ล้วงรหัสลับดาวินชี ทะลวงดวงตาโมนาลิซา

 

ภาพวาดโมนาลิซา - ในดวงตาคู่นี้อาจมีบางสิ่งซ่อนอยู่
..................................................................................

นักอ่านหลายร้อยล้านคนเคยอ่านนิยาย และอีกหลายล้านคนได้ดูภาพยนตร์ที่ "ฉาว" ที่สุดในศตวรรษกับรหัสลับดาวินชี หรือ The Da Vinci Code ผลงานสุดตะลึงของแดน บราวน์ ที่ทำเอาผู้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์โมโหไปตามๆกัน กับเรื่องราวที่ว่า พระคริสต์แต่งงาน และมีบุตรสืบเชื้อสายมาจนถึงปัจจุบัน และผู้ที่ทราบความลับนี้ ต่างเก็บงำเงียบมาตลอด 2 สหัสวรรษ แต่ก็มีภราดรที่ทราบเรื่องบางท่านได้แอบซ่อนความลับที่สำคัญที่สุดในโลกนี้ไว้ในงานศิลปะของศิลปินที่เลื่องชื่อที่สุดคนหนึ่งในโลก ลีโอนาร์โด ดาวินชี แต่แม้จะมีผู้โกรธเกรี้ยวแดน บราวน์ จำนวนมาก ท้ายที่สุดแล้วก็เข้าใจกันดีว่านิยายก็เป็นเพียงนิยาย รหัสลับดาวินชีจึงถูกปัดไปไว้ในหมวดหมู่ของคำว่า "จินตนาการที่เพ้อฝัน"

แต่ท่านผู้อ่านจะคิดอย่างไร หรือคนนับล้านทั่วโลกจะตกใจไหม หากได้มีการค้นพบความจริงแล้วว่าในภาพสุดรักของลีโอนาร์โด ดาวินชี คือภาพแม่งามโมนาลิซานั้น มี "ความลับ" ที่ซ่อนอยู่มานาน 5 ศตวรรษ และมันกำลังจะถูกเปิดเผย

รหัสลับดาวินชีของแท้มีอยู่จริง และกำลังรอคอยให้คนในรุ่นเราได้ไขปริศนา

สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนักพากันตีพิมพ์ข่าวอันสุดตื่นเต้นที่สุดในวงการศิลปะ และประวัติศาสตร์นี้ หลังจากที่ซิลวาโน วินเซติ ประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยมรดกทางวัฒนธรรมของอิตาลี ซึ่งเป็นนักประวัติศาสตร์ศิลป์ชื่อดังด้วย ประกาศการค้นพบอันสุดแสนมหัศจรรย์เมื่อวันเสาร์ที่ 11 ธันวาคมนี้ ว่า เมื่อได้ตรวจสอบลึกเข้าไปในดวงตาอันแสนเร้นลับของโมนาลิซา ก็ได้พบว่าดวงตาทั้ง 2 ข้างของเธอมีตัวอักษรหรือไม่ก็ตัวเลขซุกซ่อนอยู่
หากมองเผินๆ ลูกตาดำของโมนาลิซาเป็นสีเข้ม โดยเฉพาะในรูม่านตานั้น เป็นสีที่มืดเอาการอยู่ และนั่นอาจจะเป็นเหตุที่ทำให้ทุกคนมองข้ามไป แม้ว่าจะมีการตรวจสอบโมนาลิซากันมาแล้วหลายรอบ ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆสารพัน ไม่ว่าจะเป็นการเอกซเรย์ การสแกน การตรวจด้วยรังสีอินฟราเรด แต่ไม่เคยมีใครมองลึกลงไปในดวงตาของเธออย่างจริงจัง


 
ซิลวาโน วินเซติ
.......................


แหม นี่ถ้าเหล่าประวัติศาสตร์ศิลป์ของอิตาลี เคยดูละครเรื่อง "บ้านทรายทอง" ก็อาจจะหาความลับได้เจอเร็วกว่านี้ ถ้าได้ฟังเพลงที่ว่า "หากฉันเพ่งมองตาเธอให้ลึกหน่อย อย่างน้อย อาจทำให้ต้องเฉลียวใจ..." แต่แม้จะช้าไปนิด แค่เกือบๆ 500 ปี ตอนนี้ท่านชายกลาง เอ๊ย...คุณพี่วินเซติและทีมงานก็ได้เฉลียวใจกันแล้ว

เกริ่นมาซะนาน ท่านผู้อ่านอาจจะรำคาญแล้วว่า แล้วมันมีอะไรในดวงตาของแม่นางโมนาลิซากันเล่า...แหม...อยากรู้เรื่องเด็ดก็ต้องใจเย็นๆกันหน่อยค่ะ ไทยรัฐ ซันเดย์ สเปเชียล โดยทีมงานต่วย’ตูนไม่ทำให้ท่านผู้อ่านผิดหวังอยู่แล้ว เอาล่ะ มาเฉลยกันเลยดีกว่า พระเอกตัวจริงที่มีชื่อง่ายๆว่า "แว่นขยาย" ได้มองเข้าไปในดวงตาอันลึกเร้นของโมนาลิซา แล้วก็พบว่า ลีโอนาร์โด ดาวินชี ได้แอบเขียนอะไรบางอย่างไว้ ซึ่งตอนนี้ทีมงานของซิลวาโน วินเซติ อ่านออกมาได้หลายอย่าง

ที่แน่ๆในดวงตาข้างขวามีสัญลักษณ์ที่ "คล้าย" จะเป็นตัวอักษรแอลวี (LV) ซึ่งตรงนี้ซิลวาโน วินเซติ ฟันธงว่า ไม่ต้องคิดว่าคล้ายหรือไม่คล้ายกันล่ะ แต่มันต้องเป็นแอลวีแน่ๆ เพราะน่าจะเป็นลายเซ็น หรือชื่อย่อของลีโอนาร์โด ดาวินชี เองนั่นแหละ

ส่วนดวงตาข้างซ้ายนั้น เมื่อมองลึกลงไป ก็พบว่ามีการเขียนสัญลักษณ์บางอย่างเอาไว้ด้วยเหมือนกัน แต่อันนี้นี่ แหละที่ยากเย็นแสนเข็ญ เพราะตีความกันไม่ค่อยออกว่า ลีโอนาร์โด ดาวินชี ตั้งใจจะ "ซ่อน" อะไรไว้แน่ เพราะบางคนก็อ่านว่าเป็นตัวอักษรซีอี (CE) แต่ บางคนก็บอกว่า บ้าหรือเปล่าว่า มันคือตัว (B) ต่างหาก

แต่ไม่จะเป็น CE หรือ B ก็แปลความหมายไม่ได้อยู่ดีว่าลีโอนาร์โด ดาวินชี จะสื่อถึงอะไร

ไม่เพียงแต่ในดวงตา แต่เมื่อมองไปรอบๆ ภาพแล้ว ก็ยังพบสัญลักษณ์อื่นอีก คือบริเวณฉากหลังที่เป็นสะพาน ตรงบริเวณที่เป็นส่วนโค้งนั้น คนที่ส่องกล้องดูก็ถกกันไม่เลิกอีกว่า มันเป็นตัวอักษรบวกกับตัวเลข คือแอล 2 (L2) หรือว่ามันจะเป็นตัวเลขล้วนๆ คือเลข 72 กันแน่ (แต่ที่แน่ๆ หากใครจะซื้อหวย 72 ในงวดที่จะถึงนี้ก็ไม่ว่ากัน และถ้าจะซื้อ ก็อย่าลืมนึกถึงลีโอฯกันหน่อย)

การที่ทีมงานของซิลวาโน วินเซติ ไม่แน่ใจในสิ่งที่เห็นว่าเป็นตัวอักษรอะไร หรือเป็นตัวเลขกันแน่ ก็เป็นเรื่องน่าเห็นใจ ซึ่งซิลวาโน วินเซติ เองก็บอกว่า แหม.. แหม..แหม..โมนาลิซาอยู่มาตั้ง 5 ศตวรรษแล้ว จะให้ภาพทุกภาพ ฝีแปรงทุกฝีแปรงของลีโอนาร์โด ดา–วินชี ยังคมชัดเหมือนเดิมจะเป็นไปได้ยังไง ของมันก็ต้องเก่าต้องแก่ไปตามกาลเวลา เหมือนยายแก่ที่บ้านนั่นปะไร ที่สูงวัยเข้าเมื่อไหร่ เป็นได้เข้าใจยากขึ้นทู้ก...ที (อันหลังนี้ซิลวาโน วินเซติ ไม่ได้ว่าเอาไว้ แต่ผู้เขียนแอบโม้เสียเอง)

อย่างไรก็ตาม แม้เราจะรู้กันดีว่า ภาพวาดโมนาลิซานี้เป็นผลงานสุดรักสุดหวงของลีโอนาร์โด ดาวินชี แต่ด้วยกาลเวลาที่ผ่านมานาน แถมภาพนี้ยังถูกเปลี่ยนมือไปหลายหน ทั้งเปลี่ยนมือด้วยความตั้งใจ คือการขายต่อ การยกให้พิพิธภัณฑ์ และการเปลี่ยนมือแบบไม่ตั้งใจ คือการถูกมือดีมาฉกไปนอนดูเล่นมาระยะหนึ่ง เหตุการณ์ทั้งหมดทั้งมวลนี้ บวกกับอายุอานามของป้า (หรือทวด) โมนาฯก็ทำให้เกิดรอยย่นรอบดวงตา...เอ๊ย...เกิดความเสียหายในภาพขึ้น และทำให้มีศิลปินชั้นหลังๆ มาช่วยทาครีมบำรุง ซ่อมแซมตกแต่งภาพในบางส่วน ทำให้ โมนาลิซายังคงความงามแบบสาวสองพันปีอยู่จวบจนทุกวันนี้ ก็เลยมีผู้ตั้งข้อสงสัยว่า จะเป็นไปได้หรือเปล่าที่สัญลักษณ์ที่เพิ่งพบเหล่านี้ ไม่ใช่รหัสลับดาวินชีอะไรหรอก แต่เป็นเพียงความบังเอิญ หรือความผิดพลาดของผู้ที่เคยมาซ่อมแซมภาพเท่านั้นกระมัง

งานนี้ กลุ่มที่ส่องจ้องตาแม่งาม โดยเฉพาะซิลวาโน วินเซติ เถียงคอเป็นเอ็นว่า ไม่จริ๊ง..ไม่จริง... ไอ้สัญลักษณ์ที่เจอน่ะ เป็นของแท้จากปลายพู่กันของลีโอนาร์โด ดาวินชี แหงๆ และไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความมั่วหรือวาดผิดแต่ประการใด แต่ต้องเป็นความตั้งใจของลีโอฯนั่นแหละ เพราะเราก็รู้ดีว่า ลีโอฯเป็นศิลปินขี้เล่น ชอบซ่อนโน่นซ่อนนี้ ฉันจะตีก้นเธอ... อุ๊บ...ส์...มั่วอีกแล้ว สรุปว่า ลีโอนาร์โด ดาวินชี มักจะแอบซ่อนสิ่งละอันพันละน้อยไว้ในผลงานของเขาอยู่บ่อยๆ แล้วทำไมร่องรอยที่ไม่ใช่ตีนกา แต่อยู่ในดวงตาของโมนาลิซา จึงจะไม่ใช่ "สารลับ" ที่ถูกส่งข้ามศตวรรษมาจากลีโอนาร์โด ดาวินชี กันเล่า

และหากเราเชื่อกันอย่างนี้ ก็ยังมีปริศนาที่ตีไม่แตกว่า รหัสลับดาวินชีของแท้ที่ไม่ใช่นวนิยายของแดน บราวน์นี้ "สื่อ" อะไรกันแน่ เพราะลำพังแค่ ตัวอักษร และตัวเลขไม่กี่ตัว คงบอกอะไรไม่ได้ ดังนั้น แม้ตอนนี้เราจะได้รู้กันแล้วว่า รหัสลับดาวินชีมีจริง แต่คงอีกนานกว่าที่จะมีผู้ไขความลับอันดำมืดพอๆกับแสงสลัวในดวงตาของโมนาลิซาออกมาได้

หรืออาจจะหนักกว่านั้นว่า เราอาจจะไม่สามารถไขปริศนานี้ได้เลยตลอดไป!!!




เพราะหากอยากจะรู้ให้แน่ๆ คงต้องไปตามคนวาด คือลีโอนาร์โด ดาวินชี ซึ่งถึงตอนนี้ หากจะนั่งทางในไปถาม ก็คงตามไม่เจอซะแล้ว แต่คนสำคัญของเรื่องนี้อย่าง ซิลวาโน วินเซติ นั้น ดูเหมือนจะไม่ยอมแพ้ และน่าจะพยายามอย่างสุดหัวใจในการไขปริศนานี้ออกมาให้ได้ เพราะฉะนั้น ตอนนี้เราก็คงยังจะต้องรอซิลวาโน วินเซติ กันต่อไปก่อนว่าทีมงานของเขาจะสามารถหาอะไรเจอได้อีกบ้าง และถ้าประกาศการค้นพบเมื่อไหร่รับรองว่ากระฉ่อนโลกแน่นอน (และที่แน่กว่านั้นก็คือ ทีมงานต่วย’ตูนจะเกาะติดซิลวาโน วินเซติ แบบไม่ให้คลาดสายตาเลยทีเดียว เรียกว่า หากประกาศอะไรออกมาเมื่อไหร่ แฟนต่วย’ตูนก็จะได้รู้โดยพลันทันที ช้ากว่าคนอิตาลีนี้ด..ด..เดียว)

และอย่างที่บอกไว้ในตอนต้นว่า พระเอกของการไขความลับครั้งนี้คือแว่นขยาย (และบางคนอาจใช้กล้องจุลทรรศน์) แต่ก่อนที่แว่นขยายจะได้เป็นพระเอกเต็มตัว ก็เหมือนภาพยนตร์ลึกลับทั่วๆไป คือต้องมีผู้ช่วยพระเอกด้วย และงานนี้ ผู้ช่วยพระเอกที่โผล่ออกมาก่อนพระเอกก็คือ หนังสือเก่าแก่เล่มหนึ่งที่เพื่อนร่วมทีมของซิลวาโน วินเซติ คือลุยจิ บอร์เกีย เป็นผู้ค้นพบว่า ถูกซุกอยู่ในร้านขายของเก่าแห่งหนึ่ง

เมื่อลุยจิ บอร์เกีย ได้อ่านหนังสือเล่มนี้อย่างละเอียด ก็คงสะดุ้งโหยงเลยทีเดียวเชียวค่ะ เพราะในหนังสือที่ (เคย) ถูกลืมเล่มนี้ มีการเขียนถึง "สารลับ" ในดวงตาโมนาลิซา โดยผู้เขียนซึ่งตอนนี้ยังคงเป็นชายชุดดำ...เอ๊ย...เป็นนักเขียนนิรนามได้ระบุชัดลงไปเลยว่า มีสัญลักษณ์ขนาดเล็กถูกซ่อนไว้ในดวงตาของแม่งามข้ามศตวรรษคนนี้ และการค้นพบข้อเขียนที่ว่า ก็นำมาสู่การตรวจสอบอย่างจริงจังอีกครั้ง จนค้นพบสิ่งที่ไม่เคยพบ ซึ่งจะว่าไปแล้ว การตรวจคราวนี้ ก็เป็นการตรวจที่สุดแสนจะธรรมดาเหลือเกิน กับการใช้กล้องขยายภาพให้เป็นภาพขนาดใหญ่ พิเศษด้วยความละเอียดสูงเท่านั้น ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีเลิศเลอเหมือนในระยะหลังๆ ที่ชอบขนมากันชุดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสแกน เครื่องฉายรังสี จนคุณทวดโมนาฯแทบจะบอบช้ำไปหมดแล้ว

และการค้นพบด้วยวิธีการง่ายๆ คือ แค่ขยายรูป หรือที่นักประวัติศาสตร์ศิลป์ในทีมงานของซิลวาโน วินเซติ บอกว่า สำหรับคนตาดีๆ แต่เอาแว่นขยายจ้องตาโมนาลิซา ก็อาจจะเห็นแล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครเอะใจเท่านั้น ก็เป็นการตอกย้ำว่า สัญลักษณ์นี้ น่าจะมาจากฝีมือของลีโอนาร์โด ดาวินชี จริงๆ เพราะในช่วง 500 กว่าปีก่อนที่วาดภาพนี้ ก็ไม่ได้มีเทคโนโลยีอะไรมากนัก หากจะซ่อนตัวเลข หรือตัวอักษร ก็ต้องซ่อนกันง่ายๆแบบนี้นี่แหละ

การค้นพบแบบเส้นผมบังภูเขานี้ จึงเป็นเหมือนการการันตีว่า นี่เป็นข้อความของลีโอนาร์โด ดาวินชี แหงๆและทำให้เกิดความหวังขึ้นมาว่า ถ้าลงได้มีหนังสือโบราณเขียนถึงความลับอันยิ่งใหญ่นี้ไว้ ก็อาจจะเป็นไปได้ ที่จะมีหนังสือ หรือเอกสารโบราณอยู่ที่ไหนอีกสักแห่งบนโลกนี้ ที่เป็นเหมือนเครื่องถอดรหัส ซึ่งอาจจะบอกเราได้ว่า CE หรือ B และ L2 หรือ 72 หมายถึงอะไร และจะสามารถนำไปสู่การไขความลับที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ได้เหมือนที่แดน บราวน์ เคยจินตนาการเอาไว้ตั้งแต่ 7 ปีก่อนหรือไม่

ถึงตอนนี้ นักประวัติศาสตร์ศิลป์หลายคนเกิดอาการหลงใหลโมนาลิซามากขึ้นกว่าเดิม เพราะแต่แรกนั้น รอยยิ้มอันลึกลับและหาคำอธิบายได้ยากของเธอก็เต็มไปด้วยปริศนาที่น่าค้นหาอยู่แล้ว มาตอนนี้ ดวงตาอันเปี่ยมเสน่ห์ของเธอทำให้เราพบความลับที่น่าฉงนมากกว่า แล้วความหลงใหลจะไม่ มากขึ้นได้อย่างไร

แต่ก่อนที่ความลับทั้งหมดจะเปิดเผย ตอนนี้เราคงได้แต่ร้องเพลงรอ และฮัมเพลงนี้ไปพลางๆก่อน

"หากฉัน เพ่งมองตาเธอให้ลึกหน่อย อย่างน้อย อาจทำให้ต้องเฉลียวใจ..."

 

 

 

โดย: ต่วย’ตูน

ที่มา:  ไทยรัฐออนไลน์ 20 ธันวาคม 2553

Views: 2307

Reply to This

Replies to This Discussion

สิ่งที่ถูกซ่อนไว้

RSS

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service