
มีคนถามผมเรื่อยๆ ว่า ควรใช้แฟลชแบบไหน โดยเฉพาะถ้าต้องการซื้อมาใช้จัดไฟถ่ายภาพอย่างที่ผมทำ ว่าต้องซื้อแฟลชราคาแพงๆ หรือเปล่า ต้องมีฟังก์ชั่นอะไรบ้างถึงจะพอ อะไรประมาณนี้
ก่อนอื่น เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เราจะเอาแฟลชไปใช้งานอะไรบ้าง ถ่ายทั่วไป ถ่ายงาน events ที่ต้องการความคล่องตัว หรือว่าต้องการเอามาจัดไฟโดยเฉพาะ
ถ้าเราต้องการแฟลชมาใช้ถ่ายงานที่ต้องการความรวดเร็วเช่น งาน events ที่งานจะดำเนินไปเรื่อยๆ เราก็ต้องใช้แฟลชที่ระบบ TTL ที่ใช้ได้เต็มระบบกับกล้องที่เราใช้ ซึ่ง TTL ของกล้องแต่ละค่ายก็มีระบบของตัวเอง Canon, Nikon, Sony ฯลฯ แต่ละค่ายไม่เหมือนกันสักค่าย
ดังนั้น ถ้าต้องถ่ายในสถานการณ์แบบนั้น ความคล่องตัวของระบบ TTL เป็นสิ่งที่ควรจะมีเป็นอย่างยิ่ง เพราะแฟลชจะคำนวนค่าความแรงที่แฟลชจะยิงแสงออกไปให้เรา ซึ่งก็จะช่วยให้เราทำงานได้ทันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทันท่วงที
ไม่มีใครมานั่งรอให้เราปรับค่าแสงให้พอเหมาะก่อนแน่ๆ ครับ จะมาบอกว่า
“ท่านประธานครับ รอผมห้านาทีก่อนนะ ขอผมจัดไฟก่อนแล้วท่านค่อยเปิดแชมเปญนะครับ”
ไม่ก็
“อย่าเพิ่งยิงตัวประกันๆ ขอผมเข้าไปจัดแสงก่อนนะ เดี๋ยวรูปลงข่าวฆาตกรรมแล้วคุณจะดูไม่หล่อนะครับ”
อันนี้เป็นไปไม่ได้แน่นอน
แต่ถ้าเราจะถ่ายรูปสินค้า รูป portrait และการถ่ายรูปที่เรามีเวลาในการเตรียมตัว สำหรับผมแล้ว ผมจะใช้ระบบแฟลชแบบ M (Manual) ที่พอเราจัดไฟที่ความแรงเท่าไหร่แล้ว ไม่ว่าเราจะกดชัตเตอร์กีครั้งๆ ความแรงของแฟลชก็จะเท่ากันทุกครั้ง เราจะถ่ายจากตรงไหนก็ได้ ความสว่างในบริเวณที่เราต้องการก็จะสว่างเท่าเดิมเสมอ
ความแน่นอนเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับงานประเภทนี้ครับ
เอาละ พอเรารู้แล้วว่าแฟลชแบบที่เราต้องการต้องมีคุณสมบัติแบบไหน เรามาเข้าเรื่องการเลือกแฟลชกันเลย คำแนะนำของผมก็คือ
“ถ้าจะซื้อแฟลชตัวแรก (หรือตัวต่อๆ ไปด้วยถ้าไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณ) อยากแนะนำให้ซื้อแบบล่าสุดของค่ายกล้องของเรา ให้มีระบบ TTL ที่ใช้กับกล้องของเราได้เต็มระบบ และที่สำคัญก็คือ ควรปรับจาก TTL ไปเป็นการปรับความแรงในโหมด M ได้ด้วย”
เพราะเราจะได้เอาแฟลชตัวนี้ไปใช้ถ่ายรูปได้ทั้งสองแบบที่ว่ามาข้างบน ถ้าเป็น Canon ผมว่า 580EX2 เหมาะที่สุด สำหรับ Nikon SB-900 ไม่ก็ SB-800 (ถ้ายังหาได้) เป็นทางเลือกที่เหมาะสมครับ ค่ายอื่นนอกจากนี้ผมไม่ค่อยสันทัด ถ้าใครเข้ามาเสริมได้จะขอบคุณมากครับ
แต่สำหรับแฟลชตัวที่สอง สาม สี่ ห้า เราจะซื้อแบบเดียวกับที่เราซื้อตัวแรกได้ก็เป็นเรื่องดี (แต่มันจะเปลืองเงินหน่อยนะครับ) แต่ถ้าตั้งใจจะเอามาจัดไฟซึ่งใช้แฟลชโหมด Manual เราก็อาจจะหาแฟลชที่ไม่ต้องมีระบบ TTL มาใช้ก็ได้
“ที่สำคัญทีสุดสำหรับการเลือกแฟลชเพื่อจัดไฟถ่ายก็คือ แฟลชตัวนั้นต้องปรับความแรงของแฟลชในโหมด M ได้ คือแทนที่จะยิงได้แค่แบบเต็มกำลัง แฟลชตัวนั้นต้องปรับลดความแรงเป็น 1/2, 1/4, 1/8 1/16 อะไรพวกนี้ได้ด้วย”
เพราะเราต้องการควบคุมความสว่างที่จะตกไปที่ subject ของเรา ถ้าไม่สามารถปรับความแรงได้นี่จะเป็นปัญหากับการทำงานมากพอสมควรเชียวครับ
อีกเรื่องที่ควรเอามาพิจารณาก็คือ แฟลชตัวนั้นควร (อย่างยิ่ง) ที่จะต้องมีช่อง PC sync สำหรับเสียบสายสั่งแฟลชได้ด้วย และควรจะมีระบบตาแมวที่พอแฟลชตัวอื่นยิงวาบ แฟลชตัวนี้ก็สามารถยิงตามได้ด้วยครับ
แฟลชพวกนี้มีเยอะแยะมาก แฟลชรุ่นเก่าๆ ที่มีคุณสมบัตินี้มีหลายรุ่น และไม่จำเป็นต้องเป็นยี่ห้อเดียวกับกล้องด้วยนะครับ ราคาก็ไม่แพง ส่วนใหญ่จะเป็นหลักพันทั้งนั้น
แฟลชที่แนะนำสำหรับการนี้ก็พวก SB-80DX, SB-26, Vivitar 285HV สามตัวนี้เป็นพิมพ์นิยมที่สุดครับ แต่เพราะว่ามันเป็นแฟลชที่เก่าแล้ว การหาซื้อก็ต้องซื้อมือสองเอา ทำให้เสี่ยงกับเรื่องอาจถูกย้อมแมวได้ ข้างนอกงี้ใหม่กิ๊กเชียว ข้างในอาจถูกผ่ามาแล้วก็ได้ ยกเว้น 285HV นะครับ ตัวนี้อาจจะยังพอหาซื้อของใหม่ได้อยู่
ถ้าอยากได้ของใหม่แล้วหาซื้อในเมืองไทยไม่ค่อยได้ ลองสั่งซื้อจากเมืองนอกทางเน็ตดูก็ได้ครับ
ที่น่าสนใจก็มี
LumoPro LP120 Manual Flash
Cactus KF36 Full Manual Adjustable Flash
เข้าไปดู specification ก่อนตัดสินใจนะครับ แฟลชพวกนี้ราคาไม่แพง แต่การสั่งเข้ามาก็ต้องลุ้นหน่อยว่าจะโดนภาษีหรือเปล่า ถ้าโดนจะโดนเท่าไหร ตรงนี้ผมตอบให้ไม่ได้ครับ
- ถ้าต้องการรู้อะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องแฟลช เขียนถามเอาไว้ใน comments นะครับ แล้วจะมาเขียนเพิ่มเติมคราวหน้าครับ
บทความโดย
Songvut Kositarut