn ต้องมานั่งเป็นแบบถึง 12 ครั้ง

ตามปกติ George Selwyn เป็นหนุ่มอารมณ์ร้อนผู้เคยถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัย Oxford มาแล้วเพราะได้เขียนบทความลบหลู่ศาสนา ในภาพเราจะเห็นตาของ Selwyn จ้องดูคนดูภาพอย่างเขม็ง สายตาและแววตาแสดงให้เห็นว่า Selwyn เป็นคนฉลาด แต่มีร่องรอยของความเบื่อ คงเพราะต้องนั่งให้วาดถึง 12 ครั้ง Reynolds ได้จัดให้ Selwyn วางข้อศอกซ้ายบนโต๊ะ และให้ศีรษะเอนไปทางมือซ้ายเล็กน้อย ส่วนมือขวาให้ซุกอยู่ในเสื้อ ซึ่งเป็นเสื้อกำมะหยี่สีแดงที่ขอบเสื้อบุด้วยขนมิงค์ มีซับในเป็นเสื้อลายทอง นี่คือเครื่องแต่งกายที่หรูหราของบุรุษในคริสต์ศตวรรษที่ 18 จุดเด่นของภาพคือ ตา ที่ดูเหนื่อยและครุ่นคิดว่า ภาพนี้จะวาดเสร็จเมื่อไร

ส่วนภาพของสุนัขที่ชื่อ Raton นั้นก็ต้องนำตัวจริงมาวาดถึง 3 ครั้ง โดย Raton จะนั่งบนเข่าซ้ายของ Selwyn และยกเท้าซ้ายขึ้นเล็กน้อย ซึ่งแสดงความเป็นมิตรต่อคนดูภาพ ตาของทั้ง Selwyn และ Raton จ้องเขม็งที่คนดู จนบอกไม่ได้ว่าตาใครจ้องเพ่งกว่ากัน

ดังนั้นในภาพรวม ภาพนี้จึงแสดงชายหนุ่มคนหนึ่งที่ฉลาด ที่มีความมั่นใจและภูมิใจในตนเองมาก กับสุนัขที่หลงตัวเองไม่แพ้เจ้าของ

สุทัศน์ ยกส้าน เมธีวิจัยอาวุโส สกว.

 

 

 

Self-portrait
Joshua Reynolds
--------------------

 

 

 

Reynolds painted by American artist Gilbert Stuart, oil on canvas, 1784
----------------------

 

 

Colonel Acland and Lord Sydney, The Archers, 1769.
----------------------------------

 

 

 

"Robert Clive and his family with an Indian maid", painted 1765.
---------------------------------

 

 

โดย: สุทัศน์ ยกส้าน

ที่มา: ผู้จัดการ   27 สิงหาคม 2553

Views: 695

Reply to This

Replies to This Discussion

^^ ขอบคุณครับสำหรับเกร็ตความรู้ดีๆ

RSS

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service