Thailand's Creative Art & Design Community
Join PORTFOLIOS*NET
check out my page! www.facebook.com/DoubleOSethcollages
Dear all,my Facebook page : www.facebook.com/DoubleOSethnew email : sethapongbond@yahoo.com
Welcome toPORTFOLIOS*NET
Sign Upor Sign In
Or sign in with:
ART FOR HEALTH 2023 Mission Complete! “การ์ดสุขภาพเพื่อน้อง”
‘สดชื่นสถาน’ สถานีเติมความสดชื่นให้คนไร้บ้านโดยมูลนิธิกระจกเงา
อรุณี อธิภาพงศ์ ผู้ร่วมก่อตั้ง AriAround มุ่งสร้างสังคมแห่งความใจดีและอารีต่อกัน
WASTECARE เซรัมบำรุงผิวหน้าจาก ‘น้ำทิ้ง’ จากการย้อมผ้าด้วยครามที่ปลอดภัยไร้สารเคมี
Ghost Rivers โดย Bruce Willen คืนชีพสายน้ำที่สูญหายจากการพัฒนาเมือง
© 2009-2024 PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE. Powered by
Badges | Report an Issue | Terms of Service
Please check your browser settings or contact your system administrator.
Sethapong Povatong's Comments
Comment Wall (31 comments)
You need to be a member of PORTFOLIOS*NET to add comments!
Join PORTFOLIOS*NET
check out my page! www.facebook.com/DoubleOSethcollages
Dear all,
my Facebook page : www.facebook.com/DoubleOSeth
new email : sethapongbond@yahoo.com
The second one is duo exhibition with another collage artist, should be in December at a new gallerry on Silom.road. See you! :)
ชอบงานหลายชิ้น
“ผมชอบงานคอลลาจ เพราะคอลลาจสามารถสร้างเรื่องใหม่ที่ดูเหนือจริงได้ง่ายจากวัตถุดิบที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน การทำงานจะมีสองแบบเลยคือ มีโจทย์ก่อนแล้วทำภาพตามเรื่องที่คิดไว้ อีกอย่างคือการทำงานที่เริ่มต้นจากวัตถุดิบที่มี เอามาลองจัดลองแปะดู แล้วดูว่าเรื่องมันจะไปทางทิศทางไหน ผมไม่ได้ปฏิเสธการทำรูปแบบก่อนเนื้อหา เพราะถ้าเราไม่ลอง บางทีก็จะไม่รู้ว่าเรื่องจะเดินไปอย่างไรบ้าง ผมจึงเลือกนำวัตถุดิบที่มีมาแบ่งเป็นหมวดหมู่ ก่อนที่จะลองลงมือจัดวาง ก็จะเห็นว่าเรื่องราวจะไปทางไหนได้ต่อไป ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีเรื่องโดยสิ้นเชิง”
“แต่ไม่ว่าจะเป็นการทำงานแบบให้เรื่องนำรูป หรือรูปนำเรื่อง สุดท้ายแล้วผลงานของเขาก็จะออกมาในแบบที่มีน้ำหนักของเรื่องและรูปใกล้เคียงกันเสมอ ความแตกต่างในรายละเอียดของวิธีการสร้างงาน ส่งผลน้อยมากกับผลลัพธ์ของงานที่ออกมาในขั้นตอนสุดท้าย
นิทรรศการ Double O Seth 'Goldscissors' ซึ่งจัดที่ ArtGorillas ArtGallery เมื่อเดือนมีนาคม 2553 เป็นการรวบรวมผลงานล่าสุดของเขามาจัดแสดงรวมกัน โดยมีการจัดแบ่งภาพเป็นกลุ่มก้อนและหมวดหมู่อย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างบทสนทนาที่ไม่กระจัดกระจาย ระหว่างตัวผลงานและผู้ชม ซึ่งหมวดหมู่ที่ว่านี้ ศิลปินได้ทำการมาจัดแบ่งกันทีหลัง เพราะในขณะที่ทำงานศิลปิน ไม่ได้คิดที่จะกำหนดและจำแนกผลงานให้เป็นหมวดหมู่ไว้ก่อน หากแต่ เป็นหมวดหมู่ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเอง ซึ่งในแง่หนึ่ง ก็ทำให้เห็นถึงระเบียบความคิดและตัวตนของศิลปินที่มีอยู่ได้เป็นอย่างดี
“ใจจริงผมอยากให้คนใช้จินตนาการ กับงานที่ผมทำไว้ให้ดู ทั้งหมดผมไม่ได้มีเรื่องอยากจะเล่าที่ชัดเจน 100% แต่ผมอยากให้ความคิดแตกต่อออกไปจากที่เห็น คือผมทำงานไม่มีสเก็ตซ์ อาจจะเป็นเพราะความชำนาญด้วย และมันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของงานคอลลาจ ที่เราจะไม่รู้เลยว่าตอนจบของงานมันจะเป็นอย่างไร มันเป็นงานทำสด
“แทบทุกวันผมทำงานเวลากลางคืนหลังเลิกงาน ผมไม่ดูทีวี ฉะนั้นถ้าว่างผมก็ทำคอลลาจ มันเป็นงานอดิเรก คนอื่นอาจจะเลี้ยงปลา ต่อโมเดล แต่ผมทำงานคอลลาจ ผมทำจริงจังนะ จริงๆ การทำงานศิลปะไม่ใช่อาชีพของผม ผมมีอาชีพหลักคือทำหนังสือ แต่ก็อยากทำงานศิลปะไปให้ไกลกว่านี้ เพราะที่ทำอยู่ทุกวันนี้มันเป็นมากกว่างานอดิเรกแน่นอน”
จากนิตยสาร Fine Arts April 2010
เรื่อง : เอกชาติ ใจเพชร
ถ้าพูดถึงศิลปิน ภาพมายาคติในหัวของใครหลายคนคงเป็นภาพของชายหนุ่ม (หรือหญิงสาว) ผมยาวมาดเซอร์ แต่งองค์ทรงเครื่องด้วยชุดมอมแมมเปื้อนสี มือถือพู่กันและจานสี นั่งครุ่นคิดทำสายตาเหม่อลอยอยู่หน้าเฟรมผลงาน แต่กับ เศรษฐพงศ์ โพวาทอง ไม่ได้เป็นอย่างนั้นไปเสียทั้งหมด เพราะเขาคือหนุ่มร่างสันทัด มีทรงผมแบบสมัยนิยม แต่งกายค่อนไปทางเนี้ยบ จะมีคล้ายกับศิลปินแบบสเตริโอไทป์อยู่บ้างก็ตรงแววตากับท่าทีครุ่นคิด อ่อ แล้วในมือของเขาก็ไม่ได้มีจานสีและพู่กัน หากแต่กลับกลายเป็นกรรไกรและกาว
ดูจากผลงานที่ออกมาคงไม่มีใครเถียงว่า เศรษฐพงศ์ ไม่ใช่ศิลปิน เพียงแต่งานของเขาอาจจะไม่ใช่งานเพนท์ งานปั้นอย่างที่คุ้นเคยกัน แต่เขาเลือกที่จะใช้เทคนิคการ ตัด – ปะ – ติด หรือที่เรียกรวมๆ ว่า ‘คอลลาจ’ (collage) มาเป็นสะพานในการส่งผ่านเรื่องราวภายในออกไปสู่ผู้ชม
“ตอนเรียนอยู่ ผมจะทำงานเพนท์เป็นหลัก งานคอลลาจนี่เป็นงานรอง แต่มาถึงตอนนี้ ด้วยพื้นที่และเวลาที่มีอยู่ ปรากฏว่างานเพนท์มันไม่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเราแล้ว เลยเลือกที่จะทำงานคอลลาจแทน เพราะคอลลาจมันไวกว่า มันใช้วัตถุดิบที่สำเร็จรูป และลงตัวกับเวลาว่างของเรา”
เศรษฐพงศ์ โพวาทอง จบการศึกษาปริญญาตรีจากครุศาสตร์ จุฬาฯ ก่อนที่จะลัดฟ้าไปศึกษาต่อที่ St. Martins และ Chelsea College of Art & Design ผ่านการทำงานภาพประกอบ และยึดอาชีพทำนิตยสารเป็นงานหลัก อีกทั้งยังทำงานศิลปะที่ตนเองชอบควบคู่กันไป
ผลงานของ เศรษฐพงศ์ เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความป๊อป ทั้งนี้ส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากวัตถุดิบที่เขาเลือกนำมาใช้ มีความเป็นป๊อปอยู่ในตัวของมันเอง แต่กระนั้น ท่ามกลางกลิ่นป๊อปที่อวลอายอยู่ในผลงาน หากตั้งใจพินิจพิจารณา ก็จะรับรู้ได้ถึงความเป็นไทยที่แฝงตัวอยู่ และนั่นก็อาจนับได้ว่าเป็นลายมือของเศรษฐพงศ์ ที่ปรากฏอยู่ในผลงานของตน (ในความเห็นของผู้เขียน ลายมือเฉพาะตัวของผู้เขียนเป็นเครื่องจำแนกศิลปินออกจากคนชอบทำงานศิลปะได้ในระดับหนึ่ง) ถึงแม้ว่าผลงานเกือบทุกชิ้นของเขาจะมีเรื่องราวที่ไม่สื่อสารออกมาแบบตรงๆ แต่สไตล์ของเขาก็เป็นสิ่งที่โดดเด่นออกมาทดแทน
โดนสุดๆ
ชอบมากครับ
from Bangkok Post 19 March 2010
Defying description
Sometimes confusing, frequently hilarious, Sethapong's Povatong 's collages abound with cultural references.
www.bangkokpost.com/entertainment/art/34697/defying-description
มีปาร์ตี้วันปิดงานมั๊ยฮะ หะๆ
Welcome to
PORTFOLIOS*NET
Sign Up
or Sign In
Or sign in with:
Creative Citizen NEWS
ART FOR HEALTH 2023 Mission Complete! “การ์ดสุขภาพเพื่อน้อง”
‘สดชื่นสถาน’ สถานีเติมความสดชื่นให้คนไร้บ้านโดยมูลนิธิกระจกเงา
อรุณี อธิภาพงศ์ ผู้ร่วมก่อตั้ง AriAround มุ่งสร้างสังคมแห่งความใจดีและอารีต่อกัน
WASTECARE เซรัมบำรุงผิวหน้าจาก ‘น้ำทิ้ง’ จากการย้อมผ้าด้วยครามที่ปลอดภัยไร้สารเคมี
Ghost Rivers โดย Bruce Willen คืนชีพสายน้ำที่สูญหายจากการพัฒนาเมือง