Hye Mi นักร้องสาวชาวเกาหลี 
------------------------- 

“I'm happy and love singing… ฉันอยากให้คนมองฉันเป็นนักดนตรีมากกว่ามองความสวยของฉัน” …Hye Mi 

ท่ามกลางบรรยากาศริมชายหาดทะเล เสียงคลื่นซัดเข้าหาฝั่งเป็นระลอก น้ำเสียงของเธอทำให้ M-Lite และผู้คนที่กำลังครึกครื้นไปกับเสียงเพลงในยามเย็นถึงกับหยุดนิ่งดั่งต้องมนต์สะกด หลับตาและเคลิ้มดั่งล่องลอยอยู่บนสรวงสวรรค์... 

Hye Mi (เฮ มี) นักดนตรีแจ๊ซสาวคนนี้กำลังมาแรงในเกาหลีใต้ ในค่ำคืนนี้เธอกลายเป็นนางฟ้าที่กำลังขับกล่อมให้ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่มาในงาน “หัวหิน แจ๊ซ เฟสติวัล 2010” ครั้งนี้ เคลิบเคลิ้มไปกับทุกจังหวะดนตรี ท่วงท่าที่กำลังเยื้องกราย ลีลา ท่าทาง อันพลิ้วไหวของเธอ 

…............................................................... 

ทันทีที่นักดนตรีแจ๊ซสาวชาวเกาหลีปรากฏกายพร้อมน้ำเสียงบนเวทีคอนเสิร์ตในงาน Hua Hin Jazz Festival 2010 เสียงกดรัวชัตเตอร์ของเหล่าช่างภาพทั้งมืออาชีพ และสมัครเล่นต่างวิ่งกรูเข้าไปเก็บภาพเธอในการขึ้นแสดงคอนเสิร์ตอย่างติดขอบเวที 



ฝึกฝนจากการฟัง 

วันนี้ M-Liteพามารู้จักกับ Hye Mi เธอกำลังจะกลายเป็นนางฟ้าของวงการดนตรีเพลงแจ๊ซของเกาหลี ดนตรีแจ๊ซที่ใครๆ หลายคนต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเข้าถึงได้ยาก และต้องอยู่ในห้วงอารมณ์กับมันจริงๆ ถึงจะอินกับเสียงดนตรีที่กำลังขับกล่อมได้ 

Hye Mi หญิงสาว ผมยาวสลวย วัย 22 ปี ปรากฏกายในชุดกางเกงขาสั้น เสื้อคลุมสีดำ ใบหน้าอันงดงาม บวกกับรูปร่างสูงเพรียว มองทุกองศาสสารทั้งหมดในตัวเธอช่างลงตัวอย่างสุดเพอร์เฟกต์ 

“I'm happy and love singing”...Hye Mi (เฮ มี) นักร้องสาวสวยชาวเกาหลีบอกอย่างนั้น... เธอคือ นักร้อง นักดนตรีสาวที่กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นดาวดวงใหม่ของวงการดนตรีเพลงแจ๊ซในเกาหลีใต้ ท่ามกลางกระแสเกาหลีฟีเวอร์ K-Pop ที่เกิดขึ้นอย่างมากในบ้านเกิดของเธอ 

Hye Mi หลงใหลในเสียงดนตรี รักการร้องเพลง และมีความสุขทุกครั้งที่ได้ฟังเพลง Hye Mi ได้รับการปลูกฝังให้รักและสนใจดนตรี จากการเป็นคนชอบฟังเพลงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อวันหนึ่งเธอได้ยินเพลงของนักดนตรีผิวสี อย่าง ไมเคิล แจ๊กสัน , Jacksons five ,ฯลฯ จึงทำให้เธอรักเสียงเพลงมากยิ่งขึ้น 

จากจุดเริ่มต้นของการฟังเพลง เธอพยายามหาเพลงในอัลบั้มแรกๆ ของนักดนตรีผิวสีมาฟังอยู่เรื่อยๆ 

สำหรับการฝึกฝนในเรื่องของการร้องเพลงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ฝึกฝนอะไรมากมาย หรือพิเศษแต่อย่างใด เพียงแค่การฟังดนตรีผ่านความรู้สึก และชอบฟังเพลงทุกวัน ก็คล้ายกับการฝึกฝนตัวเองไปด้วย 



ศิลปินหน้าใหม่จากแดนโสม 

Hye Mi กลายเป็นศิลปินหน้าใหม่ที่สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้ฟังได้มากทีเดียว แม้ว่าหลายคนจะมองว่าเธอเป็นศิลปินมือสมัครเล่นในการทำงานอัลบั้ม “Rainbow Duet vol.3” โดยเธอได้ร่วมงานกับศิลปินเพลงป็อปของเกาหลีมากมายที่ออกมาวางแผงเมื่อปี 2006 

ทว่าในทางตรงกันข้าม เธอกลับให้ความบันเทิงต่อผู้ที่ทั้งได้ชมการแสดงและได้ฟังน้ำเสียงอันรื่นหูทุกครั้งที่เธอปรากฎตัว ทำให้เธอเริ่มเป็นที่รู้จัก และในปีต่อมา ปี 2007 Hye Mi ได้มีอัลบั้มเดี่ยวซึ่งเป็นผลงานของเธอเองอย่างเต็มตัว กับอัลบั้ม “Hye Mi vol.1 Smoothy” 

จนเมื่อ 3 ปีก่อน ตั้งแต่อัลบั้มแรกและอัลบั้มเดี่ยวของเธอวางแผง เพลงที่ทำให้คนรู้จักเธอคือ “This country boy” โดย Freestyle and Hye Mi ในอัลบั้ม “Rainbow Duet vol.3” รวมถึงเพลง “Smooth” ในอัลบั้ม “Hye Mi Vol.1”และชื่อของเธอถูกเสนอให้เข้าชิงในฐานะ “ศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม” โดยกระทรวงวัฒนธรรมเกาหลี 

หลังจากออกผลงานทั้งสองอัลบั้มมาให้ผู้คนได้ฟังกันไปแล้วนั้น Hye Miกลับไม่ได้สานต่ออาชีพนักร้องอย่างเต็มตัว แต่เธอหันไปมุ่งศึกษาทางด้านดนตรีแจ๊ซ เสียเป็นส่วนใหญ่ เธอได้สมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยคยองฮี (Kyung Hee University) ภาควิชา Post Modern Music (ดนตรีสมัยใหม่) มหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้สร้างซูเปอร์สตาร์อย่าง “จอง จี ฮุน” หรือ “เรน” ซูเปอร์สตาร์หนุ่มเกาหลีที่สาวๆ ไทยหลายคนรู้จักและคลั่งไคล้อย่างมาก 

ที่ผ่านมามีคนในวงการบันเทิงมากหน้าหลายตา ชักชวนให้เธอเข้าไปร่วมงานบันเทิงทั้ง ดารา ศิลปิน แต่เธอกลับปฏิเสธคำชักชวนเหล่านั้น 

หน้าตาแบบเธอจะกลายเป็น Pop Star ดารา นางแบบหรือนักแสดงชื่อดังของเกาหลีไปเลยก็ได้ ทว่าเธอเองกลับเลือกทางเดินที่จะเป็นนักดนตรีมากกว่า 

“ฉันชอบที่จะให้คนรู้จักฉันในฐานะของนักดนตรีมากกว่าให้คนรู้จักว่าฉันเป็น “ป็อปสตาร์” และไม่อยากให้คนมองฉันที่หน้าตามากกว่าความสามารถในการเป็นนักดนตรี มีเยอะมากที่ชวนให้ไปเป็นนางแบบ ดารานักแสดง แต่ฉันชอบที่จะร้องเพลง และเล่นดนตรีมากกว่า ฉันรักและมีความสุขกับการร้องเพลง” 

นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เธอเลือกที่จะเล่นดนตรีแจ๊ซ มากกว่าการเป็น Girl Group อย่างเช่นกลุ่มนักร้องทั่วไปของเกาหลี เนื่องจาก เธอต้องการเป็นนักดนตรีที่มีความสามารถไม่ใช่ขายเพียงแค่หน้าตาหรือความเป็นป็อปเท่านั้น 

กระแสแจ๊ซในเกาหลี 

แม้ว่ากระแสเพลงแจ๊ซจะเป็นหนึ่งกระแสที่ยังไม่ค่อยโด่งดังในประเทศเกาหลี มากเท่าที่ควร รู้จักกันเพียงแค่เฉพาะกลุ่มเท่านั้น ทว่าในเกาหลีเองยังคงมีแหล่งที่จะสามารถทำให้ดนตรีแนวแจ๊ซเกิดขึ้นมาได้ 

หากเทียบกับตลาดดนตรีจากทั่วโลกแล้ว ตั้งแต่มีการเผยแพร่และขยายตัวของ Mp3 ที่เข้ามาอย่างมากมาย และไม่นับในแง่ของการขาย ซึ่งในความเป็นจริงก็อาจจะขายได้ไม่มาก Jack Lee โปรดิวเซอร์ผู้ชักชวน Hye Mi เข้ามาร่วมงานเพลงด้วย กล่าวว่า ในประเทศเกาหลีมีนักดนตรีแจ๊ซ และนักดนตรีคลาสสิกไม่มาก แต่ถ้าหากให้พูดในฐานะที่เขาออกไปทัวร์คอนเสิร์ตระดับโลกมาเยอะ เมื่อ 20 ปีก่อนที่เขาเคยทำงานเพลงมา การออกอัลบั้มมาวางแผงสามารถขายได้เยอะมากกว่าในปัจจุบัน ยุคที่มีแต่ Mp 3 เต็มไปหมด เรียกได้ว่า ตลาดดนตรีของทั่วโลกลดลงอย่างเห็นได้ชัด 

Hye Mi เล่าว่า ดนตรีแนวแจ๊ซที่เกาหลีแม้จะเป็นดนตรีที่ไม่ค่อยนิยมกันมากนัก หรือเป็นไปตามกระแสอย่างเช่นเพลงป็อปที่กำลังมาแรงในแดนโสม 

โดยส่วนมากแล้วเพลงแจ๊สถูกเล่นเพียงแค่ในผับ บาร์ และเป็นที่รู้จักเฉพาะกลุ่มเท่านั้น แต่ในเกาหลีเองมีนักดนตรีแจ๊สจำนวนมากที่มีฝีมือ และทางรัฐบาลของเกาหลียังมีการสนับสนุนให้มีคอนเสิร์ตแจ๊ซเฟสติวัล ปีละ 2 ครั้งอีกด้วย 



ร่วมงานกับนักดนตรีระดับโลก 

การทำงานเพลงในช่วงแรกถือเป็นประสบการณ์ที่ดีของเธอ เธอมีโอกาสได้ร้องเพลงร่วมกับศิลปินป็อปในเกาหลี และขึ้นแสดงในคอนเสิร์ตแจ๊ซของเกาหลี ทว่าช่วงนั้นถือเป็นช่วงที่เธอกำลังรอคอยโอกาสที่เหมาะสม เพื่อใช้โปรเจคของตัวเองในการแสดงออกถึงความรักในเสียงดนตรีและพรสวรรค์ของเธอ 

จนกระทั่ง Jack Lee Asianergy นักดนตรีระดับโลก ผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการดนตรีแจ๊สมายาวนาน ได้เห็นถึงความสามารถและพรสวรรค์ของ Hye Mi จึงได้ชวนเธอเข้ามาร่วมทำงาน และทำให้เธอได้มีโอกาสมาทำงานเพลง ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอชื่นชอบมากที่สุด 

“ผมคิดว่าน้ำเสียงของเธอดีมาก เพราะถ้าเสียงไม่ดีผมก็คงไม่เลือกให้เธอมายืนอยู่ตรงจุดนี้ ” Jack Lee พูดถึง Hye Mi ในฐานะที่เขาเคยทำงานกับนักดนตรีที่มีความสามารถระดับโลกมามาก และสิ่งที่ทำให้เธอมายืนตรงนี้ได้ก็คือความสามารถของเธอทั้งสิ้น 

แม้ว่าทั้ง Jack Lee และ Hye Mi จะเพิ่งได้ร่วมงานกันมาได้เพียง 2 เดือนกว่า แต่สิ่งที่ทำให้ Hye Mi สามารถร่วมงานและปรับตัวเข้ากับศิลปินระดับโลกอย่าง Jack Lee ได้อย่างรวดเร็วเป็นเพราะเธอเคยติดตามผลงานของ Jack Lee มาก่อน 

“ก่อนจะมาเจอกัน ฉันเคยรู้จักเพลงของ Jack Lee มาบ้างแล้ว ฟังแล้วรู้สึกชอบ ทราบว่าJack Lee เป็นนักดนตรีที่เก่ง และมีความสามารถมาก พอได้มาทำงานด้วยกันกับJack Lee ก็เชื่อมั่นในดนตรีที่เขาทำ เขาทุ่มเทกับงานมาก จึงทำให้ฉันเชื่อมั่นในการทำงานร่วมกับJack ” 

ในฐานะที่ Jack Lee รับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ให้กับ HYe Mi ในการทำอัลบั้มเดี่ยวของเธอ ซึ่งกำลังจะมีกำหนดวางแผงทั่วโลกภายในปีนี้ โดยทั้งคู่จะมีการแสดงฝีมือด้วยตัวเอง พร้อมด้วยการบรรเลงเพลงจากนักดนตรีชั้นแนวหน้าของสหรัฐอเมริกา ซึ่งแนวดนตรีจะเป็นแนวโรแมนติก ฟังก์ แจ๊ซ และโซล ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวิญญาณของดนตรีอันหลากหลายจากทั่วทุกมุมโลก 

หลังจากการออกอัลบั้ม เธอคงต้องออกทัวร์คอนเสิร์ตระดับโลกบ่อยมากขึ้น แม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะเคยเพียงแค่ปรากฎตัวตามรายการดนตรีในเกาหลี 2-3 รายการมาบ้างเมื่อครั้งออกอัลบั้มชุดแรก สำหรับการแสดงสด Hye Mi เองแม้ยังไม่เคยออกทัวร์คอนเสิร์ตใหญ่ๆ หรือคอนเสิร์ตเดี่ยวมาก่อน เชื่อเถอะว่า เธอจะสามารถสะกดคนดูด้วยน้ำเสียงและการแสดงดนตรีของเธอได้อย่างแน่นอน 

เยือนเมืองไทยครั้งแรก 

สำหรับการมาเยือนเมืองไทยเพื่อมาร่วมงาน Hua Hin Jazz Festival 2010 นอกจากความประทับใจบนเวทีการแสดงคอนเสิร์ตแล้วยังมีความประทับใจกับการมาเมืองไทยครั้งนี้อีกมาก

Hye Mi บอกว่า การมาเมืองไทยครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มา และได้ร่วมเล่นคอนเสิร์ตระดับโลกรู้สึกประทับใจอย่างมาก คนไทยมีรอยยิ้มที่น่ารัก ใจดี ไม่ว่าจะหันไปทางไหนผู้คนต่างสร้างรอยยิ้มที่เป็นมิตรให้กับเธอได้ตลอดเวลา 

“ฉันรู้สึกดีใจที่คนไทยให้การต้อนรับเป็นอย่างดี รวมถึงผู้คนที่ชื่นชอบการแสดงของฉันในค่ำคืนที่ฉันขึ้นแสดงคอนเสิร์ต ฉันเห็นผู้คนจำนวนมากมารอเพื่อชมคอนเสิร์ตแจ๊ซ เฟสติวัลในครั้งนี้ รู้สึกดีใจมาก ฉันก็ชอบนวด สปาไทยที่ทำให้ผ่อนคลาย สบาย และชอบรสชาติอาหารไทย” 

คงไม่เกินปีนี้ที่อัลบั้มเต็มของเธออย่างเป็นทางการโดยมี Jack Lee Asianergy นักดนตรีระดับโลกมาร่วมงานเป็นโปรดิวเซอร์ ที่จะคอยสนับสนุนให้ผลงานเพลงในแนวดนตรีแจ๊สของเธอเป็นที่รู้จัก และประสบความสำเร็จ ในอนาคต Hye Mi นักดนตรีแจ๊ส สาวสวยจากเกาหลีคนนี้ อาจจะกลายเป็น “นางฟ้า” ของวงการเพลงแจ๊ส ที่จะคอยขับกล่อมให้ทุกคนหลงใหลไปกับเสียงของเธอ... 

*************************************** 



Jack Lee ป๋าดันของ Hye Mi 

Jack Lee เริ่มเล่นดนตรีแจ๊ซในตอนที่เขาเรียนอยู่ไฮสกูล ซึ่งในช่วงนั้นกรุงโซลมีทหารอเมริกันมาขายแผ่นเสียงใต้ดิน ขณะเดียวกันเผอิญเขาไปพบเจอกับแผ่นคอนเสิร์ต จึงลองซื้อไปฟัง เขาบอกว่าฟังครั้งแรกแล้วรู้สึกเกลียดอย่างมาก ไม่รู้จักว่าเป็นซาวด์อะไร แต่พอได้ฟังเรื่อยๆ ก็ทำให้เขารู้สึกว่าเป็นดนตรีที่ไพเราะเหลือเกิน จึงได้กลับไปที่ร้านนั้นและให้คนขายชาวอเมริกันเป็นผู้แนะนำเพลงในแนวดังกล่าวให้ในแนวของชาวอเมริกา 

เขามักพูดอยู่เสมอว่าเขาไม่ใช่เพียงแค่นักดนตรีเพลงแจ๊ซเท่านั้น แต่เขาคือนักดนตรีที่สามารถเล่นได้ทุกๆ แนวเพลง เขาและเพื่อนๆ รวมตัวกันขึ้นจนกลายเป็นวงดนตรี และเขาถูกขนานนามว่า “Jack Lee Asianergy (USA)” band ที่ก่อตั้งโดย มือกีตาร์ แจ๊ซ และ โปรดิวเซอร์ Jack Lee , กับมือกลอง และ เปอร์คัสชั่น Lewis Pragasam แนวคิดของวงคือความเป็นหนึ่งเดียวของ ดนตรี ที่มีเอกลักษณ์ ของความเป็นเอเชียผสมผสานอยู่ด้วย 

ในการแสดง ของ ASIANERGY ใน HUA HIN Jazz Festival 2010 Jack Lee และ ASIANERGY ได้เชิญ Hye mi ( เฮ มี ) นักร้องสาวชาวเกาหลี มาร่วมเป็นแขกรับเชิญพิเศษด้วย ซึ่งเขาเองกำลังจะเป็นโปรดิวเซอร์เพื่อร่วมทำงานเพลงกับ Hye Mi หญิงสาวที่มากความสามารถจนทำให้นักดนตรีระดับโลกอย่าง Jack Lee ชวนมาร่วมงานด้วย 

“แม้ว่าเธอจะเป็นศิลปินน้องใหม่ในค่ายผมตอนนี้ ซึ่งทางเราเองก็ยังไม่มีข้อมูลที่เกี่ยวกับอาชีพของเธอที่ผ่าน เนื่องจากว่าเธออายุยังน้อยมาก และกำลังศึกษาอยู่ในระดับมหาวิทยาลัย แต่เพราะเธอเป็นคนมีไฟแรง และมีความสามารถในการร้องเพลงและการแสดงคอนเสิร์ต จึงทำให้ผมมั่นใจว่าหลังจากที่เราจะออกโปรเจกต์ร่วมกันกับเธอแล้ว เธอจะกลายเป็นนักร้องเพลงแจ๊ซที่มีชื่อเสียงในเกาหลีอย่างแน่นอน” Jack Lee กล่าว 

****************************