
คอลัมนิสต์และผู้สื่อข่าวด้านสิทธิมนุษยชนของ The New York Times-หนังสือพิมพ์รายวันของอเมริกา เจ้าของ รางวัลพูลิตเซอร์ ถึง 2 ครั้ง
ในงานเขียน Half the Sky ผลงานเล่มล่าสุดของ นิโคลัส คริสตอฟ (Nicholas Kristof) คอลัมนิสต์และผู้สื่อข่าวด้านสิทธิมนุษยชนของ The New York Times-หนังสือพิมพ์รายวันของอเมริกา และยังเป็นเจ้าของ รางวัลพูลิตเซอร์ ถึง 2 ครั้ง เขาและ Sheryl WuDunn ภรรยาซึ่งเป็นชาวจีน-อเมริกันได้กล่าวไว้ในบางตอนของหนังสือว่า...
"ธุรกิจการค้าโสเภณีเด็กหรือค้าผู้หญิงเพื่อบำรุงความสุขทางเพศของผู้ชายนั้น นับเป็นความเสื่อมทางศีลธรรม เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยม ไม่แพ้การค้าทาสชาวแอฟริกันในศตวรรษที่ 18 และ 19 และไม่ต่างจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในศตวรรษที่ 20 การกระทำเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจและการเมืองของโลกมีปัญหา ไม่เพียงแต่ปัญหาเหล่านี้ แต่ยังมีปัญหาเรื่องความอดอยากในแอฟริกา ลัทธิการก่อการร้าย และภาวะโลกร้อน ปรากฏการณ์ที่ว่ามา มีสิ่งซ่อนเร้นหลายอย่างที่ผู้คนไม่รู้ มองไม่เห็น และไม่มีการรายงานออกมา ที่แย่กว่านั้น คือ การที่มนุษย์สร้างปัญหาให้เกิดขึ้น แล้วยังเพิกเฉยต่อปัญหาอย่างที่สุด ดังนั้น การค้ามนุษย์เพศหญิงเพื่อให้พวกเธอไปเป็นโสเภณี จึงเป็นความท้าทายอันยิ่งใหญ่ของศตวรรษนี้ และจะเป็นการต่อสู้เพื่อความเสมอภาคทางเพศของประเทศที่กำลังพัฒนา"
การเดินทางของนิโคลัสและภรรยาไปยังหลายประเทศเพื่อทำงานให้กับต้นสังกัด รวมถึงการเก็บข้อมูลในการทำงานเขียนประเภทสารคดี ทำให้ทั้งคู่ตกตะลึงกับความน่าสะพรึงกลัวที่มนุษย์กระทำต่อมนุษย์ด้วยกัน และประเด็นที่ทั้งคู่ให้ความสนใจเป็นพิเศษ คือเรื่องของความเท่าเทียมทางเพศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นการกระทำทารุณต่อสตรี ซึ่งถ่ายทอดเอาไว้ในหนังสือ Half the Sky มีเนื้อหาหลักอยู่ 3 ประเด็น คือ เรื่องของการกระทำทารุณทางเพศต่อสตรีในเรื่องของการค้าหญิงเพื่อไปเป็นโสเภณี, ความรุนแรงทั้งเรื่องฆาตกรรมและการข่มขืนที่มีเพิ่มมากขึ้น และเรื่องศีลธรรมของคนที่เป็นแม่
การเดินทางมายังประเทศกัมพูชา ทำให้นิโคลัสได้รับทราบข้อมูลการค้ามนุษย์บริเวณชายแดนของกัมพูชา เด็กหญิงหลายคนถูกญาติหรือคนในครอบครัวบังคับให้มาขายบริการทางเพศ เพื่อแลกกับเงินค่าตัวที่ทางซ่องจะจ่ายให้แก่ผู้ที่นำเด็กหญิงเหล่านั้นมาขาย นิโคลัสเข้าพักในโรงแรมที่เป็นกึ่งโรงแรมกึ่งซ่องที่เมืองปอยเปต สนนราคาที่พักเพียงคืนละ 8 ดอลลาร์สหรัฐ เขาเข้าพักที่นี่เพื่อพบกับเนธ-เด็กหญิงชาวกัมพูชา ซึ่งนิโคลัสคิดว่าอายุไม่น่าเกิน 14 ปี เธอถูกญาติขายให้กับเจ้าของซ่องและทำงานมา 1 เดือนแล้ว พรหมจรรย์ของเธอถูกขายให้กับผู้จัดการบ่อนกาสิโนคนไทยคนหนึ่ง ซึ่งต่อมาเสียชีวิตลงด้วยโรคเอดส์ และตอนนี้ค่าตัวของเนธ ราคาถูกแสนถูก ราวกับสินค้าแจกฟรี และเธอต้องขายบริการให้กับผู้มาซื้อบริการในละแวกนั้น
นิโคลัส ได้รู้จักกับเนธและมัมม์ซึ่งเป็นเด็กสาวที่ขายบริการอยู่อีกซ่อง หลังจากนั้นเขาและองค์กรสาธารณกุศลแห่งหนึ่งของสหรัฐ ได้วางแผนทำทีว่ามาซื้อบริการทางเพศกับสาวน้อยทั้งสองคน เขาจ่ายเงินเพื่อแลกอิสรภาพให้กับเด็ก จากนั้นเขาและคณะก็พาเด็กสองคนนี้ กลับสู่อ้อมกอดของบ้านที่พวกเขาจากมา และเรื่องราวของเด็กสองคนเป็นหนึ่งในหลากชีวิตและหลากเรื่องราวของมนุษย์เพศหญิงที่ได้รับการถ่ายทอดออกมาในหนังสือ Half the Sky
ในความเห็นของนิโคลัส เขาไม่อยากจะฟันธงลงไปเสียทีเดียว ว่าการค้ามนุษย์เพศหญิง คือสิ่งที่ท้าทายศีลธรรมที่สุดของศตวรรษนี้ ส่วนภรรยาของเขาได้กล่าวเสริมว่า "พอได้รับรู้มาว่ามีประชากรของโลกซึ่งเป็นผู้หญิงหายไป 60-100 ล้านคน จากจำนวนประชากรที่มีทั้งหมด พวกเราคิดว่ามันอาจจะน้อยเมื่อเทียบสัดส่วนในปริมาณและขนาดที่เป็นมหภาค แต่เราควรจะหันมาเปรียบเทียบว่าช่วงทศวรรษที่ 1780 มีการค้าทาสจากแอฟริกาไปยังทวีปอเมริกาเหนือและใต้ เป็นจำนวนถึง 80,000 คน ตอนนี้การค้ามนุษย์เพศหญิงบริเวณตะเข็บชายแดน สูงขึ้นเป็นหลายเท่าเมื่อเทียบสัดส่วนกับการค้าทาสสมัยก่อน ฉะนั้นเราควรจะใส่ใจกับตัวเลขส่วนต่างให้มากกว่าเดิม"

การเดินทางแห่งการตื่นอยู่เสมอ คือนิยามที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ในการเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ของนิโคลัสและภรรยา สำหรับนิโคลัส เป็นชาวโอเรกอน เติบโตมาท่ามกลางฝูงแกะและสวนเชอร์รี เป็นบุตรชายของนักวิชาการอิสระ ส่วนภรรยาเกิดในชนบทของนิวยอร์กซิตี้ เธอเป็นชาวจีน-อเมริกัน ที่ครอบครัวยังฝังรากแน่นกับวัฒนธรรมตะวันออก หลังจากกลายเป็นคู่แต่งงานหมาดๆ หนังสือพิมพ์ต้นสังกัด ได้ส่งบ่าวสาววัยหนุ่มวัยสาวคู่นี้ไปเดินทางและทำงานช่วงสั้นๆ เพื่อรายงานเรื่องราวที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ซึ่งไปถึงก่อนเหตุการณ์เมื่อปี 1989 จะอุบัติขึ้นเพียงไม่กี่วัน
"เราสองคนตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินเป็นอันมาก หลังเหตุการณ์นั้น ฉันและสามีเดินทางไปตามชนบทของจีน เราใช้เวลาปีหรือสองปี จนได้รับรู้ข้อมูลที่ไม่เคยรู้มาก่อน มีการฆ่าทารกเพศหญิงซึ่งเป็นประชากรของจีน จำนวนมากถึง 30 ล้านทารกหญิง นั่นแสดงว่ามีการหายไปของประชากรหญิงจีนถึง 30 ล้านคน และทุกสัปดาห์จะมีทารกเพศหญิงเสียชีวิต เหตุเพราะการสาธารณสุขที่ไม่ทั่วถึง"
นิโคลัส เล่าประสบการณ์ที่มีต่อการค้าโสเภณีเด็กบริเวณตะเข็บชายแดนกัมพูชา ว่าหมู่บ้านนอกเมืองพนมเปญ เด็กวัยรุ่นสาวบริสุทธิ์จะถูกนำมาขายประมูลราคา ตำรวจนอกจากจะไม่ช่วยแล้ว ยังมาปฏิบัติหน้าที่เพียงเพื่อทำให้เด็กสาวเหล่านี้ไม่กล้าหนี ถ้าหนีตำรวจจะไปตามจับเพื่อนำส่งคืนเจ้าของซ่อง เด็กหญิงที่นี่ต่างจากทาสในสมัยก่อน ตรงที่พวกเธอต้องจบชีวิตลงด้วยโรคเอดส์ ความจริงที่เขาพบเป็นเรื่องที่ท้าทาย และในฐานะนักข่าว เขาจึงอดที่จะเอาตัวเองเข้าไปยุ่งกับประเด็นนี้ไม่ได้ อย่างที่เห็นกันทุกวันว่าหน้าข่าวของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับจะชูประเด็นเรื่องการเมืองเป็นเรื่องหลัก และข่าวคือการนำเสนอข่าวในวันนั้นๆ และเรื่องสำคัญๆ ในโลกนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นในวันนั้นเสมอไป การสื่อสารประเด็นการค้ามนุษย์ จึงไม่ค่อยจะปรากฏเพื่อเป็นข่าวของสื่อกระแสหลัก ดังนั้นนิโคลัสจึงต้องเป็นตัวกลางที่จะกางและแผ่ให้เรื่องราวได้รับการถ่ายทอดออกไปยังผู้อ่านคอลัมน์หรือว่าหนังสือที่เขาเขียน แม้แต่เรื่องการที่มีเด็กสาวหลายคนขาดเรียนช่วงที่มีประจำเดือน ก็เป็นหัวข้อที่นำเสนอในบทความ
ภรรยาของเขามีความเห็นว่าในหลายประเทศเรื่องสิทธิสตรียังถูกเพิกเฉยและไม่ได้รับการเอาใจใส่ จึงมีปัญหาตามมา เช่น เรื่องการข่มขืนซึ่งเปรียบไปก็ไม่ต่างจากสงครามอีกรูปแบบหนึ่ง การเลือกปฏิบัติ การค้าประเวณี ความรุนแรงต่อสตรี รวมถึงการบริการด้านสุขลักษณะและการศึกษาที่ไม่ทั่วถึงและจำกัดสิทธิ นอกจากนี้ในหลายสังคม ยังไม่ยอมรับบทบาทของสตรีในการแสดงความคิดเห็น และยังมีการปฏิบัติต่อสตรีราวกับไม่ใช่มนุษย์ ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ขยายพรมแดนออกไปในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว กำลังพัฒนา และด้อยพัฒนา
Half the Sky ไม่เพียงนำเสนอข้อมูลเท่านั้น แต่ยังปลุกและเรียกร้องให้ทุกคนได้ยื่นมือออกมา ให้ช่วยกัน และให้ทุกคนอาสาออกมาช่วยเหลือสตรีเหล่านี้ เพื่อยุติปัญหาที่เกิดขึ้น นักเขียนทั้งสองบอกไว้ในหน้าแรกๆ ของหนังสือว่า ...ไม่ใช่แค่มือคู่นี้ แต่มันคือมือของหลายๆ คน เรารับสมัครพวกคุณ เพื่อร่วมและริเริ่มในการปลดปล่อยอิสรภาพแก่สตรี เปิดหัวใจคุณออกมา แล้วร่วมไปกับพวกเรา...นักเขียนทั้งคู่ไม่ต้องการให้ผู้อ่านไม่รู้สึกรู้สากับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่อยากให้มองข้ามปัญหาชีวิตอันไร้ความหวังของผู้หญิงในหนังสือ
นอกจากข้อมูลด้านสถิติและด้านอื่นแล้ว ทั้งสองคนยังให้ความใส่ใจด้านจิตวิทยาด้วย ทั้งคู่พยายามอย่างยิ่ง ในกรณีที่จะให้เกิดความช่วยเหลือจากผู้อ่านนั้น การช่วยเหลือต้องไม่พุ่งเป้าไปช่วยใครคนใดคนหนึ่ง แต่มันต้องเป็นการช่วยเหลือที่ลงไปสู่กระบวนการปัญหาทั้งระบบ
"การมองในแง่บวกก็กดดันการทำวิจัย เพราะผู้คนต้องการมีส่วนร่วมในสิ่งที่สำเร็จ และนี่เป็นเหตุผลหนึ่งว่าทำไม ผมและภรรยาต้องการแสดงให้เห็นว่าหลายเรื่องในหนังสือเล่มนี้ มันเป็นช่วงชีวิตที่สิ้นหวัง แต่มันเป็นไปได้ที่พวกเราจะทำให้มันต่างไปจากเดิม เราไม่ได้ต้องการทำให้ดูเหมือนว่าพวกเราจัดการอะไรบางอย่างอยู่ แต่เราต้องการให้ผู้อ่านใส่ใจกับปัญหาหลายๆ ปัญหา เราสำรวจและวิจัยจนค้นพบว่าสิ่งเหล่านี้มันแยกออกไปจากมนุษย์ไม่ได้ และหนังสือเล่มนี้จะทำให้มีผู้อ่านมากขึ้น และจากความใส่ใจนี้ ผมเชื่อว่ามันจะดีขึ้น"
Half the Sky จำหน่ายไปแล้วกว่า 3 แสนเล่ม มีการนำไปทำสารคดีเผยแพร่ทางโทรทัศน์เป็นเวลาถึง 4 ชั่วโมง และเนื้อหาในเล่มกำลังอยู่ระหว่างการทำเป็นวีดีโอเกม ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักอ่านรุ่นเยาวชน ชาวอเมริกันทั่วประเทศรู้จักหนังสือเล่มนี้ผ่านทางสโมสรนักอ่าน จากนั้นพวกเขาก็เรี่ยไรเงินบริจาค และติดต่อองค์การสาธารณกุศลในต่างประเทศเพื่อบริจาคเงิน กลุ่มหรือสโมสรนักอ่านนับเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการทำให้หนังสือเผยแพร่ออกไปในวงกว้าง รวมถึงช่วยเคลื่อนไหว สร้างเครือข่าย และกระตุ้นให้คนอื่นเข้ามามีส่วนร่วม

นิโคลัสได้เล่าถึงเนธและมัมม์ว่าหลังจากที่สองเด็กสาวถูกเขาไถ่ออกมาจากซ่อง มันก็ไม่ง่ายเลยที่จะตัดขาดจากการถูกขาย เพราะหลังจากนั้นมัมม์ก็กลับไปเป็นโสเภณีอีกครั้ง เพราะเธอติดยาบ้า และก็ได้รับอิสรภาพคำรบสองหลังจากรัฐบาลเข้าทำลายหลายซ่อง เมื่อได้รับอิสรภาพ เธอแต่งงานกับลูกค้าคนหนึ่งที่เคยมาซื้อบริการ ปี 2008 นิโคลัสกลับไปกัมพูชาอีกครั้ง เพื่อพบกับมัมม์ เธอบอกกับเขาว่าเธอเป็นแม่บ้าน และได้ทิ้งอดีตไว้เบื้องหลัง สำหรับเนธติดเชื้อเอดส์ และคิดว่าชีวิตคงไม่มีอะไรเหลือแล้ว แต่หลังจากได้เข้ารับการรักษา เธอก็ได้แต่งงานและมีลูกชายหนึ่งคน ครั้งสุดท้ายที่นิโคลัสพบนั้น เธอบอกกับเขา ว่ากำลังจะเปิดร้านตัดผม
ธุรกิจการค้ามนุษย์ยังคงเดินหน้าต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการค้าในรูปแบบใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการค้าข้ามชาติ การค้าข้ามพรมแดน หรือการค้าภายในประเทศ ต่างเป็นปัญหาที่บั่นทอนและทำลายความเป็นมนุษย์โดยมนุษย์ด้วยกันเอง ในหนังสือ Half the Sky มีกรณีศึกษาและวิธีการแก้ปัญหา ซึ่งอาจเป็นขั้นตอนหรือกระบวนการอีกวิธีการหนึ่งในการพยายามยุติหรือทุเลาปัญหานี้ให้บรรเทาเบาบางลง เพื่อให้การกลืนกินความเป็นมนุษย์ด้วยกันเองลดน้อยลงไปบ้าง
"ปัญหาที่เกิดขึ้น มันก้าวข้ามพรมแดนของศีลธรรมไปแล้ว และคุณจะมาคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆ ไม่ได้ คุณต้องหาทางหยุดมัน และคุณนี่แหละที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง และสั่นสะเทือนโลกได้" นิโคลัส คริสตอฟ กล่าว
โดย : นงค์ลักษณ์ เหล่าวอ
ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ 14 กันยายน 2553