ท่ามกลางความน่าเบื่อหน่ายของวงจรชีวิตที่แสนสั้นของมวลมนุษยชาติ
เรายังคงกิน(ตะบัน)อาหารและน้ำดื่ม ผลผลิตของลัทธิทุนนิยม เข้าไปอย่างไม่หยุดยั้งจนตราชั่งเริ่มชี้หน้าด่ากราด
(ขณะเดียวกันคนอีกฝั่งทางแอฟริการ้องไ้ห้เพราะไม่มีจะแดก)
คนแก่ที่เร้นกายในคอนโดซอมซ่อ พาหมาเดินมาหยุดขี้
เสียงเคาะคีย์บอร์ด สนทนา่ผ่านหน้าจอดังเซงแซ่แข่งกับ เสียงจั๊กจั่น
ความร้อนที่ไม่ลดตัวลงบ้างในคืนดึกสงัด ช่างเข้ากับคืนเดือนมืดอย่างวันนี้ได้อย่างบัดซบ
เหงื่อเม็ดเป้งไหลรินกาย จนต้องสบถด่าฟ้าดิน
..แต่ทันใดนั้นเอง
การเฝ้ารอเฝ้าคอย ฝนเม็ดแรกของปีก็สัมฤทธิ์ผลเสียที (อย่างไม่รู้ตัว)
สิ้นเสียงคำรามแรกของพยัคฆาสีเทาที่ลอยละล่องอยู่กลางอากาศ
ห่าฝน ก็ทิ้งตัวลงมาพรมโลกที่ร้อนด้วยไฟราคะของมนุษย์ ซะเย็นฉ่ำ
ผมพูดอะไรไม่ออก ..
แต่จำได้ว่า ท้องฟ้าเบื้องบนคำรามตอบอีกสองสามที เหมือนทำอะไรบางอย่างให้สิ้นความรำคาญไป
... แต่ผมชอบนะ
อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญที่ซ้อนทับเหตุผลประหลาดอีกสองสามชั้น หรือใครจะดลบันดาลก็ไม่ทราบได้
ผมไม่รอช้าที่จะเปิดประตูเข้าไปดูให้เห็นเต็มสองตา
เพื่ออะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน
ไส้เดือนและกิ้งกือมุดดิน เริงร่าดีใจออกมาเต้นรำกลางสายฝน
ต้นไม้น้อยใหญ่ก็ดีใจจนน้ำตาไหล
ไม่รู้ผมมีปูมหลังฝังใจอะไรกับหยาดฝนนักหนา ในขณะที่ชาวบ้านมักก่นด่าไม่ขาดสาย
แต่ช่างหัวปะไร
ใครหลายคนอาจมีความสุขในการจิบไวน์และชื่นชมแสงอ่อนนวลจับหัวใจของดวงจันทร์
แต่ผมเลือกที่จะนั่งมองไปไร้จุดหมายเพื่อชื่นชมความงดงาม(?)
จากหยดน้ำตาที่กลั่นจากท้องฟ้า
หยดลงมาเพื่อให้แผ่นดินที่ร้อนรนด้วยเพลิงกิเลศของมนุษย์ ได้เย็นฉ่ำ
สรรพสิ่งน้อยใหญ่ก็ได้ผลประโยชน์นี้ไปด้วย
แต่น่าแปลกที่ความงดงามขนาดนี้ยังโดนก่นด่าอยู่บ่อยๆ
แต่ก็คงต้องปล่อยให้มันล่องลอยไปเหมือนควันบุหรี่ชั้นเลวที่ดูดอยู่ในตัวนี้ละมั๊ง
หมดธุระในการชื่นชมความงามและตะบันสาธยายให้ผู้อ่านรับฟัง
ก็ถึงเวลานิทราเสียที
นิทรายามราตรี มีเสียงดนตรีของสายฝน
โคตรมีความสุข
Tags: