ลาเต้อาร์ตทำให้บาริสตากลายร่างเป็นศิลปิน โดยมีถ้วยกาแฟเป็นผืนผ้าใบ เครื่องมือ คือ ฟองครีมจากกาแฟเอสเปรสโซและฟองนม
เอสเปรสโซท็อปด้วยนมสดตีฟองในอัตราส่วน 1:2 ผลที่ได้คือ “ลาเต้” ที่แสนอร่อย นุ่มนวล เข้มข้น ด้วยนมกับกาแฟที่ผสมกันลงตัว
แต่ลาเต้อร่อยๆ ก็ต้องสวยด้วย นั่นจึงเกิดมี ลาเต้ อาร์ต เข้ามาเติมเต็ม
ลาเต้อาร์ตเกิดที่อิตาลี อันเป็นต้นกำเนิดของกาแฟสูตรนี้ ก่อนจะกระจายไปทั่วโลก รวมถึงที่สหรัฐอเมริกา ลาเต้อาร์ตถูกพัฒนาและทำให้มีชื่อเสียงขึ้นมาในเมืองซีแอตเทิลช่วงทศวรรษ 1980-1990 โดย เดวิด ชโคเมอร์ เจ้าของร้าน Espresso Vivace
ลาเต้อาร์ตทำให้บาริสตากลายร่างเป็นศิลปิน โดยมีถ้วยกาแฟเป็นผืนผ้าใบ เครื่องมือ คือ ฟองครีมจากกาแฟเอสเปรสโซและฟองนม บางครั้งก็อาจจะมีช็อกโกแลตไซรัปหรือส่วนผสมอื่นๆ เพื่อริน วาด ลาก การใช้ช้อนหรือไม้ตัก จุ่ม แต้ม ฯลฯ ให้ปรากฏเป็นภาพโรเซตตาหรือใบไม้ หัวใจ แอปเปิล ประกายดาว ฯลฯ
การทำลาเต้อาร์ตนั้นต้องในทักษะและการฝึกฝน นับตั้งแต่การชงเอสเปรสโซที่ต้องได้ช็อตซึ่งสมบูรณ์มีฟองครีมหรือครีมาเพียงพอ เพื่อให้สีสันและคอนทราสต์ นมต้องตีฟองออกมาได้เนียนนุ่ม ละเอียด จะได้ไม่มีร่องรอยสะดุดในงานศิลปะชิ้นนั้นๆ การเทฟองนมลงไปในกาแฟก็ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูง เพื่อที่จะให้มันลอยขึ้นมาเหนือเอสเปรสโซ กลายเป็นภาพอย่างที่ต้องการ ทั้งยังต้องอาศัยเทคนิคการขยับเปลี่ยนทิศทางของถ้วย เพื่อให้เกิดลวดลาย
ศิลปะการสร้างสรรค์ลาเต้อาร์ตมีหลายเทคนิค แบบเบสิกก็คือ Free Pour แปลอย่างซื่อๆ คือ การเทฟองนมลงไปในกาแฟอย่างอิสระ ใช้มือ โดยอาจใช้การขยับถ้วยร่วมด้วยเพื่อให้เกิดเป็นรูปร่าง นอกจากนี้ก็มีเทคนิค Drag คือ การลากวาด โดยอาจจะต้องใช้ช็อกโกแลตหรือคาราเมลมาเสริม ใช้ไม้หรือช้อนช่วย
เห็นชาวบ้านเขาทำแล้วดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ รอยนวลก็เคยไปลองฝึกทำลาเต้อาร์ตดูบ้าง เลยได้รู้ว่า...ไม่ง่ายเลย
กว่าจะได้รูปสวยๆ บนถ้วยลาเต้นั้น บาริสตาต้องผ่านประสบการณ์และการฝึกฝนจนข้นคลัก แถมต้องทำงานแข่งกับเวลา เพื่อที่จะได้เสิร์ฟกาแฟให้ลูกค้าได้รวดเร็วทันใจ
สำหรับลาเต้ฝีมือของรอยนวลนั้น ครูผู้สอนชมว่า เป็นอาร์ตมากมาย เป็นอาร์ตแนว “แอบสแทรกต์” ซึ่งดูไม่ออกว่าเป็นรูปอะไร ต้องใช้จินตนาการอันสูงส่งจึงจะดูออกว่าเป็นรูปอะไร!!!
อย่างนี้ควรจะปลื้มดีมั้ยเนี้ย???
โดย: รอยนวล ที่มา:
PostToday 11 กรกฎาคม 2553
Tags:
-
▶ Reply to This