ผมนั่งอยู่มุมทางเดินกลาง มันเป้นที่นั่งรอพบแพทย์ของแผนก phychietric ในโรงพยาบาล ง่วง ปวดศรีษะ ปวดท้องจากอาการท้องอืด นั่งง่อกแง่ก ด้วยความตึง เกร็งกล้ามเนื้อแถวต้นคอ และท้ายทอย เบียร์เมื่อคืนเกือบครึ่งลังตั้งแต่บ่าย 4 โมงจนถึงเกือบตีสี่ ไม่รู้จะกินหาเสนาหอยอะไร

ความคิดฟุ้งซ่านวกวน ตอนนี้ผมอ่านหนังสือแทบไม่ได้ (หมายถึงหนังสือเป็นเล่มๆ) ทั้งๆ ที่นิยายแฟนตาที่ตั้งตารอ ออกมาแล้ว  แล้วมันก็น่าขนลุก ฉากในนิยายที่บรรยายไว้โดยนักเขียนชาวออสเตรเลีย ผมเชื่อว่า เจ้าตัวเองก็คงกลัวกับเรื่องนี้เช่นกัน แทบจะเป็นฉากเดียวกับความวุ่นวายในกรุงเทพ เฮลิคอปเตอร์ หายนะที่คืบคลานจากโลกขนานที่กัดกินเข้ามาโลกในความเป็นจริงด้วย

ผู้ป่วยที่รอพบแพทย์ก็ทยอยๆ กันเข้ามาแล้วก็ออกไป เด็กชายร่างยักษ์คนนึงนั่งอยู่บริเวณใกล้ทางออก ใบหน้าเขาดูคมคาย จมูกและคิ้วโด่งเป็นสัน นัยตาเล็กแต่ส่อแววเฉลียวฉลาด หากแต่ลำตัวมหึมา หนาและล่ำสันกว่าคนปรกติ ไม่ใช่อ้วนพลุ้ย แต่ขนาดตัวขนาดนั้นเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ดูแข็งแรงและทรงพลัง  ลักษณะที่กล่วมา ทำให้เขาดูเด่นและน่าจะตกเป็นเป้าสายตามากทีเดียว

นานมากที่ต้องนั่งงอทรมานกว่าแพทย์จะจัดสรรเวลามาพบผมได้ เด็กสาวคนหนึ่งมากับผู้ปกครอง ไม่น่าเชื่อ เหมือนเธอหลุดมาจาก นิยายเรื่อง alice in wonderland ภูติพรายแห่งดอกไม้ หรือเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหนือออกไปไม่ใช่มนุษย์ แขนขาเธอเหมือนตุ๊กตาชักใย แขนทั้งส่วนบน ส่วนล่างเป็นปล้องขนาดเท่ากันเหมือนหุ่นกระบอก ขาก็มีลักษณะเดียวกัน ซึ่งไม่เหมือนสัดส่วนของมนุษย์ปกติตามธรรมชาติ ท่าทางของเธอก็เหมือนหุ่นกระบอกเช่นเดียวกัน แต่เด็กสาวคนนั้นใบหน้าสะสวย นัยน์ตากลมโตเหมือนตากวางจมูกเล็กๆ เชิดเล็กน้อย สิวเล็กน้อยแบบเด็กสาวอายุ 15-16 ปากจิ้มลิ้ม ดูน่ารักน่ามอง  หากไม่ได้เห็น แขนขาที่ดูเหมือนหุ่นกระบอกนั่น  ท่าทางเธอขยับเขยื้อน เหมือนถูกเชิดแบบหุ่นกระบอกด้วยเช่นกัน

ผมขนลุกหนักเข้าไปอีก แน่หล่ะครับ มันเป็นโรงพยาบาล การที่จะมีผู้ป่วยผิดปกติ นั่นมันเรื่องที่เกิดขึ้นได้ในโลกของความเป็นจริง แต่การป่วยของเด็กสองคนนี้  พวกเขาแค่ดูแปลก แล้วก็ ผมเอง ปาเข้าไปจะ 40 แล้ว ก็ยังใช้ชีวิตสุดขั้วแบบคนอายุซัก 27-28 แล้วไม่รู้โชคดีหรือโชคร้าย หน้าเด็ก เลยโดนเด็กๆ เขม่นเอาบ่อยๆ คนนึงดูราวกับจะเป็นยักษ์ กับอีกคนหนึ่ง เป็นภูติพราย

ผมเข้าพบแพทย์ มันก็เรื่องสั้นๆ ง่ายๆ ยาอาจมีความขัดแย้งกัน ผมกินเหล้ามากไป แล้วก็ ฯลฯ ผมเลยพูดเรื่องที่เห็นเด็กสองคนนี้ ช่วงเช้าวันนั้น มัน แปลกเหมือนหลุดออกไปอยู่อีกโลก

เด็กสาวเธอเป็นโรคหัวใจมาตั้งแต่เกิด ทำให้ร่างกายเธอโตมาแบบที่มีลักษณะที่เห็น สำหรับเด็กชาย ผมว่าเค้าก็หน้าตาคมคาย เค้าสะดุดตา และดูมีแรงดึงดูด มันแปลกคือ ถ้าเค้าจะตัวเล็กกว่านั้น เค้าก็จะเป็นหนุ่มหล่อทีเดียว แต่ผมก็คิดว่า การที่ตกเป็นเป้าสายตา ทำให้เค้ากังวล

ผมเจอเรื่องประหลาดๆ แบบนี้ บ่อยขึ้น และถี่ขึ้น แล้วก็ พยายามที่จะปลอบตัวเองว่า มันไม่จริง เป็นไปไม่ได้ที่จะมียักษ์ หรือ ภูติ มาโผล่ในโรงพยาบาล ผมเพ้อเจ้อและฟุ้งซ่าน แล้วก็ควรจะนอนพักบ้าง

จนผมกลับถึงบ้าน โทรศัพท์ในกระเป๋าไม่ได้ล็อคปุ่มกด มันกดตัวเอง เป็น ดาว 3 ดวง และเลข 7 รวมเป็นดาว 4 ดวง และตัวเลข ตามลำดับที่กล่าวมา

อะไรกันอีกว้า ชีวิตกู

 

 

Views: 162

Replies to This Discussion

ผมเจอเด็กสาวคนนั้นอีก ต่อมา ประมาน 1 อาทิตย์ ระหว่างเข้าคิวพบแพทย์ในตอนต่อมา ผมยืนอยู่ข้างหลังขณะรอเธอวัดความดัน การวัดสัญญาณชีพของคนปกติ ก็ อัตราส่วนของส่วนสูงกับน้ำหนัก อุณหภูมิร่างกาย ความดัน อะไรทำนองนั้น จากเกณฑ์ค่าเฉลี่ยที่คนปกติเค้าเป็นกัน ถ้าวัดออกมาแล้วมีค่าใดค่าหนึ่ง ต่ำกว่า สูงกว่า หรืออะไร ก็เป็นเครื่องหมายชี้ว่า คนแต่ละบุคคล คนนั้น ต้องการการเอาใจใส่ทางการแพทย์มากหรือน้อยกว่าคนปกติที่เขาเป็นกัน จากค่าเหล่านี้ พยาบาลจะรู้ทันทีว่า คนไข้ต้องการความช่วยเหลือด่วนมากแค่ไหน ต้องการการเอาใจใส่มากน้อยแค่ไหน คนไหนควรได้รับความเอาใจใส่มาก คนไหนต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉิน ค่าความดันเฉลี่ยคนปกติ อยู่ที่ประมาน 120 - 80 สำหรับนักกีฬาที่แข็งแรงมากๆ ช่วงความห่างของค่านี้จะแคบลง ลดลง เหลือประมาน 110 - 70 แต่ก็เป็นค่าของนักกีฬาระดับทีมชาติซะส่วนใหญ่ ซึ่ง ความห่าง (interval) ของช่วงค่า (range) ตรงนี้ จะสามารถบอกได้ว่า ใครแข็งแรงหรือ ใครต้องการความช่วยเหลือจากแพทย์
แล้วก็ สำหรับเด็กสาวคนนั้น น่าตกใจ ความดันเลือดเมื่อหลอดเลือดบีบตัว (systolic ) เธอแค่ 100 กว่าๆ และเมื่อ หัวใจเธอคลายตัว ความดันลดต่ำลงจนเครื่องวัด error โรคหัวใจแต่กำเนิดที่ทำให้รูปร่างเทอแปลกไป และการส่งสัญญาณชีพจากค่าความดันแปลกๆ ที่ ถ้าเป็นคนปกติ ตายหรือช็อคไปนานแล้ว
จากความรู้ด้านร่างกายคนเราเล็กๆ น้อยๆ นี้ และจากสิ่งที่ตรวจวัดได้จากตัวเธอ ผมเองรู้สึกตกใจ ผมเคยมีอาการแบบ arhythmia หรือ premature ventricular หัวใจเต้นผิดจังหวะ
หัวใจเรา ถ้าทุกห้องเต้นครบๆ ห้องละครั้ง หนึ่งรอบเต้น 4 ครั้ง เต้นผิดจังหวะหรือไม่ครบจังหวะแค่ห้องเดียวครั้งเดียวใน 1 รอบ คุณจะรู้สึกเหมือนเหนื่อยมาซักสิบชาติ กล้ามเนื้อหัวใจของคนเรา ส่งสัญญาณไฟฟ้าอ่อนๆ (pilse) สื่อสารถึงกันตลอดเวลาที่มันเต้น ตลอดเวลาที่เรามีชีวิตและหายใจ ถ้ามันเต้นผิดจังหวะ จากหลายสาเหตุ เช่น fillbriation, arhythemia, premature ventricular (ผมเองก็ไม่ได้เป็นแพทย์เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ) คนธรรมดาแทบจะลุกขึ้นนั่งไม่ได้ ดูเหมือนเธอจะรู้ เธอแปลกกว่าคนอื่นเล็กน้อย เธอแสดงอาการเหมือนเธอรู้สึกถึงผม หรือไม่ก็ ดวงตาที่มองดูรูปร่างแปลกๆ ของเธออย่างสนใจ ดวงตากลมโตเหมือนตากวาง ใบหน้าเรียวจิ้มลิ้ม จมูกเล็ก เชิดงอนนิดๆ แล้วก็ริมฝีปากของเด็กสาวอายุราว 16-17 ผมไม่เห้นเด็กชายร่างยักษ์คนนั้นอีก แต่ก็พยายามจะ รู้สึกหลอนๆ กับอะไรๆ แบบนี้ ให้น้อยลง
สิ่งที่อยากบอกต่อมา ไม่รู้เป็นเรื่องหรือไม่เ)้นเรื่อง ผมพึ่งซื้อ touchphone ช่วงเดียวกับที่ผมเจอน้องคนนี้
ทัชโฟนราคาปานกลาง แต่คุ้มที่สุดเท่าที่มีปัญญา ความรู้สึกว่ามันใหม่กรตุ้นความอยากที่จะเรียนรู้มัน
นั่นแหล่ะ มันเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ผมพบเด็กสาวคนนี้ มันก็เป็น เรื่อง แปลกๆ ที่ทำให้รู้สึกประหลาดๆ
ผมเปลี่ยนโทสับ ด้วยควาจำเป็นมากกว่า 6 ประการ (นับด้านการสนองอัตตาตัวเองไปซะ 4 ประการ) แล้วก็พยายามจะถ่ายข้อมูลเก่าๆ ออกจากเครื่องเก่า มาหาเครื่องใหม่
กรรมเวรอะไรม่รู้ เครื่องเก่า ชาร์จแบตเตอรี่ไม่ได้ แต่มันจำเป็นจะต้อง มีไฟ จนกว่า มันจะสำรองข้อมูลออกมาจากตัวมันเองจนครบ หมดสิ้น
หลังจาก แคะควัก ถ่ายเท sim แล้วก็ mem card นานพอสมควร แบตตเตอรี่ ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะใช้ได้
โทสับเครื่องเก่า เหมือนจะนอน พะงาบๆ รอการถ่าย สิ่งที่อยู่ในตัวมันเอง ออกไปหา เครื่องใหม่ ตัวตนใหม่ และอะไรอื่นๆ ที่ เยาว์กว่า แข็งแรงกว่า
โทสับเครื่องเก่า ผมเห็นแล้วฏ้สงสาร มันรับใช้เรามานาน
มัน ชาร์จแบตไม่ได้ หน้าจอไม่มีรูปเก๋ๆ ที่ตั้งเอาไว้
เหมือน มาน จา มีชีวิต มีอายุขัย
แล้ว มันก็ใกล้ตายเต็มที รอเวลาที่จะ ย้าย ตัวตนออกไปหา ร่างกายใหม่
..........
..........
.........
เห้อ จะมาอิน อะไรกับ โทสับนักหนา กำเวร ตู

RSS

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service