สงสัยวันนี้จะฟาล์วเหมือนเคย

ผมคิดในใจพลางเดินปาดเหงื่อที่ซึมลงมาตามใบหน้า อากาศร้อนอบอ้าวแบบนี้อีกซักพักฝนคงตก
เป็นอีกวันที่เซลล์ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างผมต้องเดินเข้าออกตามบ้านต่างๆในหมู่บ้านจัดสรรแถบชานเมือง
และวันนี้ก็คงเหมือนหลายวันที่ผ่านมา คือต้องกลับไปทั้งๆที่ยังขายไม่ได้ซักชิ้น
ในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้เข้าใจว่าเป็นเรื่องยากในการตัดสินใจซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยแบบนี้
เดิมทีก่อนจะมาเป็นเซลล์แมนผมก็คิดว่าสินค้าพวกนี้ก็เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยไว้หลอกขายแม่บ้านอยู่แล้ว
แต่บัณฑิตจบใหม่อย่างผมไม่มีทางเลือกมากนักสำหรับงานในยุคนี้
และผมคิดว่าการมาขายเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบนี้ยังดีกว่างานขายประกันซะอีก

 

เอาบ้านนี้ล่ะวะ ถ้าไม่ได้หลังนี้ก็กลับ

            กด กริ่งหน้าบ้านแล้วยืนรอ
ฝนเริ่มลงเม็ดบางๆลงมาแล้ว
อย่างน้อยถ้าบ้านนี้ขายไม่ได้ก็ยังได้อาศัยหลบฝนถือว่าไม่เสียเที่ยวซะที
เดียว
เงยหน้ามองท้องฟ้าที่เริ่มปกคลุมด้วยเมฆดำสนิท
ดูท่าคงจะไม่ใช่ฝนตกธรรมดาซะแล้ว
หันกลับมามองที่ตัวบ้านทำเอาผมต้องชะงัก
ใบหน้าซีดขาวแต่ยังมีเค้าของความสวยลอยอยู่ห่างจากหน้าผมไม่ถึงหนึ่งฟุตกั้น
กลางด้วยลูกกรงประตู
ผมรวบรวมสติอยู่ครู่หนึ่งจึงเริ่มบทสนทนาก่อน
สวัสดีครับคุณนาย
ที่บ้านคุณนายมีเตาไฟฟ้าใช้รึยังครับ ตัวนี้นี่ใช้ดีมากเลยนะครับ ทั้งปิ้ง ย่าง
ทอด ทำได้ในตัวเดียว........

ผมร่ายสรรพคุณสินค้าในแบบที่เซลล์แมนควรจะทำ
สิ้นประโยคของผมคุณนายที่ทำท่าทางเฉยชาฟังจนจบก็ตอบกลับมาว่า
เชิญเข้ามาด้านในก่อนดีกว่าค่ะ ยืนคุยตรงนี้จะเปียกฝนเอาสิ้นเสียงคุณนายประตูเหล็กก็เลื่อนเปิดเชื้อเชิญให้ผมเข้าไปในตัวบ้าน
ผมนึกขำในใจประตูบ้านจัดสรรเล็กๆแบบนี้ใช้ระบบอัตโนมัติด้วย คุณนายเดินนำผมเข้าไปในตัวบ้าน
ทันทีที่ก้าวเข้าตัวบ้านผมรู้สึกได้ถึงความอึดอัดแต่อาจเป็นเพราะอากาศภายนอกตอนนี้ร้อนอบอ้าว
บ้านของคุณนายเป็นบ้านจัดสรรชั้นเดียวที่ตกแต่งค่อนข้างสวย
มีมุมรับแขกเล็กๆที่คุณนายเชิญให้ผมเข้าไปนั่ง ผนังแต่ละด้านเต็มไปด้วยภาพเขียนเลียนจิตรกรชื่อดัง
ผมมักสังเกตรสนิยมของลูกค้าแบบนี้เสมอ
เพื่อเป็นประโยชน์ในการหาวิธีและคิดกลยุทธ์ในการขาย วันนี้โชคน่าจะเข้าข้างผม
ค่าคอมมิชชั่นที่ได้จากสินค้าตัวนี้คงพอให้ผมได้เลี้ยงชีวิตต่อไปอีกสองสามวัน
ผมกล้าพูดได้เลยว่าไอ้เตาไฟฟ้าเครื่องนี้ราคาจริงๆของมันน้อยกว่าค่าคอมมิชชั่นของผมด้วยซ้ำ
สมัยมาทำงานใหม่ๆผมทำใจให้หลอกขายสินค้าพวกนี้กับลูกค้าไม่ได้ แต่เวลาผ่านไปเพื่อความอยู่รอดผมจึงต้องตัดสามัญสำนึกเรื่องนั้นทิ้งไป

 

ทานน้ำอะไรดีคะ?

เสียงของคุณนายเจ้าของบ้านเรียกสติผมกลับมาอีกครั้ง ผมตอบรับและเริ่มจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับสาธิตการใช้สินค้า
เสียงฝนกระหน่ำลงมาเหมือนจะตกให้หลังคาบ้านแถบนี้ถล่ม คุณนายเดินออกมาพร้อมแก้วน้ำสองแก้วกับขนมหนึ่งจาน
ผมเพิ่งสังเกตว่าคุณนายเป็นผู้หญิงที่มีหน้าตาสวยทีเดียว
ทั้งหุ่นก็ไม่แพ้นางแบบตามหน้าหนังสือที่เราเห็นกันอยู่บ่อยๆ นี่ผมคิดอะไรเนี่ย
อย่างน้อยตอนนี้ผมต้องตั้งใจขายไอ้เตาไฟฟ้าเครื่องนี้ให้ได้เพื่อความอยู่รอด
ขืนคุณนายสังเกตเห็นแววตาเจ้าชู้ของผมมีหวังได้ชวดเป็นแน่
หนำซ้ำยังอาจโดนไล่ตะเพิดออกจากบ้านไม่ทัน
ผมเตือนสติตัวเองพลางเริ่มบรรยายสรรพคุณจริงบ้างไม่จริงบ้างให้คุณนายฟัง
คุณนายนั่งฟังนิ่งเงียบไม่แสดงสีหน้าออกมาว่าพอใจหรือไม่

 

เปรี้ยง!

เสียงฟ้าผ่าดังสนั่นหวั่นไหว ผมสะดุ้งเล็กน้อยผิดกับคุณนายที่นั่งนิ่งราวกับว่าไม่ได้ยินเสียงฟ้าผ่าเมื่อสักครู่
ผมยอมรับอยู่ในใจว่าคุณนายคนนี้นอกจากท่าทางจะแข็งทื่อแล้วใจยังแข็งเหมือนหินจริงๆ
ดูท่าวันนี้ความหวังที่จะขายของให้คุณนายคงพลาด
ผมตัดสินใจเริ่มทำการสาธิตสินค้าต่อด้วยความหวังที่เลือนราง
คุณนายนั่งนิ่งฟังผมเหมือนเดิมไม่มีทีท่าว่าจะขยับ
ผมอธิบายไปพลางสังเกตท่าทีของคุณนาย
จู่ๆคุณนายก็เงยหน้าขึ้นมองผมแบบกะทันหันเล่นเอาผมแทบหงายหลัง
แววตาของคุณนายแดงก่ำเหมือนคนผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
คำพูดของคุณนายออกจากปากแบบเรียบเฉยว่า
ตกลงค่ะ ชั้นซื้อ
ผมได้ยินคำตอบของคุณนายก็โล่งใจคิดว่ายังไงสองสามวันนี้ก็มีเงินกินข้าวและ
ที่สำคัญผมจะได้ออกไปจากบรรยากาศที่ดูจะอึดอัดขึ้นเรื่อยๆแบบนี้ซักที
แล้วสายตาของผมก็หันไปเห็นภาพที่ทำให้ผมถึงกับเสียวสันหลังวูบ
กระจกเงาบานใหญ่ที่แขวนอยู่หน้าห้องน้ำด้านหลังคุณนายสะท้อนภาพของผม
แต่ไม่มีเงาของคุณนายในนั้น ผมเริ่มกระสับกระส่าย
เหงื่อไหลทั้งๆที่อากาศเย็น
คุณนายยังคงนั่งก้มหน้าเหมือนเดิมและเริ่มร้องไห้สะอื้น
เลือดเม็ดสีแดงจนเกือบดำหยดลงที่พื้น
ใจคอผมยิ่งเริ่มไม่ดีแต่ยังทำใจดีสู้เสือถามคุณนายไปว่า
คุณนายเป็นอะไรรึเปล่าครับ?ตอนนี้ในหัวของผมมีแต่ความสับสนเต็มไปหมด  คุณนายเงยหน้าขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าที่ซีดลงยิ่งกว่าเก่า
เลือดไหลออกมาไม่หยุดจากหัวและตาทั้งสองข้าง
คุณนายจ้องหน้าผมด้วยแววตาที่ผมไม่มีวันลืม
ผมกระเสือกกระสนดันตัวเองถอยออกห่างจากคุณนายแต่ร่างกายก็แทบไม่มีแรง แล้วไฟในบ้านก็ดับลง

 

เปรี้ยง!

เสียงฟ้าผ่าคราวนี้ทำ ให้ผมแน่ใจยิ่งขึ้นไปอีก
ชั่ววูบที่แสงลอดเข้ามาในบ้านทำให้ผมเห็นภาพของคุณนายที่เคยมองว่าสวย
กลายเป็นร่างที่ซีดเผือดจนเห็นแนวเส้นเลือด
ดวงตาขาวโพลนไม่มีวี่แววของตาดำ
เส้นผมบนหัวเหลือติดอยู่ไม่กี่กระจุก
ผมสติแตกจนอยากจะกรีดร้องแต่ลืมวิธีที่จะเปล่งเสียงออกมา
ทั้งผมและขนในร่างกายลุกจนผิวหนังตึง
แสงของฟ้าแลบเป็นระยะทำให้ผมมองเห็นร่างเบื้องหน้าลุกขึ้นยืนและเคลื่อนตัว
เข้ามาหาผมเป็นภาพสโลโมชั่น
นะโมตัสสะ
ภะคะวะโต.....สังโฆ ทัมโมหลหด ทิรหกิหกบิห......
บทสวดมนต์ในใจที่ไม่สามารถจับใจความได้
ผมควานหาทางหนีไปตามแสงที่ลอดเข้ามาตามจังหวะฟ้าแลบไปจนถึงประตู
ผมออกแรงบิดอยู่ครู่หนึ่งก็สามารถเปิดประตูออกได้
ทันทีที่เปิดประตูออกก็เจอร่างที่ผมไม่อยากจะเจอที่สุดตอนนี้ยืนขวางหน้าอยู่ผมตะลึงจ้องหน้านั้นไม่รู้เป็นเวลานานเท่าไหร่
ภาพสุดท้ายที่เห็นคือร่างนั้นพุ่งเข้าใส่ตัวผมอย่างรวดเร็ว

 

ผมตื่นขึ้นอีกครั้ง

นี่ผมหลับไปนานเท่าไหร่ แล้วตอนนี้ผมอยู่ที่ไหน สลัดความงัวเงียออกจากหัวและเริ่มลำดับเหตุการณ์ ใช่! ผมมาขายสินค้า
และผมโดนผีหลอกในบ้าน บ้าน
! ตอนนี้ผมอยู่ในบ้านหลังนั้น
แต่ตอนนี้ภายในบ้านมีสภาพต่างจากตอนที่ผมเข้ามา
เฟอร์นิเจอร์ในบ้านเต็มไปด้วยฝุ่นและหยากไย่ กระจกทุกบานแตกร้าว
เศษฝ้าหล่นลงมาอยู่ที่พื้น เงยหน้าขึ้นจากพื้นก็เจอกับสิ่งที่ทำให้ผมชาไปทั้งตัว
มันเป็นภาพของคุณนายอยู่บนหิ้งที่เหมือนหิ้งของพ่อผม ผมไม่ได้ฝันไปแน่นอน
ผมโดนผีหลอกจริงๆ
มองดูที่หิ้งเห็นธูปยังคงเหลืออยู่จึงหยิบขึ้นจุดหนึ่งดอกพร้อมพูดกับคุณนายในใจว่า


คุณนายครับ เรื่องที่คุณนายหลอกผมนี่ผมไม่ติดใจเอาความละกัน
แต่ค่าเตาไฟฟ้าของผมยังไงช่วยหาวิธีติดต่อญาติหรือใครก็ได้มาจ่ายให้ผมด้วยละกันนะครับ

Views: 270

Replies to This Discussion

ฮะ ฮะ
ขอบคุณที่อุตส่าห์เข้ามาดูครับ
โห สมัยนั้นเลวร้ายขนาดนั้นเลยเหรอครับ ดีนะรอดมาจากสมรภูมิได้
เยี่ยม!!!! เชื่อละว่าเกิดมาเพื่อขาย

อื่มมมมยังจะไปทวงตังเค้าอีกน่ะนั่น ตึง!!!!
ตอนแรกไม่รู้จะจบยังไง เกือบแย่นะ

All about TiNAPUS's design said:
เยี่ยม!!!! เชื่อละว่าเกิดมาเพื่อขาย

อื่มมมมยังจะไปทวงตังเค้าอีกน่ะนั่น ตึง!!!!
ช่างกล้า...เด๋วก็ได้เงินจากปากผีหรอก กุ๊ก กุ๊ก กู๋
อิอิ

RSS

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service