คนที่มีความสุขมากที่สุดในโลก จาก Time Magazine

ที่มา http://letseetheworld.multiply.com/journal/item/21?mark_read=letseetheworld:journal:21
อ่านแล้วรู้สึกมีประโยชน์จนอยากบอกต่อ
**********************************************

หนังสือ time magazine บอกว่าที่อเมริกา ได้มีงานวิจัย พบว่า คนที่มีความสุขมากที่สุดในโลก ก็คือ พระในทางพุทธศาสนา โดยทดสอบด้วยการสแกนสมองของพระที่ ทำสมาธิ และได้ผลลัพธ์ ออกมาว่าเป็นจริง..

หลักความเชื่อของศาสนาพุทธ ก็คือ เหตุที่ทำให้เกิดความสุข นั้นก็คือ อยู่กับปัจจุบันขณะ ปล่อยวางได้ในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ควบคุมความอยากที่ไม่มีสิ้นสุด ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่ทะเลาะ และใช้หลัก เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ให้อภัย ตัวเอง และผู้อื่น มีจิตใจเมตตากรุณา และเสียสละเพื่อผู้อื่น

อริยะ สัจ 4 สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบและ บอกไว้ ว่าด้วย ทุกข์ สมุทัย มรรค นิโรธ แท้จริงแล้วก็คือ ทางเดินไปหาคำว่า " ความสุข " เพราะถ้าเมื่อไรเรากำจัด " ความทุกข์ " ได้แล้ว ความสุขก็จะเกิดขึ้นทันที

อุปสรรค ของความสุข ก็คือ แรงปรารถนา และตัณหา พระอาจารย์บอกว่า คนเราจะมีความสุขมันไม่มีขึ้นอยู่กับว่า " มีเท่าไร " แต่ขึ้นอยู่ที่ว่าเรา " พอเมื่อไร " ความสุขไม่ได้ขึ้นกับจำนวนสิ่งของที่เรามีหรือเราได้...

ท่าน สังเกตเอาจากชาวนาที่ จ อุบล ถ้าบ้านไหนมีควายไว้ช่วยทำนา 1 ตัว บ้านนั้นจะมีความสุข แต่เมื่อไร ที่ชาวนาคนไหนอยากจะได้ ควาย ตัวที่ 2 ปั๊ป ชาวนาคนนั้นจะไม่มีความสุข เลย

เพราะต้องเริ่มคิดว่าจะทำไงดี ถึงจะได้ควายอีกสักตัว เราก็เหมือนกัน เมื่อไรที่เรา อยากได้รถคันใหม่ อยากได้บ้านใหม่ อยากไปเที่ยว ฯลฯ เราจะเริ่มเป็นทุกข์ เพราะเราต้อง คิดหาทางที่จะเอามันมาให้ได้ มาเป็นของเรา..

ดังนั้นวิธีจะมีความ สุข อันดับแรก ต้อง " หยุดให้เป็น และพอใจให้ได้ " ถ้าเราไม่หยุดความอยาก(ที่มากเกินไป) ของเราแล้วละก็ เราก็จะต้องวิ่งไล่ตาม หลายสิ่งที่เรา " อยากได้ " แล้วนั่นมัน เหนื่อย!!!และความทุกข์ ก็จะตามมา...

ข้อต่อมาที่ทำให้เราเป็นสุข คือ การมองทุกอย่างใน แง่บวก เมื่อเสร็จงานแล้วกลับถึงบ้าน คนที่บ้านถามว่า วันนี้เป็นไงบ้าง ? ส่วนใหญ่เราจะตอบว่า " โดนบอสด่ามา วุ่นวาย ลูกค้า งี่เง่า ฯลฯ " ทำไมเราถึงชอบคิดถึงแต่เรืองไม่ดี

ใน ชีวิตแต่ละวัน แน่นอน เราต้องเจอทั้งเรื่องดี และไม่ดี แต่ถ้าเราอยากจะมีความสุขเราต้องเริ่ม ด้วยการมองแต่สิ่งดีๆ มองให้เป็นบวก เพื่อที่ใจเราจะได้เป็นบวก คิดถึงสิ่งที่เราทำสำเร็จแล้วในวันนี้ สิ่งดีๆที่เราได้ทำ....

ข้อต่อมาคือ การให้ หมายรวมถึงการให้ในรูปแบบสิ่งของหรือ เงิน เรียกว่าบริจาค และการให้ ความเมตตา กรุณาต่อกัน ให้อภัย ทั้งตัวเอง และคนอื่น สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ เป็นปัจจัย ทำให้เรามีความสุข....

การ ปล่อยวาง ให้ได้ ในทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว และที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าเรื่องจะร้ายแรงและเศร้าโศกเพียงใด จำไว้ว่า มันจะโดน เวลา พัดพามันไปจากเราไม่ช้าก็เร็ว เราจะผ่านพ้นไปได้....

และยอมรับใน ความเป็นจริงของชีวิต ไม่ว่า จะเป็นเรื่องที่เราไม่ชอบเพียงใด ไม่ว่า ผิดหวัง สูญเสีย เจ็บป่วยล้วนแล้วแต่ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา เราทุกคนต้องได้ผ่าน บททดสอบนี้ทั้งสิ้น ไม่ว่าเราจะเป็นใคร...

ขอให้เรารักษาใจเราให้เป็นสุข อยู่เสมอ เพราะความสุข มันอยู่ใกล้แค่นี้เอง แค่ที่ ใจของเรา นี่เองแหละ...

Views: 239

Comments are closed for this blog post

Comment by Mooh on July 13, 2009 at 1:19pm
อ่านกันหรือยังคะ?
Comment by Narin on July 13, 2009 at 12:07pm
คุณเจย์นี่ แหมมาเนียน เป็นสาวในบ้านนี้ด้วย 5555
Comment by Mooh on July 13, 2009 at 11:49am
ถ้าของชั้นจะข้าม ๆ การประชุมไปมั่งก็คงจะดี
Comment by Krit Wongworaphan on July 13, 2009 at 11:42am
ขอบพระคุณ คุณหมูด้วยค่ะ ที่นำเรื่องราวๆ ดีๆ มีสาระมาแบ่งบัน

ปล. วันนี้มีประชุมเป็นครั้งที่ 1 ในรอบปี กรั๊กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
Comment by Mooh on July 13, 2009 at 10:41am
เจ้าของ blog เขียนดี รูปสวย ตามไปดูได้ที่บ้านเค้าเลย
ขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

© 2009-2024   PORTFOLIOS*NET by CreativeMOVE.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service